15 กันยายน 2558 09:27 น.
อ.วรศิลป์
เพราะมีภาพที่เราไม่อยากเห็นอยู่เบื้องหน้า....เราจึงหลับตา
เพราะเราหลับตา เราจึงไม่เห็นภาพที่อยู่เบื้องหน้านั้น
ทั้งที่จริงแล้ว ภาพเบื้องหน้าเรานั้นยังคงอยู่ที่เดิม
เพียงแต่เปลือกตาที่ปิดลง ที่ทำให้ภาพนั้นหายไปจากการรับรู้
มีความจริงบางอย่าง บางเรื่องราวในชีวิต
ที่ทำให้เราเจ็บปวดและขมขื่น
และหลายคนเลือกที่จะปฏิเสธ หรือ ไม่ยอมรับ
หากแต่การไม่ยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นแล้วนั้น
หาได้ทำให้ความจริงกลับกลายเป็นความไม่จริงไม่
หาได้ทำให้ความจริงที่เกิดขึ้นนั้นสูญหายไปจากชีวิตไม่
ความจริงนั้น ยังอยู่ และ ยังคงรบกวนจิตใจเราเรื่อยไป
จนกว่าจะถึงวันที่เรากล้าพอที่จะเผชิญหน้าความจริงอันเจ็บปวดและขื่นขม
มันก็เหมือนกับการบ่งหนามนั่นแหละ
เจ็บนะ แต่เจ็บไม่นาน
เอาออกเสีย ดีกว่าปล่อยให้มันค้างคาและทิ่มตำ
จนอาจก่อให้เกิดพิษร้ายมากมายตามมา
จนเกินต้านทานและเยียวยา
14 กันยายน 2558 11:45 น.
อ.วรศิลป์
3 โล 100 จ้า โลเดียว 35
ลังเลอยู่สักครู่
ตัดสินใจซื้อ 3 โล
จ่ายเงินไป 100 เพราะคิดว่าคุ้มกว่า
กลับถึงบ้าน ล้างจนสะอาด
จัดวาง 3 โล 100 ใส่กระจาดวางไว้บนโต๊ะ
คนทั้งบ้าน แต่หยิบกินกันไปไม่กี่ครั้ง ไม่ถึงครึ่ง
จึงเก็บ 3 โล 100 ที่เหลือใส่ตู้เย็น
ผ่านไป 1 สัปดาห์
3 โล 100 เริ่มหมดสภาพ
หยิบกินเพราะเสียดายไปอีกหน่อย
ที่เหลือก็ลงถังขยะ
พร้อมกับนึกตำหนิตัวเองอยู่ในใจ
3 โล 100
จริง ๆ แล้ว ใครฉลาด ใครเขลา
จริง ๆ แล้ว ใครได้กำไร ใครขาดทุน
ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่เป็นเช่นนี้
แต่ก็ไม่เคยจะเข็ด ไม่เคยจะจำ
" แปลกดี "
5 กันยายน 2558 16:16 น.
อ.วรศิลป์
ในชั่วโมงวิชาภาษาไทย ป.1
ครูพูดคุยกับนักเรียนเรื่องคำตรงข้าม
หร้อมทั้งยกตัวอย่างประกอบอยู่หลายคำ
ก่อนจบ ครูจึงเริ่มทดสอบความเข้าใจของนักเรียน
ด้วยการซักถามแบบปากเปล่า
ให้นักเรีนตอบพร้อม ๆ กัน
ครูถาม " สีขาว " นักเรียนตอบ " สีดำ "
ครูถาม " ใหม่ " นักเรียนตอบ " เก่า "
ครูถาม " สูง " นักเรียนตอบ " ต่ำ "
ครูถาม " ขยัน " นักเรียนตอบ " ขี้เกียจ "
ครูถาม " อ้วน " นักเรียนตอบ " ผอม "
ครูถาม " น้ำขึ้น " นักเรียนตอบ " น้ำลง "
ครูถาม " ข้างขึ้น " นักเรียนตอบ " ข้างลง "
ครู ?????? (งงไปชั่วขณะ ก่อนอธิบายให้ศิษย์ตัวน้อยเข้าใจเพิ่มเติม)
นักเรียนของคุณครูคงคิดว่า
ในเมื่อน้ำขึ้นตรงข้ามกับน้ำลง
ข้างขึ้น ก็น่าจะตรงข้ามกับ ข้างลง ไม่ใช่หรือ
ความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ประสาเด็กในครั้งนี้
น่าจะให้อะไร ๆ มากกว่า " รอยยิ้ม "
เพราะบางทีเราก็เข้าใจผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้เหมือนกัน
10 สิงหาคม 2558 16:45 น.
อ.วรศิลป์
" โทรฯ หาแม่หน่อยไหม "
ประโยคน่าประทับใจจากโฆษณาทีวีชิ้นหนึ่ง
ที่นำความผูกพันระหว่างแม่กับลูกมาเป็นจุดขาย
เพื่อสอดรับกับช่วงเวลาการเฉลิมฉลองวันแม่ที่ใกล้มาถึง
" โทรฯ หาแม่หน่อยไหม ? "
ผูกเรื่องราวจากความไม่เข้าใจระหว่างแม่กับลูก
จนลูกเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าแล้วออกจากบ้าน
ผู้เป็นแม่เฝ้าตามหาด้วยความทุกข์ใจยิ่งนัก
จนกระทั่งมาพบกับแม่ค้าขายอาหาร
ซึ่งถึอเป็นตัวละครที่มีส่วนทำให้เรื่องราวจบลงด้วยดี
" โทรฯ หาแม่หน่อยไหม ? "
ประโยคนี้ คุณป้าที่ขายอาหารเป็นผู้เอ่ยถามน้องพลอย
ลูกที่หนีออกจากบ้าน
ในขณะที่ภาพเก่า ๆ ที่แสดงถึงความรักและห่วงใยของแม่
ผุดขึ้นในความทรงจำมากมาย
หยาดน้ำตาของน้องพลอยไหลอาบแก้ม
เป็นหยาดน้ำตาของความเสียใจและสำนึกผิด
จนกระทั่งน้องพลอยหยิบโทรศัพท์เพื่อติดต่อกับแม่
ซึ่งช่องว่างของเวลาขณะฟังเสียงเรียกสาย
ชวนให้อึดอัดและตอกย้ำความรู้สึกยิ่งนัก
" โทรฯ หาแม่หน่อยไหม ? "
ข้อความนี้จบลงด้วยภาพน่าประทับใจของน้อยพลอยในวัยเด็ก
กับการพูดคำว่า " แม่ " ที่แสนจะน่ารัก
ซึ่งแม่ของน้องพลอยก็ยิ้มอย่างเปี่ยมสุข
.......................
" โทรฯ หาแม่หน่อยไหม ? "
ทุกวันนี้ ฉันยังอยากโทรฯ หาแม่ อยากโทรฯ ทุกวัน
แต่ฉันติดต่อแม่ไม่ได้เลย
โลกที่แม่อยู่ตอนนี้ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
มีแต่สัญญาณ " โทรจิต "
อยากบอกแม่ว่า " คิดถึงนะครับ "
10 สิงหาคม 2558 16:42 น.
อ.วรศิลป์
คุณครูกำลังสอนศิษย์ตัวน้อยให้นับเลข
ของ 1 ชิ้น นับ 1
ของ 2 ชิ้น นับ 2
ของ 3 ชิ้น นับ 3
.......................
ศิษย์ตัวน้อยทุกคนฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ
ชูมือ ชูนิ้ว กันสนุกสนาน
เด็กน้อยคนหนึ่งแปลกกว่าคนอื่น ๆ
นับนิ้วไปพลาง ยิ้มไปพลาง
ครูจึงเอ่ยถามว่า " มีอะไรอยากบอกครูไหมคะ "
" มีค่ะ " หนูน้อยตอบทันทีทันใด
" ปีนี้หนูอายุ 3 ขวบ พี่หนูอายะ 5 ขวบ "
" อีกสองปีหนูอาจะ 5 ขวบ พี่กับหนูอายุเท่ากันเลย "
" อีกสามปีหนูอายุ 6 ขวบ หนูอายุมากกว่าพี่หนูอีก...."
.........................
เด็กคิดแบบเด็ก ก็น่ารักแบบเด็ก
ผู้ใหญ่คิดแบบเด็ก คงไม่ได้น่ารักแบบเด็ก
เพราะขณะที่เราหิว คนอื่นก็หิวด้วย
ขณะที่เราโต คนอื่นก็โตด้วย
ขณะที่เราอยากได้ คนอื่นก็อยากได้
เราอยากมีความสุข คนอื่นก็อยากมีความสุข ไม่แตกต่างจากเรา
...........................
สิ่งอันพึงกระทำและสามารถทำได้
สำหรับเราท่านที่เลยวัยเด็กมานานแล้ว
จึงไม่ใช่การคิด (ข้างเดียว) แบบเด็ก ๆ
หากแต่เป็นการมีหัวใจใสซื่อสะอาดแบบเด็ก ๆ ต่างหาก