28 ธันวาคม 2550 20:47 น.

ตำนาน ดอกกุหลาบ

อิจิโกะ

เคยได้ยินคำเปรียบเปรยไหมที่ว่า ผู้หญิงสวยแต่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมก็เปรียบได้ดัง "ดอกกุหลาบ" เพราะดอกกุหลาบนั้นแม้จะมีรูปร่างภายนอกที่สวยงามรวมถึงกลิ่นที่หอมชวนดมแต่มันก็มีหนามแหลม หากไม่ระวังอาจโดนบาดได้ง่ายๆ 

          กุหลาบนั้นมีชื่อสามัญว่า "Rose" ชื่อทางพฤกษาศาสตร์ว่า "Rosa hybrids" และมีชื่อวงศ์ว่า "Rosaceae" ขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่ง ลักษณะของกุหลาบนั้นมีทั้งไม้พุ่มและไม้เลื้อย ลำต้นและกิ่งจะมีหนาม ส่วนดอกของกุหลาบจะมีทั้งดอกเดี่ยวและเป็นช่อ กลีบดอกมีลักษณะใหญ่ มีไม่ต่ำกว่า 5 กลีบ กุหลาบนั้นจะมีกลิ่นหอมชวนดม โดยมันจะมีหลายสี เช่น แดง ขาว เหลือง ชมพู ฯลฯ และมีอยู่หลายชนิดด้วย 
ซึ่งคำว่ากุหลาบนั้นมาจากคำว่า "คุล" ที่ในภาษาเปอร์เซียแปลว่า "สีแดง ดอกไม้ หรือดอกกุหลาบ" โดยในภาษาฮินดีก็มีคำว่า "คุล" แปลว่า "ดอกไม้" และคำว่า "คุลาพ" ก็หมายถึงกุหลาบอย่างที่ไทยเราเรียกกัน แต่ออกเสียงเป็น "กุหลาบ" ส่วนคำว่า "Rose" ในภาษาอังกฤษนั้นมาจากคำว่า "Rhodon" ที่แปลว่ากุหลาบในภาษากรีก 

          โดยกุหลาบเป็นดอกไม้ที่นิยมปลูกมาแต่โบราณ ว่ากันว่ากุหลาบเกิดขึ้นเมื่อ 70 ล้านปีมาแล้ว และเคยมีการค้นพบฟอสซิลของกุหลาบที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยแต่ก่อนกุหลาบนั้นเป็นกุหลาบป่าและมีรูปร่างไม่เหมือนในทุกวันนี้ แต่เนื่องจากมนุษย์ได้นำเอากุหลาบป่ามาปลูกและผสมพันธุ์จนขยายเป็นพันธุ์ต่างๆ มากมาย 
 ตามประวัติศาสตร์เล่าว่ากุหลาบป่าถูกนำมาปลูกไว้ในพระราชวังของจักรพรรดิ์ ในสมัยราชวงศ์ฮั่นราว 5,000 ปีมาแล้ว ขณะที่อียิปต์เองก็ปลูกกุหลาบเป็นไม้ดอกส่งไปขายให้แก่ชาวโรมัน เพราะชาวโรมันเป็นชาติที่รักดอกกุหลาบมาก แม้ว่าจะสั่งซื้อจากประเทศอียิปต์แล้วก็ตามแต่ก็ยังลงทุนสร้างสถานที่ขนาดใหญ่สำหรับปลูกดอกกุหลาบอีกด้วย เพราะสำหรับชาวโรมันแล้วดอกกุหลาบนั้นมีความสำคัญต่อชีวิตประจำวัน อีกทั้งชาวโรมันถือว่าดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของความรัก เป็นทั้งของขวัญ และเป็นดอกไม้สำหรับทำมาลัยต้อนรับแขก รวมถึงเป็นดอกไม้สำหรับงานฉลองต่างๆ แถมยังเป็นส่วนประกอบสำหรับทำขนม ทำไวน์ และยาได้อีกด้วย 

          และเมื่อเอ่ยถึงดอกกุหลาบแล้ว หลายๆ คนก็คงจะนึกถึงเรื่องความรัก เพราะกุหลาบถือเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความโรแมนติก โดยมีบางตำนานเล่าว่า ดอกกุหลาบเป็นเสมือนเครื่องหมายแทนการกำเนิดของ เทพธิดาวีนัส ซึ่งเป็นเทพแห่งความงามและความรัก วีนัสเป็นที่รู้จักกันในชื่อ อโฟรไดท์ ในตำนานเทพของกรีกได้กล่าวไว้ว่า น้ำตาของเธอหยดลงปะปนกับเลือดของ อคอนิส คนรักของเธอที่ถูกหมูป่าฆ่า เลือดและน้ำตาหยดลงสู่พื้นแล้วกลายเป็นดอกไม้สีแดงเข้มหรือดอกกุหลาบนั่นเอง แต่บางตำนานก็เล่าว่าดอกกุหลาบเกิดจากเลือดของ อโฟรไดท์ เองที่หยดลงสู่พื้น เมื่อเธอแทงตัวเองด้วยหนามแหลม 

