22 พฤศจิกายน 2550 19:18 น.
อายิจัง
ข้อคิดสำหรับ..."มนุษย์เงินเดือน"
เพื่อนส่งมาให้อ่านค่ะ เห็นว่ามีข้อคิดดีๆ ลองอ่านดูนะคะ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีนกแสนสวยตัวหนึ่ง มีขนสวยงามมาก มีคนอยากได้ไว้ครอบครองเป็นจำนวนมากแต่ไม่เคยมีชาวบ้านคนไหนจับนกตัวนั้นได้เลย อยู่มาวันหนึ่งมี อาบัง ขายถั่วมานั่งใต้ต้นไม้ที่มีนกแสนสวยอยู่ พอนกแสนสวยเห็นถั่วของอาบังก็เกิดอยากกินขึ้นมา จึงร้องบอกอาบังว่า
อาบัง อาบัง ขอถั่วให้ชั้นกินหน่อยสิ
อาบังได้ยินดังนั้น ก็ตอบกลับไปว่า
ได้เลย ได้เลย แต่ขอขนให้ชั้นเส้นนึงนะ
พอนกได้ยินดังนั้น ก็ก้มลงมองที่ขนของตนเอง แล้วคิดว่า
ขนของตนเองนี่มีเยอะมาก เสียไปสักเส้นคงไม่เป็นไรหรอก นกแสนสวยก็เลยให้ขนอาบังไปหนึ่งเส้น แล้วก็ลงไปกินถั่วของอาบัง วันต่อมานกแสนสวยก็บอกกับอาบังอีกว่าขอถั่วให้ชั้นกินหน่อยสิ อาบังก็ตอบเหมือนเดิมว่าขอขนให้ชั้นเส้นหนึ่งก่อน นกแสนสวยก็คิดเหมือนเดิมว่าขนมันยังมีอยู่เยอะก็เลยให้ขนอาบังไปอีก เป็นอย่างนี้ต่อไปอีกหลายวัน จนวันหนึ่ง นกแสนสวยก็ขอถั่วอาบังกินอีก อาบังก็ตอบเหมือนเดิมว่า ขอขนให้ชั้นเส้นหนึ่งก่อน นกก็ไม่รีรอรีบให้ขนอาบังไปทันที แล้วลงมากินถั่วของอาบัง อาบังก็เลยจับนกตัวนั้นไว้ได้ เพราะว่าขนของมันเหลือน้อยแล้วไม่สามารถที่จะบินหนีอาบังได้
เรื่องนี้ถ้าอ่านผ่านไปอาจจะไม่ได้อะไรเลยนะครับ
แต่ถ้าเราลองคิดให้ดี เปลี่ยนจากนกแสนสวยเป็นตัวเรา ขนของนกแต่ละเส้นคือเวลาของเราที่เสียไปและอาบังเป็นนายจ้างของเราส่วนถั่วที่อาบังให้ก็เหมือนกับเงินเดือนที่นายจ้างให้เรานะครับ
หมายความว่า
ทุกวันนี้ ถ้าเรายังประมาทในการใช้ชีวิตยังพอใจแค่เงินเดือนที่นายจ้างให้เราทุกเดือนนะครับ เวลาของเราก็จะค่อยๆหมดไปเรื่อยๆ เวลาของเราไม่ได้มีมากมายหรอกครับแป๊บเดียวเดี๋ยวมันก็หมดไปแล้ว ซึ่งเงินเดือนที่นายจ้างให้เราเนี่ยก็ให้แค่พอเราอยู่ได้ทุกเดือนเท่านั้นแหละครับ บางคนอาจจะคิดว่าการทำงานประจำเป็นอาชีพที่มั่นคง แต่ผมว่าไม่นะครับ เพราะว่าการเป็นลูกจ้างเค้าเนี่ยเราไม่สามารถที่จะกำหนดวิถีชีวิตของตัวเองได้ เราถูกนายจ้างเรากำหนดให้ต่างหากว่าจะหยุดวันไหนวันนี้จะทำอะไร ผมไม่อยากให้ทุกคนยึดติดกับความคุ้นเคยกับความสบายเพียงแค่วันนี้แต่อยากจะให้มองให้ไกลๆ มองถึงอนาคตของเราว่าเราจะหยุดทำงานเมื่อไหร่เราจะใช้ชีวิตในวัยเกษียณอย่างไร อย่าเป็นเหมือนนกแสนสวยนะครับที่รู้ตัวก็ตอนที่ตัวเองไม่มีขนอยู่ที่ตัวแล้ว
22 พฤศจิกายน 2550 19:16 น.
