23 กรกฎาคม 2552 15:00 น.
อาภาภัส
เพียงช่วงหนึ่งซึ่งฝันวันเลยผ่าน เป็นเศษสานรอยดินทุกถิ่นฐาน
ยามต้องแสงอาจดูวาวตระการ จ้องนับนานแค่เม็ดทรายในสายลม
ปลิวลิ่วล่องลอยเล่นเผ่นตามน้ำ บางทีคล้ำดำด่างอย่างขื่นขม
เหตุด้วยถอยลอยหล่นตรงโคลนตม ผู้นิยมหาไม่เห็นกระเด็นไกล
อยู่ใต้ตีนปีนตลิ่งก็บ่อยบ่อย แต่ยังคอยคิดดีดีได้ไหม
จำต้องทนเกิดเช่นนี้คือเป็นไป เศษละไมใสสว่างทางละมุน
มีจริงอยู่อยู่จริงสิ่งที่ชัด พอนำขัดปัดแต่งแรงเนื่องหนุน
ผสมสีสวยสรรค์กลับเจือจุน ใครมีบุญย่อมคิดออกบอกตรงตรง
เกิดจากไหนไปนอกหรือเนาถิ่น เดินหรือบินอย่างกาหรืออย่างหงส์
ค่าดวงใจใช่ไหมบอกเผ่าพงศ์ เวรเป็นวงคงเวียนเปลี่ยนเพราะตน
อ่านอักษรกลอนหนึ่งซึ้งรสถ้อย จึงแจงจ้อยลอยใจใช่สับสน
สมมุติสิ่งเม็ดทรายที่ปะปน เช่นเชิงคนเชิงคิดติดกลอนกานท์