 แม้จะไม่มีการบันทึกอย่างชัดเจนว่าดอกกุหลาบนั้นเข้ามาเกี่ยวข้องกับบ้าเราตอนไหน แต่จากบันทึกของ ลา ลูแบร์ ราชทูตฝรั่งเศสในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้บันทึกไว้ว่าเห็นกุหลาบที่กรุงศรีอยุธยา และในกาพย์ห่อโคลงนิราศธารโศกสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ ก็ได้มีการกล่าวถึงกุหลาบเอาไว้ และยังมีตำนานดอกกุหลาบของไทยที่เป็นบทละครพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 6 เรื่อง มัทนะพาธา ในเรื่องเล่าถึงเทพธิดาองค์หนึ่งชื่อ "มัทนา" ซึ่งได้มีเทพบุตรองค์หนึ่งชื่อ "สุเทษณะ" ซึ่งพระองค์ทรงหลงรักเทพธิดา "มัทนา" มาก แต่นางไม่มีใจรักตอบ จึงถูกสาบให้ไปเกิดเป็นดอกกุหลาบ จึงกลายเป็นตำนานดอกกุหลาบแต่นั้นมา				
28 ธันวาคม 2550 11:56 น.

เรื่องเล่าสอนใจ กาแฟ กับถ้วยกาแฟ

อิจิโกะ

ที่มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง แห่งหนึ่งของสยามประเทศ บรรดาศิษย์เก่าที่จบจากสถาบันนี้ แยกย้ายกันไปประกอบอาชีพ มีชื่อเสียงในวงสังคม ตามวงการต่างๆ มากมาย มีทั้งที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และที่กระท่อนกระแท่น ยังดิ้นรนอยู่ในหน้าที่การงานก็เยอะ 

           เนื่องในวาระ ที่อาจารย์พ่อซึ่งเป็นที่เคารพ ของศิษย์เก่าทุกคน เกษียณอายุ บรรดาศิษย์เก่า จึงถือเป็นโอกาสดี ที่จะกลับไปเยี่ยมสถาบัน เพื่อเลี้ยงสังสรรค์และรำลึกถึงอาจารย์พ่อ 

           หลังจากกินเลี้ยงกันมาได้พักใหญ่ วงสนทนาก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นการบ่นพร่ำเกี่ยวกับความเครียด ในการทำงานและปัญหาชีวิต แต่ละคน มีปัญหาแตกต่างกันออกไปมากบ้างน้อยบ้าง อาจารย์พ่อฟังปัญหาของลูกศิษย์ทุกคนอย่างตั้งใจ รับฟังโดยไม่มีคำวิจารณ์ หรือนำเสนอความเห็นของอาจารย์เลยแม้แต่น้อย 

           เมื่อฟังปัญหาของลูกศิษย์จบทุกคน อาจารย์พ่อเสนอเลี้ยงกาแฟกลุ่มลูกศิษย์เก่า ท่านเดินเข้าไปในครัว และออกมาพร้อมกับกาแฟเหยือกโตและถ้วยกาแฟ แบบต่างๆ บ้างเป็นถ้วยกระเบื้องบ้าง เป็นถ้วยพลาสติก และบ้างทำด้วยแก้ว มีถ้วยกาแฟหลายใบที่เป็นแบบพื้นๆ ธรรมดา บางใบ สวยวิจิตรสูงค่า 

           อาจารย์ ชงกาแฟใส่เหยือกมาให้แล้ว พวกเธอจัดการรินใส่แก้วดื่มกันเองนะ บรรดาลูกศิษย์ มองถ้วยกาแฟหลากหลาย ด้วยความสนใจ แล้วพากันเลือกถ้วยกาแฟพร้อมๆ กับรินกาแฟออกมาจากเหยือกใส่ถ้วยต่างกันออกไปเอามือไว้ 

           เมื่อลูกศิษย์ทุกคนต่างมีถ้วยกาแฟในมือกันทุกคน แล้วอาจารย์พ่อ กล่าวว่า 

           "ลองดูถ้วยกาแฟในมือของพวกเธอ กับถ้วยกาแฟที่เหลืออยู่ในถาดซึ่งไม่มีคนเลือกสิ สังเกตุกันรึเปล่า. ถ้วยสวยๆ แพงๆ ถูกเลือกไปหมด เหลือไว้แต่ถ้วยแบบธรรมดาราคาถูก เป็นเรื่องปกติที่พวกเรามักจะเลือก สิ่งที่ดีที่สุดโดยลืมคิดถึงความต้องการที่แท้จริงของเราและ นี่คือที่มาของความเครียดและปัญหาทั้งหลายในชีวิต" 