อายิจัง
นมเปรี้ยวกับการลดความอ้วน........
เชื่อว่ามีคุณผู้หญิงหลายๆท่านที่เข้าใจว่าดื่มหรือรับประทานนมเปรี้ยว จะช่วยลดความอ้วนได้ ในฉบับนี้เราจะมารู้จักนมเปรี้ยวกัน นมเปรี้ยวหรือ โยเกิรต์ทีที่มีวางในท้องตลาด แบ่งออกได้เป็น 2ประเภทใหญ่ๆคือชนิดของเหลว สามารถดื่มได้ทันที กับชนิดกึ่งแข็งกึ่งเหลว โดยนมเปรี้ยวจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากการนำนมไปหมัก ด้วยจุลินทรีย์ที่ไม่ทำให้เกิดโรค อาจมีการเติมวัตถุอื่นที่จำเป็นต่อกรรมวิธีการผลิต และอาจมีการปรุงแต่งสี กลิ่น รส ด้วย สำหรับจุลินทรีย์ที่นิยมใช้กันเป็นแบคทีเรียกลุ่มแลคโตบาซิลลัส และสเตรปโตคอคลัสซึ่งแบคทีเรียนี่เปลี่ยนน้ำตาลแลคโตส ในนมให้เป็นกรดแลคติด ทำให้ที่มีปัญหาเกิดอาการท้องเสียจากการดื่มนมเนื่องจากร่างกาย ไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตสได้
สามรถรับประทานนมเปรี้ยวแทนนม และได้รับคุณค่าทางอาหารของนมได้
สำหรับความเข้าใจที่ว่านมเปรี้ยวจะไม่ทำให้อ้วนนั้นจริงๆแล้ว พลังงานทั้งหมดที่ได้จากนมเปรี้ยว จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต เช่น ถ้านมเปรี้ยวที่ทำจากนมสดก็ย่อมให้พลังงานมากกว่านมเปรี้ยว ที่ทำมาจากนมพร่องมันเนย ซึ่งมีไขมันต่ำกว่า แต่หากมีการเติมน้ำตาลมากๆเพื่อให้มีรถหวาน นมเปรี้ยวนั้นก็อาจให้พลังงานมากกว่านมธรรมดาๆก็ได้ เวลาที่จะเลือกซื้อนมเปรี้ยวมารับประทาน ต้องดู
ละเอียดต่างๆบนผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะบอกส่วนประกอบสำคัญว่ามีอะไรบ้าง นอกจากนี้ ที่ฉลากยังจะบอกชื่ออาหาร ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิตปริมาตรสุทธิ ข้อความที่แสดงว่ามีการใช้วัตถุเจือปนอาหาร ในกรณีที่มีการใช้ที่สำคัญมีเครืองหมาย อย. แสดงเลขทะเบียนตำรับอาหารหรือเลขที่รับอนุญาตให้ใช้ฉลากอาหาร และวันเดือนปีที่หมดอายุ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการเลือกซื้อนมเปรี้ยวมารับประทาน นอกจากดูรายละเอียดบนฉลากแล้วต้องตรวจดูภาชนะบรรจุ ว่าอยู่ในสภาพเรียนร้อยหรือไม่ มีการปิดผนึกสนิท ไม่รั่ว ซึมหรือฉีกขาด และการเก็บสินค้าต้องเก็บอย่างถูกต้องเหมาะสม เช่น ถ้าเป็นนมพาสเจอร์ไรส์ ต้องเก็บในตู้เย็นหรือตู้แช่ อุณหภูมิไม่เกิน10องศาเซลเซียส นมยูเอชทีสามารถเก็บในห้องธรรมดาได้ แต่ต้องไม่อยู่ใกล้ความร้อน หรือถูกแสงแดด และไม่วางทับซ้อนกันหลายชั้นเกินไป จนทำให้กล่องนมย่นเมื่อซื้อนมเปรี้ยวมาแล้วต้องเก็บในที่ๆ เหมาะสมและก่อนที่จะรับประทานอย่าลืมดูลักษณะของนมเปรี้ยวว่าปกติดีหรือไม่ เช่น นมเปรี้ยวชนิดเหลวต้องไม่จับตัวเป็นก้อนที่ก้นขวด ถ้าเป็นชนิดกึ่งแข็งกึ่งเหลว ต้องเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่แตกตัว และอย่าลืมตรวจดูฉลากโดยเฉพาะวันหมดอายุ
ใครที่ชอบดื่มนมเปรี้ยว รู้ถึงประโยชน์ของนมเปรี้ยวกันหรือไม่ วันนี้เกร็ดความรู้มีมาบอกกัน...
