8 มิถุนายน 2551 16:59 น.
อินสวน
จากคนป่า เป็นมา มลาบรี
เดิมเรียกผี ตองเหลือง เรื่องเล่าขาน
อยู่อาศัย ในป่า มาช้านาน
ไร้หลักฐาน แน่นอน เร่ร่อนไป
ใช้กิ่งไผ่ ใบไม้กอง ป้องแดดฝน
ไม่กังวล เสื้อผ้า อาภรณ์ใส่
ตะแหย้ดปิด ผลผลิต เปลือกใบไม้
สองถันใหญ่ ทรามวัยเผย ไม่เคยอาย
มีความรู้ ปราดเปรื่อง เรื่องไม้ป่า
สมุนไพร หยูกยา รักษาหาย
ไล่สัตว์ล่า เสาะหา หน้าที่ชาย
ไม่ดูดาย หญิงตักน้ำ หลามเผือกมัน
ไม่รู้จัก หลักการ กสิกรรม
ไม่รุกล้ำ ทำลายป่า พนาสวรรค์
เชื่อเซ่นไหว้ ไม้ใหญ่ ได้ผูกพัน
บุรุษบรรพ์ ผีป่าเขา มาเนานาน
มีดนตรี ประโลมใจ ใบไม้เป่า
และขลุ่ยเลา ลำไผ่ ไล่เพลงหวาน
ใครแปลกหน้า มาหา พารนราน
จะพบพาน เพียงเพิงร้าง หายห่างจร
ต่อมามี พรานไพร จากในเมือง
เจอตองเหลือง ไล่ต้อน ตอแยก่อน
เริ่มเปิดเผย คุ้นเคย เลยขั้นตอน
ความซับซ้อน ถูกแทรกแซง เปลี่ยนแปลงไป
ชนพื้นเมือง ตองเหลือง เริ่มคบหา
มีสินค้า มาแลก สิ่งแปลกใหม่
ไม่รู้จัก มูลค่า เงินตราใช้
แล้วแต่ความ พอใจ ไม่ระแวง
อนิจจา มลาบรี ที่แสนซื่อ
เดี๋ยวนี้คือ รอยเศร้า ที่เว้าแหว่ง
ถูกรุมทึ้ง ดึงแทะ และทิ่มแทง
เลือดเหือดแห้ง แล้งวิญญา มลาบรี........
6 มิถุนายน 2551 15:51 น.
อินสวน
หยุดก่อน ได้ไหม สหายเอ๋ย
เพื่อนรักเคยเหน็ดเหนื่อยนานแค่ไหน
เคยทุกข์ทนดิ้นรนจนท้อใจ
เพราะเหตุใดใคร่ครวญทบทวนตรอง
เป้าหมายไกลหรือเส้นชัยไร้เขตขอบ
เพื่อความชอบตามระบอบตอบสนอง
หรือตักตวงทวงถามตามเรียกร้อง
เพื่อปกป้องปรนเปรอบำเรอใคร
ทุรนทุรายมากมายใจรุ่มร้อน<
บ้างร้าวรอนดิ้นรนจนหม่นไหม้
ต่างละเลยไม่เคยบำรุงใจ
ส่งผลให้ไร้สุขใจทุกข์ตรม
ปรารถนาดีเป็นนิจจิตเมตตา
จะนำพาผ่อนคลายหายขื่นขม
เสียสละจาคะพารื่นรมย์
สงบร่มสมาธิสติครอง
ใจเยือกเย็นเห็นช่องทางช่วยสร้างชาติ
มีปัญญาชาญฉลาดปราศมัวหมอง
คิดพูดทำดีงามตามครรลอง
หายขุ่นข้องพี่น้องไทยรักใคร่กัน/font>
3 มิถุนายน 2551 16:26 น.
อินสวน
แม่คานใสไหลลงแม่โขงขุ่น
ใจว้าวุ่นขุ่นเคืองเรื่องใดหนอ
ข้ามเขตขอบหอบรักมาทักทอ
หวังพะนอต่อเติมเพิ่มผูกพัน
ไยแง่งอนค้อนคว่ำทำเย็นชา
ไม่นำพาร้างราสัญญามั่น
น้อยคำเหน็บเจ็บไม่น้อยร้อยรำพัน
คนรักกันหวั่นเคยรักหนักหน่วงใจ
อยากติดตามไถ่ถามความขุ่นข้อง
ลบรอยหมองใจน้องผ่องสดใส
จะตัดพ้อพอเหลือเยื่อสายไย
อย่าตัดใจให้สะบั้นสัมพันธ์จาง
อย่าระแวงแคลงใจให้หงุดหงิด
ไม่เคยคิดนอกใจให้หม่นหมาง
คนเวียงจันทร์รู้จักกันวันเดินทาง
จะเทียบเท่าหลวงพระบางได้อย่างไร
2 มิถุนายน 2551 08:16 น.
อินสวน
อึกทึก กึกไกล กลางไพรสณฑ์
ไหลหลากล้น หล่นกระแทก แทรกโขดผา
บ้างไหลเลาะ เซาะซอก ระรินมา
ไม่สร่างซา ชลสาย เหมือนร่ายมนต์
เสียงสะท้าน สั่นสะท้อน รอนรอนร่ำ
คล้ายถ้อยคำ คร่ำครวญ ชวนหมองหม่น
สะอื้นอก สะทกไจ หวั่นไหววน
ละลิ่วหล่น แล้วลอยไหล ละลิบลา
ตะแบกโรย โปรยปราย เรียงรายล่อง
สีม่วงหมอง มองเหม่อ ละเมอหา
ลำแสงสอด ลอดใบ รำไรมา
ต้องธารา ยลระยับ ยอสายัณห์
โพระดก วิหคร้อง ก้องไพรพฤกษ์
แทรกรู้สึก ลึกเร้น ละล่องฝัน
พร่ำพะนอ รอเก้อ เพ้อรำพัน
วิเวกวัน วสันต์ชวน ครวญคะนึง