7 ตุลาคม 2547 17:23 น.
เกร็ดดาว
ณ ริมฝั่งขอบฟากฝั่งถนน
หลากผู้คนยวดยานวิ่งพ้นผ่าน
บางคนก็ก้าวเดินบ้างวิ่งตาม
หากไถ่ถามคงมิมีคำตอบมา...
ฉันเหลียวมองหาคนที่เดินคู่
น้องเดินอยู่ตามหลังมาอ่อนร้า
แวะเที่ยวสวนจตุจักรชมสินค้า
หากราคาแพงไปมิกล้ามอง...
ของถูกตาต้องใจได้ดั่งจิต
พอเสร็จกิจเดินกลับมารอน้อง
เผอิญหันเหลียวไปคนเมียงมอง
เค้ายืนจ้องลุงหมอแคนใต้ร่มเงา...
ลุงท่านกล่อมบรรเลงบทเพลงแว่ว
เสียงแจ๋วแหว๋วของแคนไม่อับเฉา
เพิ่มจังหวะเร้าเร่งและแผ่วเบา
ปลุกเร่งเร้านึกถึงบ้านที่จากไกล...
เอื้อมมือหยิบเหรียญห้าให้คนใกล้
น้องเดินไปหย่อนหมวกให้ที่ใต้เท้า
หมวกผืนผ้ารองรับเหรียญหนักเบา
ลุงก็เป่ายิ่งเร่งเร้าเสียงดนตรี...
หนุ่มสาวคู่ข้างข้างเค้าหันจ้อง
ยิ้มแลมองสบตาจนตาหยี
แล้วผู้สาวก็หยิบเหรียญที่เธอมี
หย่อนลงที่หมวกใบนั้นพร้อมยิ้มพราว...
....ในวันที่เดินเที่ยวและได้เห็นความสวยงามของการแบ่งปัน สีสันที่แต่งแต้มในเมืองศิวิไล ทำให้ใจรู้สึกอบอุ่น...
...อาจจะไม่เพราะต้องขออภัย มือใหม่หัดแต่ง...
6 ตุลาคม 2547 18:55 น.
เกร็ดดาว
อาจเป็นดั่งเช่นเส้นทางที่ผันผ่าน
เป็นตำนานความฝันของฝั่งฝัน
คือห้วงหนท้องท่วงคำรำพัน
ที่จำนรรสรรสร้างมาพร่างพรู...
ณ วันนี้เดินอยู่หรือหยุดนิ่ง
อาจไหวติงเงียบงันด้วยฝันอยู่
หรือสั่นไหวด้วยมิรู้ยอดพธู
แท้เธออยู่ในฝันในบางคน...
...ที่ซอกซอนซ่อนเงื่อน ให้ช้ำตรม...
ยื่นความขมชอกช้ำระกำใจ...