ฉากแรกของชีวิต....เราไม่ได้กำหนด
ฉากสุดท้ายของชีวิตต่างหาก..... ที่เรากำหนดได้
…………………
คนดีกับคนเก่ง เป็นคนละเรื่อง
ไม่เก่งก็ดีได้
คนดีกับคนรวย เป็นคนละเรื่อง
ไม่รวยก็ดีได้
คนดีกับเพศหญิงเพศชาย เป็นคนละเรื่อง
เพศใดก็ดีได้
คนดีกับคนจน เป็นคนละเรื่อง
ไม่ต้องยากจนก็เป็นคนดีได้
.....................
คนดีกับวงศ์ตระกูล เป็นคนละเรื่อง
คนดีกับรูปร่างหน้าตา เป็นคนละเรื่อง
คนดีกับวุฒิทางการศึกษา เป็นคนละเรื่อง
คนดีกับความเชื่อศรัทธาทางศาสนา เป็นคนละเรื่อง
........................
หมาป่าอยากเป็นแกะ จึงเอาขนแกะมาคลุมกาย
อีกาอยากเป็นนกยูง จึงเอาขนนกยูงมาแซมกาย
แต่อนิจจา เพียงเปลือกนอกที่เปลี่ยน ไม่ใช่เนื้อในที่เปลี่ยน
ความดีและคนดีก็เช่นกัน คือ ต้องดีจากข้างใน
....................................
ตั้งใจดี ก่อนลงมือทำความดีอุทิศถวาย
แล้วจึงเริ่มลงมือทำความดีอย่างมีเป้าหมาย
คุณค่าของความดีไม่ได้วัดที่ขนาด จำนวน หรือ ปริมาณ
ใยต้องกังวลว่าคนอื่นจะมอง จะคิดอย่างไร
ความดีที่ตั้งใจอุทิศถวาย ที่สุดก็นำสิ่งดีมาสู่ตัวเราด้วยเช่นกัน
ความดีที่ทำเพื่อเอาหน้า จะถือเป็นความดีได้อย่างไร
........................
ฉากแรกของชีวิต.....เราไม่ได้กำหนด
ฉากสุดท้ายของชีวิตต่างหาก.....ที่เรากำหนดได้
" คนที่โลกต้องการ "
1. คนที่ทำ มากกว่า พูด 2. คนที่ทำดี ทำจริง 3. คนที่ให้มากกว่ารับ 4. คนที่คิดถึงคนอื่นมากกว่าตนเอง 5. คนที่จริงใจ 6. คนที่เมตตา กรุณา 7. คนที่เสียสละและอุทิศตน 8. คนที่ใช้ความรู้ความสามารถเพื่อส่วนรวม 9. คนที่เป็นแบบอย่างที่ดี 10. คนที่เป็นครูด้วยชีวิตจริง 11. คนที่ยอมขาดทุนเพื่อให้คนอื่นได้กำไร 12. คนที่เต็มใจสละสิ่งอันพึงมีพึงได้ของตนเพื่อผู้อื่น 13. และคนดี ๆ ในแง่มุมอื่น ๆ อีกมากมาย ....................................... วันนี้ คนไทยได้ประจักษ์แจ้ง ถึงนิยามของ " คนที่โลกต้องการ " ว่าเป็นเยี่ยงใด และมีคนไทยมากมายที่ตั้งใจดี เพื่อจะเป็นคน ๆ นั้นอีกคน " คนที่โลกต้องการ "
(ผู้น้อยขอคารวะ)
" อยู่ให้เขารัก จากให้เขาคิดถึง " พ่อกับแม่เคยสอนฉันด้วยประโยคนี้หลายครั้ง และฉันก็จะสอนคนรุ่นต่อไปเช่นกัน และวันนี้ ฉันและคนไทยทุกคน ต่างก็ได้เห็นประจักษ์แจ้งในคุณค่าแห่งถ้อยคำกล่าวนี้ จากองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ผู้ทรงอุทิศพระองค์เพื่อประโยชน์สุขแก่พสกนิกร ตลอดพระชนมชีพของพระองค์ วันนี้พระองค์จึงทรงได้รับการแซ่ซ้องสรรเสริญทั่วทั้งแผ่นดิน อีกทั้งจะยังทรงสถิตอยู่หัวใจผองพสกไทยไปตราบนานเท่านาน ............................................ " อยู่ให้เขารัก จากให้เขาคิดถึง " พ่อกับแม่เคยสอนฉันด้วยประโยคนี้หลายครั้ง และฉันก็จะสอนคนรุ่นต่อไปเช่นกัน
น้ำตาฉันไหลไหลทั้งข้างนอก ข้างใน น้ำตาฉันไหล เพราะการจากไปของพ่อหลวงแห่งแผ่นดิน ฉันไม่ได้ร้องไห้ฉันเพียงแค่น้ำตาไหล ภาพและเรื่องราวมากมายในอดีตผ่านสื่อทีวีตลอด 24 ชั่วโมง บอกเล่าเรื่องราวความดีมากมายไม่จบไม่สิ้นที่พ่อได้ทรงกระทำ ยิ่งตอกย้ำให้เจ็บปวดร้าวลึกในการสูญเสียครั้งนี้ นี่ไม่ใช่การสูญเสียของครอบครัวเดียว นี่ไม่ใช่การสูญเสียของตระกูลเดียว หากแต่เป็นการสูญเสียของคนไทยทั้งแผ่นดิน น้ำตาฉันไหลไหลทั้งข้างนอกข้างใน น้ำตาฉันไหล กับการจากไปของพ่อหลวงแห่งแผ่นดิน ขอดวงพระวิญญาณของพ่อจงได้พักผ่อนในสันติสุขอันเป็นนิรันดร์เทอญ
วันนี้ ครูบอกกับนักเรียนในชั้นว่า " ต่อไปนี้ ครูจะไม่ทำโทษด้วยการตีอีกแล้วนะ " ......................... จบคำพูดของครู นักเรียนพากันนิ่งเงียบ หลายคนนึกแปลกใจกับคำพูดของครูวันนี้ .......................... " การทำโทษของครู ไม่ได้ทำให้นักเรียนดีขึ้นเลย " " ครูตัดสินใจแล้ว ต่อไปนี้ครูจะไม่เฆี่ยน ไม่ตีอีก " " เพราะว่าไม่เกิดประโยชน์อะไร " ........................ จบคำพูดของครู นักเรียนยิ่งพากันนิ่งเงียบ นักเรียนบางคนเริ่มคิดอะไรบางอย่างในสมอง " พวกเราแย่ จนครูไม่อยากตีเลยหรือ " " วันนี้ เราไม่ถูกครูตี แต่คำพูดของครูมันเจ็บกว่าถูกครูตีอีกนะ " ........................ นักเรียนยังคงนิ่งเงียบ ในขณะที่ครูก็สอนไปจนหมดชั่วโมง บรรยากาศในชั้นเรียนดูอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก จนกระทั่งเสียงกร่ิงสัญญาณบอกเวลาหมดคาบเรียนดังขึ้น ครูเดินออกจากชั้นเรียนไป โดยไม่พูดอะไร และนักเรียนยังคงนั่งกันนิ่งเงียบ ......................... หัวหน้าห้อง เริ่มพูดคุยกับเพื่อน ๆ ในชั้นเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น มีการกล่าวโทษกันไปมาอยู่สักพัก จนในที่สุด นักเรียนทั้งชั้นก็พากันเดินไปที่ห้องพักครู .......................... " มีอะไรหรือ " ครูเอ่ยถาม " พวกเรามาขอโทษครูครับ " หัวหน้าห้องกับนักเรียนสองสามคนกล่าวตอบ " ขอโทษเรื่องอะไร ? พวกเธอทำอะไรผิดหรือ ? " ครูเอ่ยถาม " พวกเราขอโทษที่ทำให้ครูโกรธและเสียใจ " หัวหน้าห้องตอบ " ผมขอโทษที่ไม่ตั้งใจเรียน " " หนูขอโทษที่ไม่ทำการบ้าน " " ผมขอโทษที่..........." " หนูขอโทษที่..........." ........................... " เอาล่ะ ๆ ครูดีใจนะที่พวกเธอคิดได้ " " ครูดีใจนะที่พวกเธอเข้าใจคำพูดของครูในวันนี้ " " แสดงว่า พวกเธอเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว " .............................. บรรยากาศการพูดคุยระหว่างครูกับศิษย์เริ่มผ่อนคลาย " ถ้าอย่างนั้น ครูขอถอนคำพูดนะ " ครูกล่าวต่อ " พรุ่งนี้ ใครไม่ส่งงาน คนละ 3 ที " " ครับ ค่ะ....." เสียงขานรับของนักเรียนดังเซ็งแซ่ " เอาล่ะ ไปพักกันได้แล้ว ขอบใจพวกเธอนะ " .......................... นักเรียนทะยอยออกไปจนหมด แต่ครูยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม หัวใจครูกลับมาพองโตด้วยความหวังและความสุข อีกครั้ง