29 เมษายน 2552 17:56 น.
อินสวน
เสียงฟ้าครวญ ครืนคราง ช่างปั่นป่วน
สายฟ้าชวน แปลบปลาบ วาบหวั่นไหว
บ่าวเมืองเหนือ ยินข่าว สาวบ้านไกล
อยากมีเขย ทำไร่ ช่วยไถนา
ย่างเดือนหก ฝนตก อกบ่าวเคิ้น
สั่นสะเทิ้น เขินใจ อยากไปหา
พาเฒ่าแก่ พ่อแม่ ไปเจรจา
สองแสนห้า ราคา ค่าเกี่ยวดอง
เรื่องยะก๋าน งานนา อย่าได้ห่วง
สวนมะม่วง ลำไย ทำได้คล่อง
เศรษฐกิจ เพียงพอ ขอรับรอง
ไม่เกี่ยวข้อง เหล้ายา ขอสาบาน
เรื่องชอบพอ พ่อตา อย่าวิตก
จะยอยก พ่อเป็นใหญ่ อยู่ในบ้าน
จะดูแล ญาติมิตร กิจการงาน
มีหลานหลาน ให้ชื่นใจ หัวท้ายปี
28 เมษายน 2552 05:39 น.
อินสวน
ล้านดาวดวง ห้วงหาว เรื่องราวนับ
หมื่นดวงดับ ลับลา ฟ้าเหน็บหนาว
กี่คืนเจ็บ จดจำ ย้ำข่าวคราว
แปลบปวดร้าว ด่าวดิ้น ถวิลครวญ
หมองอารมณ์ ขมคิด ฟ้ามิดมืด
ใจจางจืด จ่อมจม ระทมหวน
ย้อนรอยหวัง คราครั้ง ยังรัญจวน
ทุกถ้อยถาม ทบทวน ปั่นป่วนฤทัย
มองเดือนดวง ล่วงดับ ลาลับแล้ว
วาสนา คงแคล้ว คิดคืนใหม่
วอนเดือนดับ กลับมา ด้วยอาลัย
อกหม่นไหม้ ไร้ร้าง ห่างเหินคอย
บนท่องทาง อ้างว้าง ระหว่างคืน
โศกสะอื้น กลืนกล้ำ ร่ำละห้อย
หวังแบ่งปัน ฝันจาง เลือนรางรอย
เหงางันหงอย น้อยใจ ในเจตนา
คนสิ้นไร้ แรมรอน หวังผ่อนพัก
หวังพบรัก โอกาส ปรารถนา
คืนฟ้าหม่น ฝนพรำ พร่ำพรรณนา
หวังสบตา ดารา คงยากเย็น
19 เมษายน 2552 19:02 น.
อินสวน
สองหนูน้อย คอยใคร ไยเศร้าสร้อย
แววละห้อย สับสน คล้ายหม่นหมอง
ใต้ตะแบก ทางแยก วัดบัวทอง
ชะแง้มอง ทุกทัวร์จอด สอดตาแล
เช้าจวบสาย บ่ายเย็น เป็นประจำ
หลายวันซ้ำ ชินตา มาตั้งแต่
ต้นเมษา ผ่านล่วง เจ้าดวงแด
ไม่เชือนแช อุตส่าห์ ตั้งตาคอย
เห็นเพื่อนสวม ชุดใหม่ ได้ของเล่น
ยากจะเร้น ซ่อนเศร้า ความเหงาหงอย
หวังพ่อกลับ รับขวัญ เจ้าเนื้อกลอย
จะร้างรอย คอยค้าง หรืออย่างไร
วันสงกรานต์ ไร้เงา เฝ้าจดจ่อ
รถโดยสาร อาจไม่พอ รอเที่ยวใหม่
ขบวนแล้ว ขบวนเล่า เฝ้าผ่านไป
เหตุไฉน พ่อจ๋า ไม่มาเยือน
ใต้ตะแบก ต้นเดิม เริ่มโรยร่วง
กลีบสีม่วง เกลื่อนพื้น ยืนลอยเลื่อน
เสื้อชุดเก่า สีจาง ลายลางเลือน
อิจฉาเพื่อน สวมชุดใหม่ น้อยใจจัง
12 เมษายน 2552 09:50 น.
อินสวน
ปลายฟ้าหม่นปนแดงยอแสงส่อง
ทาบเงาหมองท้องทุ่งทั่วถิ่นฐาน
แดนพนาล่ำลาทิวากาล
ล่วงเลยผ่านสายัณห์สนธยา
ละลิบล่องท่องท้าตามล่าฝัน
เจ้าจอมขวัญเหลืองอ่อนร่อนบินหลา
ใต้สุมทุมพุ่มไม้เปรียบชายคา
คลายอ่อนล้าว้าวุ่นพออุ่นใจ
ให้ม่านดำค่ำคืนกลืนความเศร้า
ลบเลือนเหงาสร้างฝันเพื่อวันใหม่
ความขุ่นข้องหมองหมางจืดจางไป
หลังหลับใหลพฤกษ์ไพรปลอบวิญญา
ฟ้าคำรณฝนสาดซัดกระหน่ำ
ระโหยร่ำรอนร้าวหนาวผวา
เฝ้าคอยรอรัตติกาลผ่านเวลา
สุริยาเยี่ยมฟ้ารุ่งอรุณ
ทิวาวารสุริยันกลับมาใหม่
กำลังใจหล่อหลอมพร้อมไออุ่น
ธรรมชาติงามล้นเป็นต้นทุน
มีบุปผาหอมกรุ่นละมุนละไม
ท่ามทิวาราตรีวัฏจักร
พลังรักเพียงพอหล่อเลี้ยงไหล
ชีวิตต้องเผชิญดำเนินไป
พร้อมหัวใจแกร่งกล้าที่ท้าทาย
7 เมษายน 2552 22:25 น.
อินสวน
คือร่มไม้ ชายคา พักอาศัย
คือรังใจ อินสวน ที่อวลอุ่น
คือคอนคาน สถาน อันละมุน
คลายว้าวุ่น ทุกข์ร้อน ผ่อนทุกข์ใจ
อาจเงียบหงอย นิดหน่อย บางครั้งครา
อาจเหว่ว้า บางหน พอทนไหว
อาจอ้างว้าง บางที ไม่เป็นไร
อาจเก็บเหงา ในใจ ไว้ชั่วคราว
ยังพอมีพิณเพลงบรรเลงขับ
มีตะวันรองรับความเหน็บหนาว
มีดวงแข ดูแล รับเรื่องราว
มีดวงดาวสุกสกาวส่งข่าวเธอ
วิมานแมน แดนใด ไหนเทียมเท่า
วิมานเราสุขพอขอเสนอ
วิมานดินถิ่นนี้ที่เลิศเลอ
วิมานฝันรอเธอร่วมชายคา