การดื่มนมเปรี้ยว จะได้รับกรดแลคติก ที่เกิดจากการหมักตัวของจุลินทรีย์ในนมเปรี้ยว ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซี่ยมและฟอสฟอรัสได้ดียิ่งขึ้น ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยที่มีอาการท้องเสีย ที่กระเพาะมีปริมาณความเป็นกรดลดลง ทำให้อาหารไม่สามารถย่อยได้
การดื่มนมเปรี้ยว จะช่วยปรับสภาพของกระเพาะอาหารให้เป็นกรดขึ้น และทำให้การดูดซึมอาหารดีขึ้น รวมทั้งป้องกันไม่ให้เชื้อโรคตัวอื่น ๆ รุกล้ำเข้าไปในระบบย่อยอาหาร และนอกจากนี้จุลินทรีย์ที่เติมในนมเปรี้ยวยังมีส่วนช่วยในการขับถ่ายอีกด้วย
การดื่มนมเป็นสิ่งที่ดี ร่างกายจะได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายครบถ้วน ดังนั้นการดื่มนมเปรี้ยวจึงต้องพิจารณาวัตถุดิบที่นำมาผลิต รวมทั้งราคาเมื่อเทียบกับปริมาณของอาหาร และสารอาหารที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในลักษณะใกล้เคียงกัน แต่ถ้าคิดจะบริโภคเป็นอาหารว่าง เพื่อเป็นการเปลี่ยนรสชาติบ้างคงไม่เป็นไร รู้อย่างนี้แล้ว ลองหันมาดื่มนมเปรี้ยว เพื่อสุขภาพที่ดีกันดีกว่า.
รู้มั้ย.? ได้อะไร จากการดื่ม "นมเปรี้ยว"
ประโยชน์ของการดื่มนมเปรี้ยว
ใครที่ชอบดื่มนมเปรี้ยว รู้ถึงประโยชน์ของนมเปรี้ยวกันหรือไม่ วันนี้เกร็ดความรู้มีมาบอกกัน...
การดื่มนมเปรี้ยว
จะได้รับกรดแลคติก ที่เกิดจากการหมักตัวของจุลินทรีย์ในนมเปรี้ยว ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซี่ยมและฟอสฟอรัสได้ดียิ่งขึ้น ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยที่มีอาการท้องเสีย ที่กระเพาะมีปริมาณความเป็นกรดลดลง ทำให้อาหารไม่สามารถย่อยได้ดี
การดื่มนมเปรี้ยว
จะช่วยปรับสภาพของกระเพาะอาหารให้เป็นกรดขึ้น และทำให้การดูดซึมอาหารดีขึ้น รวมทั้งป้องกันไม่ให้เชื้อโรคตัวอื่น ๆ รุกล้ำเข้าไปในระบบย่อยอาหาร และนอกจากนี้จุลินทรีย์ที่เติมในนมเปรี้ยวยังมีส่วนช่วยในการขับถ่ายอีกด้วย
การดื่มนมเป็นสิ่งที่ดี
ร่างกายจะได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายครบถ้วน ดังนั้นการดื่มนมเปรี้ยวจึงต้องพิจารณาวัตถุดิบที่นำมาผลิต รวมทั้งราคาเมื่อเทียบกับปริมาณของอาหาร และสารอาหารที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในลักษณะใกล้เคียงกัน แต่ถ้าคิดจะบริโภคเป็นอาหารว่าง เพื่อเป็นการเปลี่ยนรสชาติบ้างคงไม่เป็นไร
รู้อย่างนี้แล้ว ลองหันมาดื่มนมเปรี้ยว เพื่อสุขภาพที่ดีกันดีกว่า.
