31 กรกฎาคม 2551 09:45 น.

กรงขังของกาลเวลา

อิงภู


อยากมีปีกไว้ร่อนบินได้เหมือนนก
จะเหิรหกให้สมใจใฝ่ปรารถนา
จะร่อนเร่เรืองรองท้องนภา
ไม่ติดกับกรงเวลาฆ่านาฑี

แต่ที่เป็นคือที่เห็นเร้นไร้ปีก
เป็นเพียงซีกของซากคนปนซากผี
ซังกะตายไร้ร่อนร่ายในเมฆี
เดี่ยวฤดีในกรงขังที่วังวน

.........
.........
				
15 พฤษภาคม 2551 17:51 น.

ทำไม...เวลาฝนตกจึงคิดถึงซึ่งคนรัก

อิงภู


ก่อนนานมาท้องฟ้าเคียงเพียงผืนน้ำ
ทั้งสองร่ำฉ่ำรักประจักษ์เห็น
ร่วมร้อยเรียงเคียงคู่ร่วมอยู่เย็น
ก่อนมาเป็นโลกเราเท่าที่ยืน

จึ่งเกิดพืชและสัตว์วัฏฏะวง
ท้องฟ้าคงรักผืนน้ำมิคร้ามขืน
แต่ผืนน้ำเอาใจใส่ในวันคืน
แด่สัตว์อื่นและพืชต่างอย่างมากมาย

จนละเลยเฉยชาท้องฟ้าห่าง
ให้เปลี่ยวว้างกว้างไกลไปสุดสาย
ผืนน้ำตื่นฟื้นผงกเมื่อนกกราย
จึงรู้ปลายท้องฟ้าว่าห่างกัน

ผืนน้ำเศร้าเท่าใดที่ใจครวญ
ทั้งม้วนคลื่นฝืนถ่อต่อสวรรค์
กี่ลูกคลื่นม้วนฝืนก็ครืนพลัน
มิอาจทันเท่าฟ้ามาเบื้องบน

แสนคิดถึงซึ่งธารท่องกับท้องฟ้า
ใยจากลาแล้วไม่กลับ ลับฉงน
ดวงอาทิตย์ อดสงสารการกมล
จึงส่องบนผืนน้ำเป็นฉ่ำไอ

เป็นปุยเมฆเสกรูปเป็นเรื่องเล่า
ให้ท้องฟ้าได้ยินเอาเข้าใจไหม
ผืนน้ำยังคิดถึงซึ่งวันใด
ท้องฟ้าได้แนบชิดสนิทกัน

ท้องฟ้าบอกว่าอยู่สูงเกินจะกลับ
ส่วนปุยเมฆก็ขยับรับสานฝัน
อาสาส่งความคิดถึงซึ่งจำนรรจ์
เป็นสายฝนพรมชั้นกลั่นลงมา

เมื่อฝนตกจึงคิดถึงซึ่งคนรัก
เหมือนท้องฟ้าทายทักในเวหา
กลั่นคำนึงความคิดถึงเป็นน้ำตา
สู่ผืนน้ำแห่งธาราและผืนใจ.

				
14 พฤษภาคม 2551 18:11 น.

เพียงเพ้อ

อิงภู


ตะวันจะลับกลับเข้าทิวเขาเขียว
มือเรียวเรียวยังฟ้อนไหมในวงสาย
แดดยามเย็นเร้นเงาเข้าพร่างพราย
แต่ลวดลายของผืนผ้าพาเรืองรอง

ใบหน้านวลชวนพิศพินิจชม
นัยน์ตากลมใยโศกโลกทั้งผอง
ไร้รอยยิ้มพริ้มเพราแม้เฝ้ามอง
ใยนวลน้องหมองเศร้าเท่าฉะนี้

มือน้อยน้อยค่อยหมุนวงกงสายไหม
แต่ดวงใจกลับนิ่งทิ้งสุขี
ตะวันหม่นกล่นเทาเข้าทุกที
หรือไม่มีใครคอยเจ้าที่เฝ้าคอย

แสงสุดท้ายของปลายเขาเฝ้าโอบฟ้า
ภาพเบื้องหน้าเข้าลางเลือนเหมือนหลับผล็อย
ลืมตาตื่นฟื้นฝันนั้นเลื่อนลอย
มือน้อยน้อยก็หายวับกับเวลา.
				
9 พฤษภาคม 2551 16:49 น.

นั่งมองสายวสันต์

อิงภู


นิรมิตกลางท้องทุ่งฟุ้งกำจาย
เป็นเลื่อมลายเลื่อมเกล็ดเมล็ดฝน
เป็นพรมพริ้วริ้วลายในสายชล
เป็นเวหนที่กำสรวลรวนน้ำตา

นั่งมองสายวสันต์ในวันนี้
เดี่ยวฤดีที่ร่วงโรยจักโหยหา
พาให้เศร้าเหงาหม่นจนเอกา
เสียงสาดซ่าพาจิตใกล้ปลิดวาย

คิดถึงสายวสันต์วันมีเธอ
ความสุขเอ่อดั่งหยาดทิพย์ระยิบสาย
กลางสายน้ำที่ฉ่ำรื่นชื่นพระพาย
กลางริ้วลายลอดรุ้งพยุงกัน

แต่ความคิดเป็นแค่จินต์ถวิลหา
ความจริงมาเรียกคืนให้ฟื้นฝัน
ให้โดดเดี่ยวอ้างว้างกลางชีวัน
สายวสันต์ยังหล่นโรยโปรยน้ำตา

นิรมิตกลางท้องทุ่งจรุงจรัส
หลังวสันต์สาดซัดเข้าโถมถา
ก็สาดแสงส่องใสในนภา
สุริยาเรื่องรองผ่องอำไพ.
><
				
1 พฤษภาคม 2551 18:22 น.

แด่บ้านกลอนอักษรศิลป์ คีตกวินกวีงาม

อิงภู



อยากให้บ้านกลอนทรงอักษรศิลป์
ภาษาวิจิตรจินต์บรรจงเขียน
เนรมิตอักษรามาว่ายเวียน
เจิดจำเนียรแจ่มจรัสชัชวาลย์

      ให้คุณค่าของอักษรได้ร่อนร่าย
      เป็นกาพย์ โคลง พร่างพรายไว้สืบสาน
      เป็นบทกลอนสอนคิดชีวิตปราณ
      สมตำนานบ้านกลอนอักษรไทย.

				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอิงภู
Lovings  อิงภู เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอิงภู
Lovings  อิงภู เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอิงภู
Lovings  อิงภู เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอิงภู