30 มิถุนายน 2553 11:05 น.
อินสวน
วันอากาศอบอ้าวเธอหนาวสั่น
แล้งความฝันท้อถอยรอยหวั่นไหว
ในแววตาปวดร้าวเกินก้าวไป
จะวันนี้วันไหนไม่ต่างกัน
ดอกเฟื่องฟ้าแดงแสดกลางแดดบ่าย
ดูเดียวดายไร้ลมมาพรมฝัน
ความว่างเปล่าเทียบเท่าความผูกพัน
ความอ้างว้างกางกั้นความมั่นใจ
ลมหายใจเข้าออกบอกเรื่องผ่าน
สั่นสะท้านรานลึกรู้สึกได้
ทอดถอนถ่ายระบายจากภายใน
ว่าสิ้นไร้ไมตรีเคยมีมา
เป็นนิยายนิยามความปวดเจ็บ
ที่ถูกเก็บกดดันซ่อนปัญหา
เรื้อรังร้าวยาวนานผ่านเวลา
จากวาจาเย็นชาและล้าโรย
ท่ามสายลมรวยรินใกล้สิ้นสุด
ขอใจเธอผ่องผุดหยุดไห้โหย
นอกหน้าต่างพร่างพรายฝนปรายโปรย
ลมพัดโชยวูบวับเธอหลับตา......
16 มิถุนายน 2553 10:27 น.
อินสวน
หอมไอดินปนกลิ่นมะลิซ้อน
ลมชายเขาพัดย้อนก่อนรุ่งสาง
ละอองไอภายนอกเจือหมอกจาง
ริมหน้าต่างบานเก่าดูเหงางัน
น้ำค้างรินรางรดหยดกระจาย
สัมผัสกายรายล้อมอ้อมดงฝัน
ย้อนยอกเจ็บเหน็บหนาวร้าวชีวัน
เสียงไก่ขันสั่นไหวใจเลื่อนลอย
กลิ่นควันไฟไอข้าวเคล้าเคยคุ้น
ยังละมุนกรุ่นอวลไม่ลดน้อย
แว่ววังเวงเพลงพ่อผู้รอคอย
เพียงแผ่วผล็อยรอยรื้นบนผืนดิน
อรุณรุ่งสุริยาฟ้าจำรัส
ตำลึงรัดเกี่ยวกอดยอดกระถิน
ดอกสลิดรายล้อมหอมรวยริน
ยกสำรับของกินออกวางเรียง
สามเณรน้อยทยอยบิณฑบาต
กะวีกะวาดเสร็จสรรพสดับเสียง
กรวดน้ำรับพรดังแม่นั่งเคียง
อยากให้ลูกพอเพียงเลี้ยงชีพตน
สวนหลังบ้านทิ้งอยู่ดูรกร้าง
พ่อเคยสร้างวาดหวังไว้ท่วมท้น
ผลหมากรากไม้ให้ทุกคน
ยามอับจนขัดสนได้จุนเจือ
แนวลวดหนามชำรุดดูหลุดลุ่ย
บ่อหมักปุ๋ยมุงจากเห็นซากเหลือ
เถาวัลย์คลุมเหยิงยุ่งรุงรังเรื้อ
พ่อทำเพื่อสิ่งใด...ใจร้าวราน
อีกนานไหมเมื่อไหร่ไยสับสน
จะเหลือล้นจนลูกยอมกลับบ้าน
ถามใจดูรู้ใจอีกไม่นาน
ใจสะท้านไม่นานเกินแม่รอ
12 มิถุนายน 2553 16:37 น.
