30 มกราคม 2552 17:29 น.
อินสวน
ผ่านคืนหนาวร้าวลึกศึกชีวิต
ร้ายแรงพิษร้อนรนฉันทนไหว
แม้รักร้างฝันค้างหายห่างไกล
บาดาลใจบันดาลใหม่ไหลเพียงพอ
ตราบที่ลมหายใจไม่หยุดยั้ง
ตราบพลังความหวังยังเลี้ยงหล่อ
แม้เลือนรางริบหรี่สิ่งที่รอ
ไม่ถอยท้อต่อชะตาขอท้าทาย
แม้ฟ้าสิ้นดินล่มจ่อมจมร่าง
สุริยะดับสว่างแหลกสลาย
จะเย้ยหยันจักรวาลแม้วันตาย
ว่าอย่าหมายดับฝันที่ฉันมี
พลังรักจากใจไม่หายสูญ
สมการผลคูณเปลี่ยนวิถี
อุปสรรคถูกทำลายกลายธุลี
ด้วยพลังใจมีอานุภาพพอ
14 มกราคม 2552 21:45 น.
อินสวน
บนเส้นทางอ้างว้างร้างรอยรัก
คนอกหักหอบกายใจล้าอ่อน
ด้วยว้าเหว่ร่อนเร่พเนจร
ไม่อาทรร้อนหนาวร้าวรอนใจ
ล้าระโหยโรยล้มมืดถมทับ
ลืมลำดับลับเลือนลงหลับใหล
แว่วศัพท์เสียงสำเนียงเพียงแผ่วใจ
คล้ายมีใครในฝันนั้นคลุมเครือ
พลันสำนึกลึกเร้นเห็นเลือนราง
แล้วกระจ่างกลางกมลงามล้นเหลือ
มีนางฟ้าอบอุ่นมาจุนเจือ
ช่วยเอื้อเฟื้อใจกายหายร้าวราน
ถ้อยอาทรอ่อนโยนบันดลให้
คนยากไร้อับจนทุกข์พ้นผ่าน
กลับกล้าแกร่งเข้มแข็งแรงบันดาล
แล้วภาพฝันอันตรธานพลันมืดลง
พิศวงงันงงหลงภาพคล้าย
จริงจุดหมายเพียงเงาเป้าประสงค์
อยากแถลงแจ้งเหตุเจตจำนง
รักมั่นคงดำรงไว้หายคลุมเครือ
8 มกราคม 2552 16:12 น.
อินสวน
อยากให้รู้ในใจชายคนหนึ่ง
ยังคิดถึงห่วงใยไม่หายห่าง
คอยส่งใจไปให้ไม่จืดจาง
ทุกก้าวย่างเคียงข้างจินตนา
ความหวังดีที่มีไม่แปรเปลี่ยน
คงแวะเวียนติดตามถามข่าวหา
คอยสอดส่องปกป้องทุกเวลา
ปรารถนากานดาถึงหลักชัย
ยินถ้อยขานผ่านกลอนอ้อนคำกล่าว
ถึงเรื่องราวความนัยให้หวามไหว
ด้วยวาจางดงามถามข่าวใจ
ถึงคนไกลใครหนอที่รอคอย
อยากเอื้อนเอ่ยเผยใจแต่ไม่กล้า
เหมือนกระต่ายหมายจันทราสูงสุดสอย
เป็นเพียงภาพฝันผุดแล้วหลุดลอย
คนบุญน้อยต้อยต่ำต้องทำใจ
ขอใช้กรรมธรรมะชำระจิต
ลบล้างผิดติดค้างสร้างสิ่งใหม่
เจือรอยหมองเป็นสีทองผ่องอำไพ
สี่ห้องใจใสสว่างร้างมลทิน
ขอพื้นที่คนไร้ให้โอกาส
คนเคยพลาดรื่นรมย์สมถวิล
แม้ใจเจ็บปวดปร่าจนชาชิน
ไม่สร่างสิ้นรอรักแท้..แม้เลือนลาง