24 กันยายน 2552 23:39 น.
อินสวน
....................................
ตะวันคล้อยเคียงน้องประคองไต่
ขึ้นบันไดตั้งใจไปอธิษฐาน
กราบพระธาตุพูสีอภิบาล
ดลบันดาลเราสองครอบครองใจ
น้องชี้ชวนชมเมืองภาพเบื้องล่าง
หลวงพระบางงามประเทืองเรืองไสว
ทัศนาทุ่งทองผ่องอำไพ
ขุ่นและใสวารีสีต่างกัน
แม่ขานใสไหลลงแม่โขงขุ่น
เนื้อนาบุญการุณย์จากสวรรค์
ต่างที่มาที่ไปได้ผูกพัน
เป็นรักมั่นสันนิวาสไม่คลาดคลา
ตะวันรอนอ่อนแสงใกล้แลงค่ำ
ทุกถ้อยคำทุ่มเทเสน่หา
อยากยื้อยุดหยุดวันและเวลา
จึงเป็นคำสัญญาเราสองคน
หากมีบุญวาสนาไม่อาภัพ
พี่จะกลับย้อนมาหาอีกหน
แดดผีตาก ผ้าอ้อม ย้อมมณฑล
วิโยคล้นหลั่งลาน้ำตานอง
.........................................
บนพระธาตุพูสีวันนี้ร้าง
มองรอบข้างอ้างว้างเศร้าหมางหมอง
ดอกจำปาหน้าฝนหล่นก่ายกอง
เป็นพยานเรียกร้องคำสัญญา
22 กันยายน 2552 12:01 น.
อินสวน
ปลายวสันต์ใกล้วันออกพรรษา
ณ ปลายนาที่เก่าต้นข้าวไสว
สายลมอ้อนแดดอ่อนย้อนรำไร
ลอดเงาไม้ไล้ทาบอาบลออ
คำปู้จู้เรียงรายเหลืองอร่าม
สายันต์ยามเลยบ่ายสายลมล้อ
เอี้ยงอ้อยสร้อยบินเฉื่อยเรื่อยเรียงรอ
คู่พะนอไปไหนไร้วี่แวว
เห็นตาลเดี่ยวเดียวดายคล้ายงันหงอย
ตะแบกคอยถอยท้อเป็นทิวแถว
ริมเถียงนากาสะลองสุดร่องแนว
ผ่านมาแล้วหลายฝนจนชาชิน
แคร่ข้างนาใครหนาที่นั่งเหม่อ
คงคอยเก้อบางใครที่ใจหิน
ลมรำเพยระเหยคราบหลั่งริน
รอยถวิลสิ้นหวังหรือค้างคา
ตะวันอ้อมล้อมลัดลงเหลี่ยมเขา
ความเงียบเหงาเร้ารอบจากขอบฟ้า
ดับความฝัน สุดท้าย ณ ปลายนา
ทิ้งเสน่หา...อาลัยให้คร่ำครวญ
16 กันยายน 2552 06:05 น.