อินสวน
วันนี้แดดจ้าร้อนอบอ้าว
แต่เธอกลับบอกหนาวและหวั่นไหว
ฉันถามว่าใครบ้างมาเยี่ยมไข้
เธอบอกไม่ไม่มีไม่ต้องการ
เธอถามว่าเธอจะตายไช่ไหม
ฉันบอกไม่เธออยู่ได้อีกนาน
แต่เธอต้องต่อสู้อย่างกล้าหาญ
ต้องประสานร่วมกันระหว่างเรา
เธอบอกว่าชีวิตนี้ไม่มีใคร
กำลังใจจากไหนในคนเหงา
โลกของเธอเลวร้ายเกินจุดเศร้า
ความว่างเปล่าความรักสิ่งเดียวกัน
ฉันกอดเธอปลอบโยนปนสะอื้น
ระบายความขมขื่นรื้นตาฉัน
เธอขอกอดฉันบ้างเป็นรางวัล
แด่คนด้อยความฝันอย่างตัวเธอ
ฉันทวงถามติดตามความร่วมมือ
เธอไม่ดื้อกินยาตามเสนอ
หลายถ้อยคำพร่ำพูดเหมือนคำเพ้อ
อย่างน้อยก็ยังเจอฉันวันนี้
เธอถามว่าฉันชอบกินอะไร
ยันยันว่าไม่ได้ถามเซ้าซี้
แต่ถ้าหากโอกาสของเธอมี
เธอจะทำสิ่งนี้ให้ฉันกิน
ชีวิตเธอเลวร้ายผ่านคุมขัง
ปัญหารุมประดังไม่จบสิ้น
โรคภัยร้ายคุกคามล่าชีวิน
เกือบแดดิ้น..เดียวดายใจมืดมน
นอกหน้าต่างวูบไหวกิ่งไม้ลู่
น้ำตาฟ้าพร่างพรูเป็นสายฝน
หนาวมากไหมเธอบอกยังพอทน
มีไออุ่นปะปนในหัวใจ
เธอเอ่ยขอต่อไปอยากมีฉัน
ไม่ถึงกับทุกวันจะได้ไหม
เพื่อเธอหายหดหู่สู้ต่อไป
ปราศจากเงื่อนไข..ฉันตกลงb>
9 มิถุนายน 2553 16:34 น.
อินสวน
ริมฝั่งน่านสายันต์ ณ วันนั้น
ดวงตะวันชิงพลบลบรอยฝัน
วันสองเราแยกทางห่างไกลกัน
ต่างมุ่งมั่นเป้าหมาย ต่างปลายทาง
อนาคตสวยงามนิยามไว้
บนทางไกลก้าวเดินอย่าเมินหมาง
กำลังใจมีให้ไม่จืดจาง
ณ เวลาอ้างว้างต่างดูแล
เป็นเพื่อนคู่ชีวินจินตนาการ
ในมุมมองอีกด้านเหมือนรักแท้
กับความจริงบางสิ่งเป็นตัวแปร
สายสัมพันธ์อ่อนแอจึงแปรตาม
ต่างโลดแล่นบนแผนทางชีวิต
ต่างแนวคิดต่อเติมเริ่มมองข้าม
ความน้อยใจมากถึงจึงลุกลาม
ความรู้สึกงดงามจึงลดลง
ริมฝั่งน่านเชิงสะพานในวันนี้
สายน้ำที่เคยคุ้นขุ่นใหลหลง
ความอ้างว้างหมางใจในพะวง
ยังมั่นคง....เก็บตะวัน....ในฝันงาม
2 มิถุนายน 2553 19:49 น.
อินสวน
บนชานไม้ชายเขาลมเหงาผ่าน
ดอกตะแบกม่วงบานริมธารใส
แสงแดดบ่ายล่วงล้ำเพียงรำไร
แคร่ไม้ไผ่มีชายคล้ายเหม่อลอย
ทอดสายตาฟ้ากว้างขอบเขากั้น
ทะเลฝันฟากนั้นคงงันหงอย
ฝากลมฝนมีคนทางนี้คอย
อย่าท้อถอยเศร้าสร้อยหรือน้อยใจ
ลมวูบไหวหวั่นหวามคำถามฝาก
พัดหวนจากฟ้าครามข้ามไศล
ยังยืนยันเหนียวแน่นจากแดนไกล
ตราบใบไม้ทักทายกับสายลม
ตะแบกม่วงร่วงกราวนอกราวชาน
ลูกทุ่งหวานปนเศร้าเคล้าผสม
ความคิดถึงโถมถั่งพรั่งพรูพรม
บรรจงก้มเก็บกลีบ..ไว้กลางใจ