1 เมษายน 2551 20:36 น.
อินสวน
<
กราบพระธาตุ ไหว้พระธรรม นำกุศล
น้อมบันดล ผลบุญ อุ่นสนอง
นครศรีธรรมราช ประกาศธรรม งามเรืองรอง
หายหม่นหมอง ผ่องใส ใจร่มเย็น
เยี่ยมคารวะ อาจารย์ ท่านเคยสอน
ก้มรับพร พรมใจ คลายร้อนเข็ญ
คติย้ำ เตือนจำ ควรบำเพ็ญ
รู้จักเป็น ผู้ให้ ใจแบ่งปัน
ตระเวนไป ไล่ลิ้ม ชิมอาหาร
ทั้งคาวหวาน ตำหรับใต้ ให้เลือกสัน
น้ำยาป่า แกงไตปลา หากินกัน
ข้าวยำนั้น ร่อยจัง ยังติดใจ
ตะลอนรอบ ขอบขัณฑ์ ตะวันบ่าย
ร้านรวงราย ขายเสื้อผ้า หาซื้อใส่
ทวินโลตัส โรงแรมหรู อยู่ไม่ไกล
เข้าอาศัย ได้พักผ่อน นอนสบาย
/font>
31 มีนาคม 2551 08:41 น.
อินสวน
ร้อนข่าวหลอน ตอนดึก นึกไหวหวั่น
เรื่องราวฝัน นั้นหดหู่ ดูเศร้าสร้อย
สิ้นทิวา อาทิตย์ดับ ลับเลื่อนลอย
เงียบเหงาหงอย คอยหา ฟ้าสีทอง
ฟ้าครางครวญ ครืนโครม โหมเกรี้ยวกราด
ประกายฟาด บาดโบย โหยร่ำร้อง
กลางดึกดื่น ค่ำคืน ยืนเหม่อมอง
แววตาหมอง จ้องสายฝน หล่นโปรยปราย
ลมกระโชก โยกไหว กิ่งใบสะบัด
เร่งรึงรัด เร้าฤทัย ไม่ห่างหาย
กระซิบแว่ว แผ่วฟัง ยังเดียวดาย
เพียงพระพาย เพ้อพร่ำ ถ้อยคำครวญ
เย็นละออง ไอฝน จนหนาวสั่น
ฝากความฝัน ปันไป ในลมหวน
พายุฝน ขอเพียงคน ไม่แปรปรวน
ใจอินสวน สงวนให้ ไม่เปลี่ยนแปลง
17 มีนาคม 2551 13:49 น.
อินสวน
เคยอาศัยในแนบแอบอบอุ่น
ยามว้าวุ่นเดียวดายคลายเหน็บหนาว
คราใดทุกข์ปลอบปลุกทุกเรื่องราว
ยามรักร้าวได้หลบแลเลียแผลใจ
ระรินไหลน้ำใจเจือเหงื่อทุกหยด
ทุ่มเทหมดอดออมถนอมไว้
หนึ่งนิยามงดงามความภูมิใจ
หนึ่งเนื้อนัยเอกสิทธ์ชีวิตคน
รักผูกพันวันเดือนเป็นเพื่อนแท้
ได้ดูแลแนบนอนหลายร้อนฝน
ก่อกูลเกื้อเยื่อใยหายกังวล
คอยปลอบโยนพ้นเศร้าบรรเทาจาง
โมกเรียงรายกายรอบหอบหอมห่าง
พุดกลีบบางพร่างพราวข่าวคราวร้าง
กระดังงาเง้างอนซ่อนอำพราง
โศกไม่สร่างช่างสับสนหม่นหมางมอง
หมู่มดแดงแฝงพวง มะม่วงชะม้าย
เข้าทักทายไว้อาลัยสายใยหมอง
ช่อชมพู่หดหู่โหยร่วงโรยรอง
เหมือนร่ำร้องข้องใจในท่าที
จำใจจากฝากฝันวันคืนเก่า
คงเงียบเหงาเว้าวอนร้าวรอนถี่
ครวญคะนึงถึงผูกพันนานหลายปี
ต่อแต่นี้มีแต่หมองร่ำร้องลา
ลืมจะลืมอย่างไรใจแรมร้าง
จางใจจางเบาบางอ้างว้างผวา
หงอยคงหงอยอ้อยสร้อยน้อยใจนา
รื้นน้ำตาปร่าใจไหลย้อนคืน
บ้านหลังเก่าเหงางันก่อนวันจาก
เคยรับปากจากไกลแม้ใจฝืน
มองเหม่อมองสองตาด้วยเต็มตื้น
กล้ำก้อนกลืนสะอื้นแอบแปลบปวดใจ
14 มีนาคม 2551 08:14 น.
อินสวน
สายลมหงอย อ้อยสร้อย เลื่อนลอยผ่าน
โรยละลาน ม่านม่วง หวั่นทรวงหมอง
ตะแบกไพร ไหวพวง ร่วงรายรอง
ลิ่วละล่อง ท่องทาบ อาบอารมณ์
ท่ามพงพฤกษ์ ผลึกฝัน หวั่นวาบไหว
ตะกอนใจ ไหลกลับ ทอทับถม
อกสะท้อน ร้อนร่ำ คำคนคม
ขื่นคายขม ลมผ่าว ข่าวร้อนมา
ร่ายเรียงคำ ลำไผ่ ไหวโยนเหย้า
จากชายเขา เล้าเรียก เพรียกภูผา
เป็นท่วงถ้อย ร้อยคำ จำนรรจา
พร่ำพรรณนา สัญญาใจ ไม่ลืมกัน
กลางพนา เขาเขิน เอิ้นคำอ้อน
ขอลมร้อน อ่อนโอน ปลอบโยนขวัญ
ดูแลใจ คลายเหงา ร้าวชีวัน
ต่อเติมฝัน คนไกล ไม่ดายเดียว
2 มีนาคม 2551 21:34 น.
อินสวน
ละลานลิ่วทิวสลอนซ้อนสลับ
ขอบฟ้ารับขับสันเขาเงาตระหง่าน
ต่างตึกสูงรุ่งเรืองเพียงวิมาน
ณ สถานสวรรค์เคียงถิ่นเวียงพิงค์
บนดาดฟ้าเซ็นทาราสายตาทอด
เมฆากอดพรอดภูดูอ้อยอิ่ง
ยอดสุเทพดูเป็นใจไม่ไหวติง
ไม่ทอดทิ้งฟ้าเหงาเศร้าเดียวดาย
บนตึกสูงเทียมฟ้าสายตาเหม่อ
คิดถึงเธอคนไกลมั่นใจหมาย
ฝากลมร้อนอ้อนวาจาอย่ากลับกลาย
ในอกชายไม่วายห่วงหลวงพระบาง
ฝากความรักปรารถนาดีขี่ข้ามฟ้า
เกาะเมฆาพาเคียงใจไม่เหินห่าง
วูบลมพัดสัมผัสได้ไม่อ้างว้าง
จากปลายทางต่างส่งใจได้เคียงกัน