10 สิงหาคม 2558 16:45 น.

โทร หาแม่หน่อยไหม

อ.วรศิลป์

" โทรฯ หาแม่หน่อยไหม "
ประโยคน่าประทับใจจากโฆษณาทีวีชิ้นหนึ่ง
ที่นำความผูกพันระหว่างแม่กับลูกมาเป็นจุดขาย
เพื่อสอดรับกับช่วงเวลาการเฉลิมฉลองวันแม่ที่ใกล้มาถึง
" โทรฯ หาแม่หน่อยไหม ? "
ผูกเรื่องราวจากความไม่เข้าใจระหว่างแม่กับลูก
จนลูกเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าแล้วออกจากบ้าน
ผู้เป็นแม่เฝ้าตามหาด้วยความทุกข์ใจยิ่งนัก
จนกระทั่งมาพบกับแม่ค้าขายอาหาร
ซึ่งถึอเป็นตัวละครที่มีส่วนทำให้เรื่องราวจบลงด้วยดี
" โทรฯ หาแม่หน่อยไหม ? "
ประโยคนี้ คุณป้าที่ขายอาหารเป็นผู้เอ่ยถามน้องพลอย
ลูกที่หนีออกจากบ้าน
ในขณะที่ภาพเก่า ๆ ที่แสดงถึงความรักและห่วงใยของแม่
ผุดขึ้นในความทรงจำมากมาย
หยาดน้ำตาของน้องพลอยไหลอาบแก้ม
เป็นหยาดน้ำตาของความเสียใจและสำนึกผิด
จนกระทั่งน้องพลอยหยิบโทรศัพท์เพื่อติดต่อกับแม่
ซึ่งช่องว่างของเวลาขณะฟังเสียงเรียกสาย
ชวนให้อึดอัดและตอกย้ำความรู้สึกยิ่งนัก
" โทรฯ หาแม่หน่อยไหม ? "
ข้อความนี้จบลงด้วยภาพน่าประทับใจของน้อยพลอยในวัยเด็ก
กับการพูดคำว่า " แม่ " ที่แสนจะน่ารัก
ซึ่งแม่ของน้องพลอยก็ยิ้มอย่างเปี่ยมสุข
.......................
" โทรฯ หาแม่หน่อยไหม ? "
ทุกวันนี้ ฉันยังอยากโทรฯ หาแม่ อยากโทรฯ ทุกวัน
แต่ฉันติดต่อแม่ไม่ได้เลย
โลกที่แม่อยู่ตอนนี้ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
มีแต่สัญญาณ " โทรจิต "
อยากบอกแม่ว่า " คิดถึงนะครับ "
				
10 สิงหาคม 2558 16:42 น.

หัวใจใสซื่อ

อ.วรศิลป์

คุณครูกำลังสอนศิษย์ตัวน้อยให้นับเลข
ของ  1  ชิ้น  นับ  1
ของ  2  ชิ้น  นับ  2
ของ  3  ชิ้น  นับ  3
.......................
ศิษย์ตัวน้อยทุกคนฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ
ชูมือ ชูนิ้ว กันสนุกสนาน
เด็กน้อยคนหนึ่งแปลกกว่าคนอื่น ๆ
นับนิ้วไปพลาง ยิ้มไปพลาง
ครูจึงเอ่ยถามว่า " มีอะไรอยากบอกครูไหมคะ "
" มีค่ะ "  หนูน้อยตอบทันทีทันใด
" ปีนี้หนูอายุ  3  ขวบ  พี่หนูอายะ 5  ขวบ "
" อีกสองปีหนูอาจะ  5  ขวบ  พี่กับหนูอายุเท่ากันเลย "
" อีกสามปีหนูอายุ  6  ขวบ  หนูอายุมากกว่าพี่หนูอีก...."
.........................
เด็กคิดแบบเด็ก ก็น่ารักแบบเด็ก
ผู้ใหญ่คิดแบบเด็ก คงไม่ได้น่ารักแบบเด็ก
เพราะขณะที่เราหิว คนอื่นก็หิวด้วย
ขณะที่เราโต คนอื่นก็โตด้วย
ขณะที่เราอยากได้ คนอื่นก็อยากได้
เราอยากมีความสุข คนอื่นก็อยากมีความสุข ไม่แตกต่างจากเรา
...........................
สิ่งอันพึงกระทำและสามารถทำได้
สำหรับเราท่านที่เลยวัยเด็กมานานแล้ว
จึงไม่ใช่การคิด (ข้างเดียว) แบบเด็ก ๆ
หากแต่เป็นการมีหัวใจใสซื่อสะอาดแบบเด็ก ๆ ต่างหาก

				
Lovers  0 คน เลิฟอ.วรศิลป์
Lovings  อ.วรศิลป์ เลิฟ 0 คน
Lovers  0 คน เลิฟอ.วรศิลป์
Lovings  อ.วรศิลป์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอ.วรศิลป์
Lovings  อ.วรศิลป์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอ.วรศิลป์