18 พฤศจิกายน 2550 11:44 น.
อายิจัง
มหัศจรรย์ จาก ปลาทู
คอลัมน์ วาไรตี้เฮลท์
"ปลาทู" ปลาทะเลที่ผู้คนคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรด้วยเป็นสัตว์ทะเลที่เป็นเหมือนเพื่อนสนิทกับสำรับกับข้าวคนไทยมานานเท่านาน
ปลาทูคลุกข้าวเคล้าน้ำปลา น้ำพริกปลาทูอันเลื่องชื่อ ต้มยำปลาทู เมี่ยงปลาทู ปลาทูต้มกะทิ ฯลฯ ล้วนแต่เป็นอาหารอร่อยทรงคุณค่า เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กไปจนถึงวัยรุ่น วัยทำงาน และคนชรา
นั่นเป็นเพราะคุณสมบัติอันเพียบพร้อมของปลาทูที่เปี่ยมไปด้วย "วิตามินดี" ที่ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสเข้าลำไส้ เพื่อนำไปสร้างเสริมและซ่อมแซมกระดูกและฟัน ทั้งยังช่วยรักษาระบบประสาทและการทำงานของหัวใจให้อยู่ในสภาพที่ดีสม่ำเสมอ และยังช่วยในเรื่องการแข็งตัวของเลือด ช่วยควบคุมแคลเซียมไปยังส่วนต่างๆ อย่างเพียงพอ ทั้งยังมีไอโอดีนส่วนประกอบสำคัญของฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ควบคุมให้ร่างกายเจริญเติบโตตามปกติ
ปลาทูยังมีกรดอะมิโนโปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกายสูงกว่าปลาชนิดอื่น โดยเฉพาะไลซีน ที่เพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ กระดูก เส้นเอ็น ข้อ และทรีโอนีน ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตในวัยเด็ก
ที่สำคัญปลาเพื่อนรักตัวนี้ยังมี "โอเมก้า 3" ที่ทรงคุณค่ากับร่างกายมากมาย
ศ.น.พ.ปิติ พลังวชิรา ผอ.ศูนย์โรคผิวหนัง คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) ผู้เชี่ยวชาญด้าน Antiaging Medicine กล่าวว่า "โอเมก้า 3" เป็นกรดไขมันประเภทไม่อิ่มตัว ซึ่งจากการวิจัย พบว่าการรับประทานอาหารที่มีไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายที่มีอยู่ในปลานั้น จะมีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์สร้างสมดุล ปรับระดับความข้นของเลือดให้อยู่ในภาวะปกติเป็นการช่วยลดอัตรา การเกิดโรคหัวใจ และยังช่วยบำรุงตับอ่อนเลี่ยงความเสี่ยงที่จะ ทำให้เกิดโรคเบาหวานได้
นอกจากนี้มีการพบว่าการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ช่วยให้ระบบประสาทและสมองดีขึ้น ป้องกันและแก้ไขโรคความจำเสื่อม หรือโรคที่สมองไม่สั่งงาน ช่วยเสริมสภาวะจิตใจ สุขภาพสายตา เสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค และช่วยป้องกันมะเร็งบางชนิด
คุณสมบัติอันเต็มเปี่ยมนี้ส่วนใหญ่แล้วจะพบอยู่ใน "น้ำมันปลา" หรือน้ำมันที่สกัดจากปลาที่อยู่ในเขตหนาว แซลมอน ปลาแมคเคอเรล หรือ ปลาทะเลน้ำลึก อย่างปลาโอ ปลาซาบะ ปลาทูน่า รวมไปถึงปลากะพง และ "ปลาทู" ยอดฮิตของเราด้วย
เนื้อปลาทู 100 กรัม จะมีสารโอเมก้า 3 อยู่ประมาณ 2-3 กรัม ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายที่ต้องการได้รับโอเมก้า 3 ประมาณวันละ 3 กรัมเท่านั้น
"ผู้ที่อยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีควรจะหาอาหารที่ประกอบด้วยโอเมก้า 3 และหาน้ำมันปลารับประทานได้ตั้งแต่ในวัยเด็ก ซึ่งเป็นวัยแห่งการ เจริญเติบโต และที่สำคัญในวัยนี้โอเมก้า 3 จะช่วยบำรุงสมอง จนถึงวัยสูงอายุที่ร่างกายเริ่มเสื่อมสภาพ โอเมก้า 3 ก็ช่วยปรับสมดุล ให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นได้"
หากผู้ที่ต้องการจะเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงโดยอาศัยประโยชน์จากปลาทะเลน้ำลึกแล้ว ปลาทูถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
นี่คือ มหัศจรรย์ปลาทู เพื่อนสนิทคนไทย
12 พฤศจิกายน 2550 19:39 น.
อายิจัง
มันเกิดขึ้นกับผมเองครับ สดๆร้อนๆเลย
มีเบอร์โทรศัพย์ เบอร์
028500000 โทรเข้ามาที่เครื่องที่ผมใช้อยู่ แล้วมีเสียงคนพูดว่า
คุณได้สมัครบัตรเครดิต ของธนาคาร กรุงศรีอยุธยา
แล้วตอนนี้คุณได้ค้างชำระ กับทางธนาคาร เป็นเงิน 35,000 บาท
ถ้าต้องการจะติดต่อกับเจ้าหน้าที ให้กด 9
แล้วผมก็กด 9 ตามที่เขาบอก เพื่อจะติดต่อกับเจ้าหน้าที่
เพื่ออยากรู้ข้อมูล เพราะผมไม่เคยทำบัตรเครด ิตเลย
แล้วก็ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ว่า
ผมอยากรู้ข้อมูลของผม ว่าผมไปทำบัตรตอนใหน
แต่เจ้าหน้ากลับถามข้อมูลส่วนตัวเรา อย่างเช่น ชื่ออะไร วันเดือนปีเกิด
บ้านเกิดและที่ทำงานอยู่ทำใหน
ผมก็ตอบไปหมดเลย แล้วเจ้าหน้าที่ ก็บอกว่า
คุณคงถูกพวกมิจฉาชีพแอบทำบัตรเครดิต
ทางเจ้าหน้าที่จะโอนข้อมูลไปทาง ปปส เพื่อจะได้สอบถามข้อมูลจากเราต่อไป
แล้วก็วางสายไป
ผมก็ว่าวุนใจมาก ไปหาเบอร์โทรของ ธนาคารกรุงศรีอยธยา มาโทรตรวจสอบ
ทางเจ้าหน้าที่ธนาคาร ก็ได้ตรวจสอบให้ โดยการขอหมายเลขบัตรประชาชน
เพื่อตรวจว่า เราได้มีการทำบัตรเครดิตกับธนาคารหรือเปล่า
สรุปว่า
ผมไม่ได้มีการทำบัตรกับธนาคารแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่เขาบอกว่า เบอร์โทร 02850000 เนี้ย
เป็นพวกแอบอ้างชื่อของธนาคาร
โดยจะสุ่มหาคนหรือรายชื่อจากใหนก็ไม่ทราบ แล้วโทรขู่
แล้วให้เราชดใช้ เงิน ที่เราได้ติดกับธนาคาร
แต่ไมได้โอนไปธนาคารที่เราติดชำระอยู่
แต่โอนไปเข้ากะเป๋าของพวกมิจฉาชีพ
ขอเตือนพี่น้อง ทุกคนด้วยน่ะครับ ว่าถ้ามีเบอร์ 025800000 นี้เข้ามา ไม่ต้องรับ
ถ้ารับก็ไม่ต้องให้ข้อมูลใดๆ
เพราะพวกนี้อาจจะเอาชื่อเราไปทำอะไร โดยที่เราไม่รู้ตัว
โดยเราไปตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่เจ้าของธนาคารเองเลย เบอร์ 026563000
ทางเจ้าหน้าที่จะตอบเราทุกอย่างเลย
กรุณา FW ต่อไปให้กับพี่น้องและเพื่อนของท่านด้วยน่ะครับ