จากชาตะ ถึงมรณะ ใครกันล่ะ จะบอกได้ ว่าสั้น ยาวเพียงใด วันสุดท้าย เมื่อไหร่กัน บางคน อาจสงสัย เกิดทำไม หนอตัวฉัน งุนงง และงงงัน กับคืนวัน ที่่ผันแปร จากชาตะ ถึงมรณะ คือสัจจะ อันเที่ยงแท้ เตรียมให้พร้อม ก่อนจะแย่ ชีวิตไม่แน่ รู้แก่ใจ สุขทุกข์ ที่่รายรอบ จะชื่นชอบหรือหมองไหม้ ที่สุด วันสุดท้าย ต้องดับไป ไม่ต่างกัน วันนีั้ ที่ยังอยู่ จงยืนสู้ อย่างสร้างสรรค์ ชีวิต แต่ละวัน ตั้งใจมั่น หมั่นทำดี
เราใช้ ยางลบ เปลืองแค่ไหน กับการ แก้ไข ข้อผิดพลาด ชีวิต เปรียบไป คล้ายกระดาษ มีผิด มีพลาด ได้มากมาย แต่หาก ใช้สติ ใช้เหตุผล เพื่ออยู่ กับคน ทั้งหลาย ผิดพลาด ก็คง ไม่มากมาย สุดท้าย แทบไม่ได้ ใช้ยางลบ
นึกภาพ เมื่่อคราว นั่งชิงช้า แกว่งไป แกว่งมา สนุกสนาน เลือนลาง ผ่านไป แสนนาน วันวาน วัยเยาว์ คราวเด็กน้อย วันนี้ ไม่มีแล้ว ชิงช้า กายา สูงวัย ใช่ย่อย เหลือไว้ แค่เพียง ร่องรอย เด็กน้อย ในความ ทรงจำ
มีสิ่งดีดีมากมาย
บรรพชนสร้างไว้แต่หนหลัง
แต่ไม่ใส่ใจไม่จริงจัง
หลายอย่างจึงเริ่มเลือนหาย
กิริยามารยาทแบบเก่า
คิดแล้วยิ่งเศร้าเสียดาย
ภาษาพูดภาษาปากภาษากาย
งามอย่างไทยหาไม่ง่ายไม่ค่อยเจอ
หยดน้ำ น้อยน้อย หยดย้อย รวมกัน ไม่ช้า ไม่นาน เต็มขัน เต็มตุ่ม ความผิด เล็กน้อย ค่อยค่อย กองสุม กลายเป็น ไฟรุม กลัดกลุ้ม ใจตน