25 ตุลาคม 2547 22:56 น.
อุณากรรณ
ในวันนั้นที่คุณเดินเข้ามาหาผม
ด้วยคราบน้ำตาเต็มหน้า
คุณระบายความในใจหลายสิ่งหลายอย่าง
ให้ผมฟัง
และสารพัดความรู้สึกมันได้ก่อตัวขึ้น
ในใจของผม
ผมตั้งใจว่าจะช่วยปลอบใจ
และดูแลคุณ ในยามที่จิตใจของคุณไม่ปกติ
หลังจากวันนั้น
คุณมักจะเล่าเรื่องของคุณกับเขาให้ผมฟังเสมอ ๆ
ทั้งเรื่องดีและเรื่องร้าย
แต่เท่าที่ได้ฟังผมรู้สึกว่าจะร้ายเสียมากกว่า
ผมเป็นผู้รับฟังที่ดีเสมอมา
ผมรับฟังทุกเรื่องออกความเห็นบ้างตามสมควร
จากอาการที่ย่ำแย่ในวันนั้น
คุณก็ดีขึ้น จนวันหนึ่ง คุณบอกกับผมว่า
คุณตัดใจได้แล้ว
ผมดีใจกับคุณ เรายิ้มให้กันด้วยรอยยิ้มที่เต็มหน้า
เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน
แล้ววันหนึ่ง
เขาก็กลับเข้ามาในชีวิตของคุณ
ผมก็สุดที่จะรู้ได้ว่าคุณคิดอย่างไร
แต่ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจอย่างไร
ผมก็จะยอมรับ
และขอให้คุณรับรู้ว่า
ผมนั้นจะยังอยู่ตรงนี้
ด้วยความหวังดี
ด้วยความห่วงใย
และด้วยความรักทั้งหมดที่มอบให้
ตลอดไป............
22 ตุลาคม 2547 22:15 น.
อุณากรรณ
ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นแบบนั้น
เธอคนนั้น
เพียงพบแค่ครั้งแรก ภาพของเธอก็ติดอยู่ในหัวใจของผม
ยากที่จะลบเลือน
ทำอย่างไรดีนะ ผมถึงจะได้รู้จักกับเธอ
ผมคอยเฝ้าติดตามเธอตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
สืบเสาะแสวงหา
พยายามทุกทางที่จะได้ทำความรู้จักกับเธอ
และแล้วพระเจ้าก็เข้าข้างผม (ผมคิดอย่างนั้นนะ)
เมื่อวันหนึ่งผมได้คุยกับเธอดังปรารถนา
คงไม่ต้องบอกว่าผมดีใจมากขนาดไหน บอกได้เลยว่าสุด ๆ
ผมพยายามทำความรู้จักกับเธอเรื่อยมา
เพียรพยายามสร้างความสนิทสนมกับเธอ จนขยับฐานะจากคนรู้จัก
มาเป็นเพื่อน เธอยอมรับให้ผมเป็นเพื่อนของเธอ
คงจะนึกภาพออก ผมยิ้มจนปากจะฉีกถึงหูเลยในตอนนั้น
ผมโทรศัพท์ไปคุยกับเธอทุกคืน (กลางวันโทรศัพท์ไม่ได้ เจ้านายโหด)
และทุกครั้งเธอก็เป็นคนบอกวางสายก่อนทุกครั้ง
แม้ว่าผมจะตื๊ออย่างไรก็ไม่สำเร็จ ผมก็เป็นได้เพียงแค่เพื่อนเรื่อยมา
ระยะเวลาที่รู้จักและคบกันมา ผมน้อยใจและเสียใจกับเธอหลายครั้ง
ผมเป็นคนที่คอยวิ่งตาม และเธอก็เป็นคนที่คอยเดินหนี
อยู่ตลอดเวลา
และทุกครั้ง
จะมีคนหนึ่ง คอยดูแล ปลอบใจผมเสมอ ๆ
ไม่ว่าผมจะทุกข์หรือจะสุข เธอก็จะทุกข์จะสุขกับผม
ผมจะเห็นรอยยิ้มจากเธอตลอด ในยามที่ผมได้พบเธอ
คำพูดหนึ่งที่เธอเคยให้กับผม
คนที่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุด คอยอยู่ดูแลและปลอบใจเรา
นั่นก็คือตัวเราเอง
แต่ผมก็ไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก
ฟังเพียงผ่านเพื่อปลอบใจยามเศร้าเท่านั้น
เพียงคนเดียวที่ผมทุ่มเทความรู้สึกนึกคิด
ก็คือเธอคนที่ผมปักใจเท่านั้น
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมต้องปักใจขนาดนั้น
และแล้ววันที่ผมต้องเสียใจที่สุด
วันนั้น
เธอมาหาผม พร้อมกับการ์ดสีชมพูหนึ่งใบ
ถูกต้องครับ มันคือ การ์ดแต่งงาน
ผมพูดไม่ออก หูอื้อ ตาลายไปหมด
แต่ผมก็ฝืนต้อนรับเธอจนเธอกลับไป
ผมอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะหลั่งน้ำตาออกมา
ผมเมาหัวราน้ำอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เมาเหมือนหมาข้างถนน
และเช่นเคยเพื่อนคนเก่าที่เคยเตือนสติผม
เธอนั่นเองที่คอยมาดูแลผม
ในยามที่ผมไม่เหลือใคร ในยามที่ผมท้อแท้ใจ
จะมีเธอคอยปลอบใจ ให้กำลังใจผมอยู่เรื่อยมา
เธอคอยรักษาใจที่อ่อนล้าของผม ให้กลับแข็งแรงขึ้นมาอีกครั้ง
เธอช่างดีกับผมเหลือเกิน
ทำไมนะ ผมถึงได้มองข้ามเธอไป
จะว่าไปผมมันโง่เอง
สิ่งมีค่าอยู่แค่เอื้อมแค่นี้
ยังจะไปคว้าไขว่สิ่งที่ไร้ตัวตนให้เหนื่อยเปล่า
เวลานี้
ผมจะเลิกวิ่งตามทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยคิดจะวิ่งตาม
หรือเคยวิ่งตามแล้ว
ผมจะกลับมาอยู่กับสิ่งที่อยู่กับผมมานานแสนนาน
และผมจะเก็บรักษาไว้อย่างดีที่สุด
ผมสัญญา