           ความจริงวันนี้สิ่ง ที่พวกเราต้องการแท้จริงคือกาแฟ ไม่ใช่ถ้วยกาแฟ แต่จิตสำนึกกลับ นำพาเราไปเลือกที่ถ้วย มิหนำซ้ำยังคอยชำเลืองมองถ้วยของคนอื่นๆ อีกด้วย 

           หากชีวิตคือกาแฟ หน้าที่การงาน ตำแหน่งต่างๆ ในสังคม ก็คือ ถ้วยกาแฟ มันเป็นเพียงเครื่องมือ อุปกรณ์ช่วยหยิบจับหรือประคองชีวิตของเรา มันไม่ได้ทำให้เนื้อหาจริงๆ ของชีวิต เปลี่ยนไป บางครั้ง.การมัวเพ่งที่ถ้วยใส่กาแฟ มันก็จะทำให้เราลืมใส่ใจกับรสชาติของตัวกาแฟ 

           ถ้ารู้จักชีวิตที่แท้จริง.ของหรือตำแหน่งหน้าที่ มันก็แค่ส่วนเคลือบ ไม่ใช่เนื้อหาหรือแก่นแท้ที่สำคัญของชีวิต				
20 ธันวาคม 2550 08:42 น.

เด็กหญิงความรักกับนายรองเท้า ตอนจบ

อิจิโกะ

เด็กหญิงความรัก ได้ยินเพียงเท่านั้น ความรู้สึกอ้างว้าง เดี่ยวดายที่เคยมีก็สลายหายไปในทันที เธอตัดสินใจเดินทางไปในทุกๆทีกับนายรองเท้า แต่ต่อมาไม่นานเด็กหญิงความรักก็ได้พบกับรองเท้าคู่มัย โดยบังเอิญ รองเท้าคู่นี้แตกต่างกับนายรองเท้ามากนัก เพราะเข้าทั้งใหม่ สะอาด สีสันสะดุดตา และดีไซน์นำสมัย อีกทั้งยังเป็นรองเท้าแบนเนมที่มีราคาแพงอีกด้วย เด็กหญิงควาทรักเลยตัดสินใจทิ้งนายรองเท้า แม้ว่าเธอจะสวมใสสบายและพร้อมที่จะเดินก้าวต่อไปกับเธอก็ตาม เด็กหญิงความรักได้สวมรองเท้าคู่ใหม่ที่แสนจะperfctถึงแม้มันอาจจะไม่พอดีกับเท้าเธอก็ตาม เพียงเพื่อต้องการใส่ให้มันดูดีในสายตาคนอื่น เด็กหญิงความรักถึงกับให้รองเท้ากัดจนเธอเจ็บปวดทรมาร แต่เธอก็อดทน และพยามยามเดินไปข้างน่าทั้งที่ในจัยเอนั้นไม่มีความสุขเลย(จบ)
=มันก็เหมือนกับความรักที่รักแรกที่เค้ายอมเสียสละเพื่อเราและเราก็มีความสุขอยู่กับเข้า
=แต่พอเจอคนที่perfctกว่าเราก้ทิ้งเขาเพื่อไปหาคนใหม่ที่ทำให้เราเจ็บปวดทรมารแต่เราก็อยุ่กับเขาเพียงเพราะเรารักเค้า				
19 ธันวาคม 2550 10:40 น.

