28 เมษายน 2547 16:04 น.
เกียรติ กรัชกาย
ริ้วรอยฝอยฟองละอองคลื่น
ราบรื่นโลดลิ่วปลิวไสว
สาดซัดพัดผ่านวันวารวัย
หัวใจแตกร้าวเหมือนเงาลวง
สายลมโหมพัดสะบัดพลิ้ว
เฉื่อยฉิวผิวกายคล้ายเมืองสรวง
เย็บวูบลูบผ่านวันดับดวง
ทั้งปวงล่วงลับดับเหมือนกัน
สำนึกตรึกตรองของดวงจิต
ผ่านชีวิตคิดอ่านของวันฝัน
ไขว่คว้าเคว้งคว้างสารพัน
แล้วฝันก็ขมขื่นเมื่อตื่นนอน
หวังใดในโลกที่โศกเศร้า
จะเอาสิ่งไหนมาไถ่ถอน
ทับถมเถ้าฝุ่นหนุนกองฟอน
ดุจอาวรณ์อาลัยในมายา
ภายนอกหลอกลวงดั่งห้วงเหว
ถ้าภายในแหลกเหลวก็ไร้ค่า
ภายนอกไม่จริงจังดังผ่านมา
เหลือเวลาสร้างค่าในหัวใจตน.
28 เมษายน 2547 15:30 น.
เกียรติ กรัชกาย
กี่หนาวที่หนาวเหน็บ
กับกี่เจ็บที่เหน็บหนาว
กี่ปวดที่รวดร้าว
และกี่หนาวที่เรารอ
กี่คืนกี่ตะวัน
กี่ดวงจันทร์ที่ทาบทอ
กี่ทนกี่ทดท้อ
กับกี่ถอยที่ร้อยพัน
กี่วันที่ฝันใฝ่
กับกี่ใจที่ใฝ่ฝัน
กี่ล้มกี่ลุกกัน
จะถึงฝันที่เฝ้ารอ .....
27 เมษายน 2547 14:30 น.
เกียรติ กรัชกาย
มีความหวังไว้เพียงเพื่อจะผิดหวัง
มีหัวใจไว้พังเมื่อหวังพ่าย
มีชีวิตไว้รองรับกับความตาย
มีความหมายที่ว่างเปล่า เป็นเงาลวง.............