20 พฤศจิกายน 2551 00:15 น.
เงาแสง
บางเวลา บางสิ่งบางอย่างของชีวิต เราไม่เคยที่จะพิจารณาว่าเราต้องการอะไร ไม่เคยพิจารณาว่าตัวเราเป็นอย่างไร สิ่งที่ฝังลึกในก้นบึ้งของหัวใจได้นำพาเราไปหาหนทางแห่งความสุขหรือเศร้าโดยที่เราไม่รู้ตัว
สำหรับผู้ชายคนหนึ่งเขาได้เดินเพียงลำพังเพื่อคนหาความหมายของการเดินไปข้างหน้า เขาผู้นี้เลือกที่จะอยู่ กิน นอน เพียงคนเดียวเพื่อมองหาตัวเอง
นับเป็นเวลา 8 ปี ที่เขาผู้นี้ใช้ชีวิตโดยปราศจากคำว่าบ้าน ครอบครัว ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของครอบครัว พ่อหรือแม่ แต่นี่คือความเชื่อใจของคนที่รักเขา เขาเป็นผู้ที่เอ๋ยปากของสิ่งนี้จากครอบครัวของเขาเอง
เขาได้พบว่าชีวิตไม่ใช่เรื่องง่ายเลย การมีเรื่องทุกข์แล้วอยู่ลำพัง การร้องไห้แล้วไม่มีอ้อมกอดของพ่อแม่ที่เรารัก หลายอย่างทำให้เขาสับสน สิ่งเดียวที่
ยึดถือคือ สิ่งที่เรียกว่าความเชื่อมั่นจากคนที่รักเขา เมื่อหลายอย่างเริ่มมากระทบ ชีวิตเริ่มเปลี่ยน เขาผู้นั้นเริ่มกลายเป็นคนสองมิติ กลางวันและกลางคืน มืดและสว่าง สิ่งเดียวที่เขาต่างจากคนอื่นคือ การเลือกที่จะทำทุกอย่างตามสิ่งที่เขาคิดโดยไม่มีคำว่าท้อหรือเหน็ดเหนื่อย ทุกเช้าเขาจะตื่นจากเตียง ลุกขึ้นเป็นเด็กผู้มีความมุ่งมั่น ในสายตาของผู้มองเห็นเขาเป็นเด็กที่ตั้งใจเรียนมาก อ่านหนังสือตลอดเวลา ทำงานทุกอย่างตามมอบหมาย แต่เมื่อถึงตอนเย็นทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปสิ่งแรกเมื่อกลับมาถึงห้องคือการหยิบมวนบุหรี่ขึ้นมาสูบและหนักขึ้นทุกวัน กินเหล้า บางคืนเขาผู้นี่จะออกไปเดินตามถนนเพียงลำพัง ในโลกที่ปราศจากผู้คน มีเพียงเขาและสถานที่เงียบสงัด เขาผู้นี้ไม่เคยนำกลางวันและกลางคืนมาเกี่ยวกัน เหมือนเป็นคนละคนที่เมื่อคนหนึ่งตื่นอีกคนจะเริ่มหลับ แม้ร่างกายของเขาจะเหนื่อยเหลือเกิน
เมื่อเวลานานเข้าความเหงาทวีความรุนแรงสิ่งที่เขาเริ่มต้องการคือคนที่อยู่เคียงข้าง แล้วด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้คนผู้นี่ไม่เคยหลีกหนีจากความทุกข์ได้อีกเลย
เขาเริ่มคุยกับผู้หญิงมากขึ้นเรื่อยๆ และได้พบกับผู้หญิงผู้หนึ่ง คนสองคนมีอะไรหลายอย่างที่เหมือนกัน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่มากขึ้น จนยากที่จะแยกจากกัน แต่แล้วเขาผู้นี้ต้องเป็นคนที่ทิ้งผู้หญิงผู้นี่ไปเอง นี่คือความเสียใจมากที่สุดในชีวิต เขารู้เสมอว่าตัวเองรักผู้หญิงคนนี้ และเธอก็เช่นกัน นี่คือสิ่งที่ฝังในหัวใจเขาเสมอมา ที่ต้องยอมให้คนที่ตัวเองรักได้พบกับสิ่งที่ดีกว่า ถึงแม้ผู้หญิงผู้นั่นจะไม่ต้องการเลยแม้แต่นิดเดียว
จากเหตุการณ์นี้เขาผู้นี่ไม่เคยเชื่อใจและไว้ใจตัวเองอีกเลย เขาพยายามหลีกหนีจากความผิดที่ฝังลึกในจิตใจ สิ่งนี่กลายเป็นปมในใจของชายผู้นี่ตลอดมา
เวลานานเข้าความรู้สึกนี้เริ่มจางหายแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความอ่อนแอโดยไม่รู้ตัว ณ เวลานี้ เขามีคนรู้ใจ เขาทำทุกอย่างเพื่อเธอ แต่สิ่งที่มักเกิดขึ้นคือการทะเลาะกันหลายต่อหลายครั้ง เพียงเพราะความหวาดระแวง เขาทำลายผู้หญิงผู้นี้ทีละน้อย เขาไม่เชื่อตัวเองและมันกำลังทำให้เขาไม่เชื่อใจใครอีกเลย สิ่งแปลกๆเริ่มเกิดในชีวิต ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน เขามักตามหาสิ่งที่ขาดจากหญิงคนอื่น จนถึงเวลานี้เรื่องนี้ยังเกิดขึ้นซ้ำๆ เขามักเจอผู้หญิงคนใหม่โดยบังเอิญทุกครั้ง คนใหม่ที่มีสิ่งที่ขาดในตัวเขา
เขาผู้นี่ควบคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไป ทุกอย่างแย่ลงทุกวัน เขาเริ่มแตกต่างจากคนทั่วไป เขาเริ่มตัดคนรอบกายทีละคน ทีละคน เหมือนคนบ้า แต่เขาไม่อาจทิ้งผู้หญิงคนนี้ไปได้อีก
วันนี้ทุกสิ่งแย่ แต่จากความแตกต่าง แปดปีแห่งความวกวน เขาไม่เคยหยุดตามหาหนทางของชีวิต มันเป็นเวลาที่นานมาก สุดท้ายเขาล้มทั้งยืน สิ่งเดียวที่เกิดขึ้นมาในใจของชายผู้นี้คือ คำพูดของพ่อและแม่เมื่อแปดปีก่อน " ชีวิตเป็นของลูก ลูกเลือกเอง พ่อแม่เชื่อเสมอว่าลูกคิดดี ทำดี จำไว้นะชีวิตจะไม่มีคำว่าแพ้
หากเราไม่เป็นคนที่ยอมแพ้มันเอง" เขาร้องไห้ เขาเสียใจกับสิ่งที่ทำกับคนที่เขารัก เขาทำให้เธอต้องเสียน้ำตา เพียงเพราะอดีตของตัวเอง เขาไม่เคยให้
ความไว้ใจกับผู้หญิงคนนี้เลย เขารุกขึ้นแล้วหัวเราะทั้งน้ำตา " พอกันทีนี่เหรอปัญหา ที่แท้ปัญหาไม่ใช่ของเรา แต่เราต่างหากที่เป็นคนของปัญหา"
จากวันนั้ชีวิตเขาเปลี่ยน เขาค้นพบสิ่งที่ตามหามาตลอด บทเรียนที่แสนสาหัส
นี่คือความทุกข์ทรมานที่เขาต่อสู้เพียงลำพังมาโดยตลอด ไม่มีใครเคยรู้ ถึงตัวตนของเขา
สุดท้ายนี้ถึงเวลาสร้างสิ่งใหม่ เริ่มจากความไว้ใจในตนเอง และคนที่เรารัก
เขาจะไม่ทำให้ต้องมีใครเสียใจ จากความอ่อนแอแบบนี้อีก
โอบกอดคนที่คุณรักไว้ เชื่อมั่นและไว้ใจ อย่าทำลายคนที่รักคุณจากความไม่ไว้ใจของคุณเอง หยุดเติมสิ่งที่ขาด ดูแลสิ่งที่มีให้ดีที่สุด อย่างให้ก้นบึ้งในหัวใจทำร้ายผู้อื่นอีกเลย
15 สิงหาคม 2551 02:18 น.
เงาแสง
แต่ละวัน แต่ละคืน ชีวิตหมุนเวียนเหมือนนาฬิกาที่ไม่หยุดหมุน หลายครั้ง
ที่ลุกขึ้นจากเตียง และยังจำได้กับอดีตที่ผ่านพ้น หลายคนบอกว่าการเวลาไม่เคยรอใคร แต่สำหรับบางคนกาลเวลาได้หยุดอยู่กับที่ ตอกย้ำวันวานที่เหนื่อยล้า
และเจ็บปวด จะทำอย่างไรถ้าความทรงจำบางเรื่องไม่เคยลบเลือน
และเราไม่อาจจะพูดออกมา
เป็นเวลายาวนานที่เดินเพียงลำพัง เรียนรู้บทเรียนของชีวิตที่แสนทรมาน
ทำไมกับบางคนความผิดที่เคยทำกับผู้อื่นกับเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่กับอีกคน
กลับกลายเป็นบาดแผลแค่ความผิดเพียงครั้ง สิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้จากความเจ็บปวด คือความอดทน
อดทนต่ออะไร เราทุกคนต้องเดินไปข้างหน้าเหมือนคนอื่น โดยที่ต้องเปลียน
พื้นหลังของบุคลิกเพื่อมุ่งมั่นต่อจุดมุ่งหมายข้างหน้า ถ้าเราไม่สามารถยืนหยัดต่อหลายสิ่งที่มากระทบ เราคงถูกทำลายจากอดีตและอนาคต สิ่งที่อยากจะพูดถึงนี้
คือสิ่งที่เราควรจดจำว่า"อดีตไม่เคยนำพาเราเดินไปข้างอย่างเข้มแข็ง
แต่ความเข้าใจในอดีตจะนำพาสู่สิ่งที่มุ่งหวังอย่างกล้าหาญ"
ผมเป็นอีกคนที่ไม่สามารถจะลืมสิ่งที่ตนเองผิดพลาด หลายครั้งเรารู้ว่าการแบก
ความทุกข์ไว้ไม่ใช้หนทางที่เราจะมีความสุข เหมือนเราเป็นคนบ้า คนส่วนมากมักบอกว่าเราต้องรู้จักทำชีวิตให้มีความสุข โดยการอย่าไตร่ตรองความทุกข์ที่เคยเกิดขึ้น แต่ผมเป็นคนหนึ่งที่มองสวนทาง ชีวิตผมอาจจะไม่ได้มีความสุข
แต่ผมไม่อาจโกหกตัวเอง สิ่งที่ทำคือการอยู่กับความทุกข์ให้ได้ เพราะสำหรับผม
ความทุกข์หรือความสุขต่างกันที่ใด ในเมื่อเราก็หัวเราะได้เวลาทุกข์ และบาง
ครั้งดีใจก็ร้องไห้ แปลกที่คนเรากับยึดติดกับคำเหล่านี้ สุขหรือทุกข์
ตลอดเวลาที่ผ่านมาเป็นเวลาหลายปีที่ผมไม่ได้เขียนบทความ
ผมได้ค้นพบหลายอย่างที่ขาดหาย ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า ชีวิตไม่มีอะไรเลย
อดีตที่ทำผิดก็คือผิด อย่างหลงลืมว่าเราผิดถึงจะเจ็บปวดเพราะนั้นคือชีวิต
ของเรา รักษาและยืดหยัดในความเชื่อมั่นในตัวเอง เชื่อว่าเราจะทำ
ความดีขึ้นมาใหม่ "หลายครั้งที่หลงทาง ทุกด้านมืดสนิท ลองหลับตาแล้วจะรู้ว่า
นี่แหละเรื่องธรรมดา จงกล้าลืมตาและลุกจากเตียง"
14 สิงหาคม 2549 10:19 น.
เงาแสง
ทุกอย่างกับสิ่งที่ผ่านพ้นมาในชีวิต เหมือนเพียงจินตนาการที่ถูกแต่งเติมให้สวยงาม แต่แล้วความเป็นจริงกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
ที่ทุกอย่างกับสลายไปกับความมืดมน เพียงเพราะความฝันที่วาดไว้สวยงามเกินกว่าความจริง
โลกมี่สวยงาม โลกที่สดใส มีผู้คนเคียงข้างมากมาย มีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะให้กับคนรอบข้าง บางทีกลายเป็นเพียง
สิ่งรอบกายที่ยังไม่เคยเข้าไปชโลมจิตใจที่เงียบเหงา ความผิดหวัง ความโศกเศร้าภายในยังคงตราตรึงไม่อาจลืมเลือน เหมือนรอวันที่
จะรอคนเข้ามาสมานความเจ็บปวด ความทุกข์ที่ยิ่งก่อตัวหนาขึ้นทุกวันในใจ หนาขึ้นทุกวันทุกวัน วันที่เคยสวยงามกับจางหายไป
เหลือเพียงหยดน้ำตาที่หลั่งไหลเพียงลำพัง ความฝันตอนนี้ยังคงดำเนินต่อไป เปลี่ยนจากฝันที่งดงาม กลายเป็นฝันที่เกิดจากการรอคอย
เธอคนนั้นเดินทางเข้ามาในชีวิตจริงๆ หรือเธอจะหายไปเมื่อเราลืมตามองฟ้ายามแสงอาทิตย์ขึ้น
หากความฝันยังคงเป็นเส้นขนานกับความจริง เมื่อไรเราจะได้มาบรรจบกัน หากความฝันเป็นเพียงภาพลวงตา
เธอคงจะจากเราไปกับสายลม เราเป็นเพียงคนที่เดินบนเส้นขนานไม่อาจเรียกร้องสิ่งใดๆ ไม่อาจเรียกร้องความเมตตาจากฝากฟ้า
ให้ส่งเธอลงมาเคียงข้างเรา
เราควรยืนอยู่ที่ใด เพื่อรอเธอเข้ามากุมมือสองมือนี้ไว้ และอย่าทอดทิ้งมันไปอยู่นอกสายตา หากเส้นทางของเธอยังอยู่อีกแสนไกล
แต่เส้นทางของเรากับหนังสือที่รอคนเปิดอ่าน หนังสือเล่มนี้จะยังรอเธอ รอที่จะให้เธอหวนกลับมามอง และลองพิจารณา เพื่อให้หนังสือเล่มนี้
เข้าไปอยู่ในใจของเธอ ให้เธอเป็นดังเส้นตัดระหว่างเส้นขนานสองเส้นให้มาบรรจบกัน ผสานระหว่างความฝันและความจริง
จะรอเธออยู่ในฝัน
รอวันที่เธอเดินเข้ามา
กุมมือคู่นี้ทุกเวลา
ให้รักเธอเข้ามาประคองใจ
ต่อจากนี้จะขออยู่เคียงข้าง
เธอที่รักคนนี้ไม่ไปไหน
ขอแค่เธอคนนี้จงมั่นใจ
ว่ารักเราจะกลายเป็นความจริง
25 ตุลาคม 2547 12:17 น.
เงาแสง
หากคุณมีคนที่คุณรักสักคน คุณจะยอมทำทุกอย่างเท่าที่คุณจะทำได้เพื่อที่เค้าจะมีความสุขใช่มั้ย
แต่คุณรู้วิธีที่จะทำหรือไม่ และคุณแน่ใจมั้ยว่าคนคนนั้นจะเข้าใจสิ่งที่คุณต้องการจะทำ และคุณเองก็อาจจะเคยทะเลาะ
กับคนที่คุณรักเพราะว่าคุณไม่เข้าใจสิ่งที่เค้าต้องการจะทำ และคุณจะรู้สึกเหนื่อยล้าบ้างมั้ย ถ้าคนคนนั้นเข้าใจคุณผิด
และเป็นเพราะอะไรสิ่งเหล่านี้มันชั่งดูแสนยากเหลือเกิน คงเป็นเพราะคนเราไม่สามารถจะสื่อสารกันได้ด้วยหัวใจและ
ความปรารถนาที่แท้จริง หรือไม่ก็เพราะจิตใจของคนเลวร้ายลงจนความน่าเชื่อถือเหลือไม่เพียงพอที่คนจะไว้ใจ
และเข้าใจซึ่งกันและกัน
"เราเป็นห่วงนะ" คำนี้มักจะออกจากปากของผู้ชายคนหนึ่งที่มีต่อเธอคนที่เค้ารัก
แต่ เค้ากลับเคยถูกมองว่าเป็นคำพูดเล่น เป็นคำพูดที่เธอได้ยินจนเธอรำคาญ เป็นคำพูดซึ่งเธอคิดว่าเค้าหลอกเธอ
อาจจะจริง คนทุกคนไม่ได้จริงใจกับเธอ และเธอรู้ได้ยังไงว่าจะไม่มีคนคนนั้น..
"คิดถึงนะ" คำนี้เรามักจะพูดกับคนที่เราอยากจะอยู่ใกล้ชิดกับเค้าตลอดเวลา
แต่ มันเคยกับถูกมองว่าเป็นคำพูดที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือคนที่พูดกับถูกมองว่าเป็นคนหลายใจและไม่น่าไว้ใจ
อาจจะจริง คำคำนี้อาจเคยทำร้ายคนหลายคน แต่คงไม่ใช่กับทุกคน..
"ผมรักคุณนะ" คำคำนี้เป็นคำที่แสนจะยิ่งใหญ่เหลือเกิน เป็นคำที่คนเราแตกต่างกว่าทุกสิ่งอยู่จนถึงบัดนี้ แต่ปัจจุบัน
คำนี้ได้เหลือน้อยลงไปเต็มที เรากำลังจะกลับกลายลงไปเป็นสิ่งที่ไร้หัวใจ การปลูกฝังที่ผิดกำลัง
จะทำให้เกิดสังคมที่พวกเราไม่อยากจะนึกภาพ และมันคงอยากที่จะแก้ไข หากไม่มีใครตระหนัก
และเริ่มที่เป็นผู้เสียสละ "รัก" เราคงเคยพูดกับใครสักคนที่เรารู้สึกพิเศษ และหากไม่เคย
คุยควรที่จะพูดคำนี้ด้วยความจริงใจ เพราะชีวิตบอบบางมากกว่าที่คุณคิดและจะเข้าใจ
แต่คำนี้ในปัจจุบันกำลังกลายเป็นคำหลอกลวงที่ร้ายแรงเหลือเกิน เรากำลังทำร้ายอารยธรรมของตนเอง
อาจจะจริงอยู่คำนี้เหลือน้อยลง และแทบจะไม่เหลือความรักที่บริสุทธิ์ แต่ผมเชื่อว่ายังมีคนที่เชื่อในความรัก
ถึงแม้ว่าเค้าอาจจะดูแตกต่างกว่าสิ่งแวดล้อม แต่หากเค้ากล้าที่จะทำ เค้าจะเป็นคนหนึ่งที่เก็บความเป็นมนุษย์เอาไว้
สังคมในปัจจุบันเลวร้ายลงมากขึ้นทุกวัน ความจริงใจและความเชื่อใจก็เหลือน้อยลง แต่หากคุณเริ่มสร้างสิ่งเหล่านั้นที่ตัวคุณ
และกล้าที่จะเผชิญกับความเหงาเพราะคุณอาจดูโดดเดี่ยว คุณต้องยอมรับกับความผิดหวังที่คนอื่นจะส่งกลับมากับคุณแน่นอน มันไม่ชั้ยความผิด
ของคนเหล่านั้นตราบใดที่ความไม่จริงใจยังมีเกลื่อนตามท้องถนน แต่หากคุณไม่ยอมแพ้สักวันต้องมีคนที่เค้าใจ และคุณจะทำให้วามจริงใจและไว้ใจกลับมาอีกครั้ง
และผมอยากจะบอกเป็นสิ่งสุดท้ายว่า" ถึงปัจจุบันจะเป็นอย่างไร แต่ก็ยังเหลือคนที่จริงใจ เราต้องช่วยให้กำลังใจพวกเค้า อย่าทำให้เค้าดูโดดเดี่ยวและ
อ่อนล้า อย่าลืมที่จะใช้หัวใจของคุณในการที่จะศึกษาคนดังที่เค้าเป็นไม่ใช่เพียงที่เค้าแสดง เพราะการสื่อของทุกคนไม่อาจบ่งบอกความเป็นไปได้สมบูรณ์เท่ากับ
"หัวใจและความรู้สึกที่อยู่ข้างใน"
23 ตุลาคม 2547 19:57 น.
เงาแสง
มีหลายต่อหลายครั้งที่ผู้คนต่างวิ่งวุ่นเหมือนวิญญาณที่ไร้จุดหมาย เหมือนสิ่งที่ล่องลอยเพียง
ให้ได้มาซึ่งสะพานที่จะทอดยาวไปสู่จุดหมายอันแสนไกลหรืออาจจะกล่าวได้ว่าอยู่ที่ใด ต่างคนต่างหาสิ่งที่จะมาเชื่อมสะพาน
ของตนให้สำเร็จทำไปโดยที่ไม่รู้ว่าจะต้องทำถึงเมื่อไร นานขนาดไหน หรือว่าจะมีวันสำเร็จหรือไม่
แล้วยิ่งบนโลกใบนี้ต่างเหมือนถูกกำหนดให้อยู่ใต้การกำหนดของเวลา เวลาที่ไม่รู้จักหยุดนิ่ง
ให้คนที่มีชีวิตจิตใจอย่างเราได้พักเหนื่อยเอนกายลงนอนยามที่เหนื่อยล้า ท้อแท้ สิ้นหวังจากการตามหา
จุดมุ่งหมายเล็กๆนี้เอง บางคนเหนื่อยล้าและสิ้นหวังจนไม่สามรถที่จะลุกเดินต่อไปยังจุดมุ่งหมายเหล่านั้น
ได้ บางคนก็ยอมที่จะปล่อยให้เวลาเดินนำตัวเองไปเพื่อเฝ้ารอพลังที่จะนำพาชีวิตของตนออกมาจาก
ความมืดมิด บางครั้งเค้าก็รอใครบางคนที่จะมาจับมือและนำทางเค้าบ้าง เพราะคงไม่มีผู้ใดต้องการ
ที่จะต่อสู้กับเวลาและความมืดมนเพียงลำพังผู้เดียวตลอดเวลา แต่เป็นเพียงเพราะไม่มีผู้ใดมาอยู่เคียงกาย และคอยให้ความรัก
ความเข้าใจเองต่างหาก เค้าเหล่านี้จะต้องรออีกนานสักเท่าไหร่ จะมีวันนั้นมั้ย เค้าเหล่านี้อาจจะต้องยอมทิ้ง
จุดหมายของตนเหมือนผู้ที่หมดหวังไปแล้วก็ได้ จะมีสักกี่คนที่จะสามารถผจญกับสิ่งต่างๆนานา กว่าที่ตนจะไปถึง
จุดหมายที่ตั้งไว้เพียงลำพัง
เราทุกคนที่อยู่บนโลกนี้ต่างก็คงรู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนกำลังกับเวลาอันน้อยนิดของหนึ่งชีวิต
ที่ต้องทำสิ่งต่างๆมากมาย สิ่งมากมายเหล่านี้เองคือจุดเล็กๆที่มีความสำคัญกับจิตใจของเรามากเหลือเกิน
และจุดเล็กๆ เหล่านี้ละ ทำเราทำไปเพื่อะไร หลายคนคงมองกลับมาและหาคำตอบเหมือนกับผู้ที่หลงทาง
และกำลังกางแผนที่เพื่อไปหาจุดมุ่งหมายที่อาจมีคนกำลังนั่งรอเราอยู่ข้างหน้า บางทีจุดเล็กๆนี่ก็คง
ไม่ต่างกัน เราคงไม่ได้ทำไปเพื่อตัวของเราเองมากเท่าไร หรือถ้าคิดเช่นนั้น จุดเล็กๆจุดนั้นคุณ
ให้ความสำคัญกับมันมากไปหรือเปล่า คุณจะเสียเวลามากมาย ทำให้ตัวเองเหนื่อยล้าเพียงเพื่อตัวคุณเอง
ในอนาคตที่ยังมองไม่เห็น แล้วถ้าคุณไม่เจอละจะเป็นยังไง จงตั้งจุดมุ่งหมายจุดเล็กนั้นๆ เหมือนคนที่
คุณกำลังจะเดินทางไปหา คนที่กำลังรอคอยคุณ คนที่มีความหวังในตัวคุณ เค้าคนนั้นจะรู้สึกอย่างไรเมื่อคุณไปถึง
และคุณละจะเป็นอย่างไร ก็คงหายเหนื่อยล้ากับเวลาที่เสียไป เพราะอย่างน้อยคุณก็ได้รู้จักคำว่า "ทำเพื่อใคร" มากกว่า "ทำไปเพื่ออะไร"