อินสวน
ขอปลูกสะหลิดติดต้นสะรัก หวังฮักกอดกลิ้งคิงนาง............. สะหลิดบานนักสะรักหลายหลาง จักไขบอกนางคิงปันฮ่างน้อย...........กรู่วุ๊ก...(เสียงนกฮูกร้อง)
บ้านอ้ายอยู่ไกล๋...........หัวใจ๋อยู่ใกล้ไขเตียวมาไจฮ่อมซ้อน..........ถ้าเเหมือน
กำจ๋าตี่ว่าบ่ฮ้าย จ่ะย้ายเขตบ้านมาจู จะย้ายยกป๊ะมาฮิมเล้าหมู ย้ายเอากนตู
มาจูเล้าข้าว........กรู่วุ๊ก...(เสียงนกฮูกร้อง)
หวั่นไหววิตก........หัวอกฮุ่มฮ้อนกลั๋วกู้อ้อนลืมลา เหมือนยะนาน้ำฟ้า รอถ้าน้ำ
ฝนหวังแสงเดือนมน...น้องจุล่ายอ้าย.......หลอนยะนาแพะน้ำแห้งดินแข็ง
เสียบ่าเสียแฮง.....กินแหน๋งเต้าเฒ่า ...........กรู่วุ๊ก...(เสียงนกฮูกร้อง)
แปลได้ประมาณนี้นะครับ
ขอปลูกรักเอาไว้อยากใกล้ชิด
ดอกสลิดดอกรักงามนักหนา
อยากเอื้อนเอ่ยความนัยไขวาจา
อยากเกี่ยวกอดขวัญตาอรชร
คนบ้านไกลเยื่อใยมีไม่น้อย
หัวใจคอยรักจริงมิ่งสมร
ปรารถนาร่วมเรียงได้เคียงนอน
คลายหนาวร้อนโฉมตรูเฝ้าดูแล
หากว่าเป็นเฉกเช่นที่พี่ฝัน
จะสร้างสรรค์หลักฐานพร้อมเถ้าแก่
จะยกยุ้งย้ายเรือนไม่เชือนแช
ขอให้ใจรักแน่อย่างแท้จริง
กลัวจะเป็นฝันค้างอยู่ข้างเดียว
นาดินเหนียวเปรียบได้กับใจหญิง
ฝนทิ้งช่วงล่วงแล้งแห้งเหี่ยวทิ้ง
ให้พี่นิ่งคอยเก้อเผลอใจคอย
12 กันยายน 2552 09:47 น.
อินสวน
หนึ่งในใจใช่มีเพียงที่หนึ่ง
ความซาบซึ้งใช่มีที่หนึ่งครั้ง
ประทับใจมีได้แม้ชิงชัง
แม้ผิดหวังบ่อยครั้งยังทานทน
หนึ่งในรักหนักแน่นใช่แฟนเก่า
บทรักเศร้าจบฉากลงหลายหน
มีผ่านมาผ่านไปหลายหลายคน
พรหมบันดลพ้องพานแล้วผ่านเลย
ล้านเวลานาที ณ ที่ต่าง
ร้อยแปดพันอย่างลับเปิดเผย
หมื่นแสนประสบพบและเคย
จุดจบลงเอยแตกต่างไป
ล้านรู้สึกลึกเร้นและเร่าร้อน
ล้วนซับซ้อนเชิงชั้นลดหลั่นไล่
ต่างวาระต่างประเด็นจงเห็นใจ
ขออภัยหากทำให้ใครขุ่นเคือง
9 กันยายน 2552 23:37 น.
อินสวน
ท่ามดึกดื่นคืนหนาวเหงาอ้างว้าง
ริมหน้าต่างบานเก่าเงามืดหมอง
ม่านหมอกบางพร่างพรมห่มละออง
พลิ้วลมล่องจากเหนือเจือกลิ่นไอ
หอบหอมจางห่างไกลจากไพรพฤกษ์
ย้ำรู้สึกลึกซ่อนความอ่อนไหว
กลับปวดร้าวหนาวเหน็บเจ็บกลางใจ
กลั่นหยดไหลในเงาเศร้าเดียวดาย
ขวัญดินฉ่ำด่ำดื่มลืมทรมาน
เริ่มฝันหวานวาดหวังไม่จางหาย
ความคิดถึงล้นหลากมีมากมาย
ไม่เคยคิดแหนงหน่ายระคายเลย
วูบหวั่นไหวใจหวามยามใกล้รุ่ง
ลมหัวทุ่งโชยเลาะมาเยาะเย้ย
อีกไม่นานสุริยาจะชิดเชย
เป็นดั่งเคยน้ำค้างจะร้างลา
หอมกลิ่นแก้วราตรีจำปีกรุ่น
ที่เคยคุ้นขวัญดินถวิลหา
เพื่อนสนิทชิดชอบปลอบอุรา
ล่วงหล่นมาทุกคราที่ดายเดียว
อีกไม่นานหรอกหนาฟ้าจะสาง
ทิ้งรอยหมางอ้างว้างอย่างแห้งเหี่ยว
ให้ขวัญดินเคว้งคว้างบนทางเทียว
ไม่เคยคิดเฉลียวก่อนรุ่งราง