เด็กหญิงความรักกับนายรองเท้า

อิจิโกะ

ท่ามกลางเมืองที่แสนกว้างใหย่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย มีเด็กคนหนึ่งชื่อว่าเด็กหญิงความรัก ทุกๆวันเด็กหยิงความรักจะเดินทางไปที่ต่างๆตามลำพัง ด้วยสองเท้าเปี่ยนเป่ลา โดยไม่สนว่าพื้นที่เธอเหยียบจะสกปรก หรือสะอาด หรือร้อนระอุ หรือเต็มไปด้วยกิ่งไม้ เศษแก้วต่างๆที่จะทิ่มแทงเท้าอันบอบบางของเธอ เด็กหญิงความรักยังมีความสุขกับการได้เดินด้วยเท้าเป่ลา เธอยังเดิน เดิน และเดินไปเรื่อยๆๆอย่าเดี่ยวดาย แต่แล้ววันหนึ่งกลางเดินทางของเด็กหยิงความรัก เธอรู้สึกเจ็บที่เท้าทั้งสองข้างของเธอจนเธอไม่อยากเดินต่อไป ความรุ้สึกเหงาและว้าเห้วก็เข้ามาเธอทันที ทันใดนั้นเอง เด้กหญิงความรักก็ได้พบกับนายรองเท้า ซึ่งเป็นรองเท้าเก่าๆ คู่หนึ่ง ไม่ได้สะดุตาอะไร นายรองเท้าก็ได้ทักเกหยิงความรักเป็นอย่ามิตร นายรองเท้าถามเด็กหญิงความรักเท้าของเธอคงเจ็บมาก ถ้าไม่รังเกียจ ให้ฉันเดินทางไปพร้อมกับเธอได้มัย ฉันสัญญาว่าจะปกป้องเธอเอง นายรองเท้าถามเด็กหยิงความรัก          
                                                             โปรติดตามตอนจบในวันพรุ่งนี้				
18 ธันวาคม 2550 21:17 น.

นี่แหละความรัก

อิจิโกะ

มีผู้หญิงคนหนึ่งประสบอุบัติเหตุ ทำให้ต้องตาบอดทั้งสองข้าง และเธอก็ทุกข์ทรมานกับการสูญเสียการมองเห็น แต่สามีเธอก็พยายามปลอบใจและให้กำลังใจเธอตลอด พยายามสอนให้เธอใช้ประสาทสัมผัสให้มากขึ้น ที่ทำงานของเธอกับสามีอยู่คนละทาง แต่เขาก็ขับรถไปส่ง และไปรับอยู่เสมอ 

          จนวันหนึ่งสามีเธอรู้สึกเหน็ดเหนื่อยมาก เขาจึงพูดกับเธอว่า... ให้เธอลองพยายามขึ้นรถเมล์ไปทำงานเอง โดยที่เขาไม่ต้องไปรับไปส่งได้ไหม 

          นาทีนั้น... เธอรู้สึกเหมือนโดดเดี่ยว และน้อยใจสามีเธอ แต่เธอก็พยายามทำตามที่เขาขอ เธอพยายามขึ้นรถเมล์เอง พยายามไปทำงานด้วยตัวเอง จนในที่สุดเธอก็สามารถทำได้ 

          วันหนึ่งก่อนที่เธอจะลงรถไปทำงานตามปกติ คนขับรถเมล์ก็เข้ามาจับแขนเธอและพูดกับเธอว่า ผมช่างอิจฉาคุณผู้หญิงจริงๆ ครับ เธอก็เลยถามว่า อิจฉาเธอเรื่องอะไร คนขับรถเมล์ก็เลยบอกว่า สามเดือนที่ผ่านมา ผมจะเห็นสุภาพบุรุษคนหนึ่งเขาจะขึ้นรถเมล์ตอนเช้า มานั่งตรงเบาะหลังคุณ เฝ้ามองดูคุณด้วยความห่วงใย และตามคุณลงรถไป และเฝ้าดูคุณเดินเข้าไปที่ทำงานอย่างห่วงใย และตอนเย็นทุกๆเย็นเขาก็จะมาเฝ้ารอดูคุณขึ้นรถ และคอยดูคุณจนคุณลงรถ 

          พอเธอได้ยินดังนั้น.... เธอก็น้ำตาไหลด้วยความตื้นตันและสำนึกผิด เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยทิ้งเธอไปไหน เขายังอยู่ดูแลเธออย่างใกล้ชิด เขาเหนื่อยยิ่งกว่าตอนที่เขาต้องคอยมารับมาส่งเธอซะอีก 

          เธอหวนนึกถึงคำพูดเขาที่บ่นลอยๆ ออกมาบ่อยๆ ว่า ชีวิตคนไม่แน่นอน อาจตายวันนี้ พรุ่งนี้ ได้ทุกเมื่อเลยนะ.. ดูอย่างคุณสิ...เมื่อวานยัง มองเห็น วันนี้ คุณมองไม่เห็นแล้ว เธอคิดน้อยใจเขามาตลอด 3 เดือน ที่คิดว่าเขา เบื่อ รำคาญ การเป็นคนตาบอดของเธอ 

          ณ วันนี้เธอรู้แล้วว่า... เขากลัวว่า วันนี้ พรุ่งนี้ เขาจะตายไปแล้วเธอจะไม่สามารถไปไหนมาไหน หรือ มีชีวิตอยู่เองได้... ถ้าขาดเขา				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอิจิโกะ
Lovings  อิจิโกะ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอิจิโกะ
Lovings  อิจิโกะ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอิจิโกะ
Lovings  อิจิโกะ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอิจิโกะ