7 กันยายน 2547 11:55 น.
อาภาภัส
เป็น ...สิ่ง.. เป็น
อาภาภัส
ตอบกลอนของท่านผู้เฒ่าโง่งม โดย อาภาภัส
เป็นไม่ตายปลายเต้นเป็นตาลาย
หาความหมายปลายเส้นอาจเห็นสาย
อยู่ที่ว่าค่าคิดฤารู้คลาย
ชีวาวายกายร่างอาจอ้างเป็น
เป็นคนที่ที่ชนคนเคารพ
มิเคยพบใจนบทั้งใจเห็น
ค่าของคนบนดินมีตอนเป็น
คราลำเค็ญใจคุลุความจริง
หากเลือกทางวางตนบนความถูก
ครูนั้นปลูกสอนสั่งให้สู้สิงห์
แม้หน้าตาอัปลักษณ์ก็ใช่ทิ้ง
งามหนึ่งยิ่งคำคมพรมดวงใจ
แววกวีศรีโพมประโคมกว้าง
เป็นแบบอย่างสร้างเสริมเติมความใส
ให้ภาษาก่อเกริกทั่วแดนไกล
ชนชาวไทยซึ้งทราบอาบอุ่นจินต์
ขอเทพทั่วดินแดนในแมนสรวง
จงมอบพวงความรักเป็นทรัพย์สินธุ์
ให้ค่าครูปรากฎรดแผ่นดิน
แม้ฟ้าสิ้นอินทร์อยู่คู่ครองกาล
ขอสืบคำนำพจน์มาจรดฟ้า
ฝากความกล้าแกร่งไกรให้สถาน
มณฑาทิพย์สิบนิ้วนบดวงมาลย์
เติมผสานก่อค่าคำว่า เป็น
อรุโณทัย อาภาภัส
Poem ID : 60637 - ผู้ชม 16 ผู้ตอบ 5
Written by : อาภาภัส
Posted by : รหัสสมาชิก : 7446 - อาภาภัส
Source : อ่าน
Date - Time: 07 ก.ย. 47 - 09:56
Note : ไม่โง่งม
E-Mail : app88345@hotmail.com
URL : www.thaipoem.com
ICQ : -
ส่งให้เพื่อน เพจ-มือถือ เก็บหน้านี้ไว้ Bookmark แจ้ง Admin
ความคิดเห็น :
แต่งได้งดงามไม่โง่งมครับ การยืนอยู่เหนือผู้ใด
นั้นเป็นเรื่องที่ทุกคนใคร่เห็น แต่มันไม่จำเป็น
ต้องดูด้วยตาตัวเอง มีคนจำนวนมากหลายที่เมื่อ
ตายไปแล้ว จึงมีคนเห็นผลสำเร็จ ดังนั้นเรื่องสัง
ขารจะเป็นหรือตายคงไม่ใช่เรื่องสำคัญ ขอเพียง
ให้งานเป็นนิจนิรันดร์ก็น่าจะพอใจแล้วครับ๚ะ๛
จาก : รหัสสมาชิก : 8650 - Robert TingNongNoi
รหัส - วัน เวลา : 332142 - 07 ก.ย. 47 - 10:09
ความคิดเห็น : ยืน อยู่หนือ ผู้ใด ในความเข้าใจ มิ มีความหมาย
แต่ ...........
ถ้ายืน อยู่บนหัวใจ ความหมาย .............
อยู่ที่ ใจเกินร้อย
จาก : รหัสสมาชิก : 9584 - ดาหลา & ปะการัง
รหัส - วัน เวลา : 332148 - 07 ก.ย. 47 - 10:20
ความคิดเห็น : เล่นคำไดสูดหยอดเลย แหม่เจ้าโหว้ย หรอยจังฮู้
จาก : รหัสสมาชิก : 9372 - หญ้าคา
รหัส - วัน เวลา : 332165 - 07 ก.ย. 47 - 10:30
ความคิดเห็น : ชีวิตฉันนั้นเปรียบดั่งขนนก
บังเอิญพกหัวใจหนึ่งเดียวนั้น
กามเทพสั่งศรลุกขึ้นพลัน
โดนใจฉันร่ำร้องทุกค่ำคืน
แล้ววันหนึ่งฉันก้อพบว่าชีวิต
มันลิขิตไม่แน่นอนดั่งใจฝัน
ลุกขึ้นตื่นจากเตียงนอนมาอีกพลัน
วันวานนั้นผ่านเลยไม่หวนมา
+-*-+-*-+ +-*-+-*-+ ผู้ชายอารมณ์ดี +-*-+-*-+ +-*-+-*-+
จาก : ll๛เมกกะ๛ll
รหัส - วัน เวลา : 332176 - 07 ก.ย. 47 - 10:45
ความคิดเห็น : หวัดดีครับ
แอบมาอ่านตอนที่เจ้าของบ้านไม่อยู่
มาอ่านกลอนเพื่อเป็นกำลังใจให้คนที่แสนดี
จาก : รหัสสมาชิก : 5564 - )))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
รหัส - วัน เวลา : 332206 - 07 ก.ย. 47 - 11:29
7 กันยายน 2547 09:56 น.
อาภาภัส
ตอบกลอนของท่านผู้เฒ่าโง่งม โดย อาภาภัส
เป็นไม่ตายปลายเต้นเป็นตาลาย
หาความหมายปลายเส้นอาจเห็นสาย
อยู่ที่ว่าค่าคิดฤารู้สาย
ชีวาวายสายร่างอาจอ้างเป็น
เป็นคนที่ที่ชนคนเคารพ
มิเคยพบใจนบทั้งใจเห็น
ค่าของคนบนดินมีตอนเป็น
คราลำเค็ญใจคุลุความจริง
หากเลือกทางวางตนบนความถูก
ครูนั้นปลูกสอนสั่งให้สู้สิงห์
แม้หน้าตาอัปลักษณ์ก็ใช่ทิ้ง
งามหนึ่งยิ่งคำคมพรมดวงใจ
แววกวีศรีโพมประโคมกว้าง
เป็นแบบอย่างสร้างเสริมเติมความใส
ให้ภาษาก่อเกริกทั่วแดนไกล
ชนชาวไทยซึ้งทราบอาบอุ่นจินต์
ขอเทพทั่วดินแดนในแมนสรวง
จงมอบพวงความรักเป็นทรัพย์สินธุ์
ให้ค่าครูปรากฎรดแผ่นดิน
แม้ฟ้าสิ้นอินทร์อยู่คู่ครองกาล
ขอสืบคำนำพจน์มาจรดฟ้า
ฝากความกล้าแกร่งไกรให้สถาน
มณฑาทิพย์สิบนิ้วนบดวงมาลย์
เติมผสานก่อค่าคำว่า เป็น
อรุโณทัย อาภาภัส
6 กันยายน 2547 19:58 น.
อาภาภัส
หน้าขาวซีดคอเหวอะลึกเจียนขาด
เลือดนั้นหยาดไหลย้อยราวห่าฝน
เพียงเชือดเดียวไร้สิ้นเสียงเคยยล
ให้มวลชนรู้ค่าเวลาเตือน
ตางดงามนั้นถลนออกนอกเบ้า
สงสารเจ้ามิรู้โดนหั่นเฉือน
ถูกกระชากลากมาจากถิ่นเยือน
ห่างแถวเถื่อนสู่แดนศิวิไลซ์
เจ้าตีปีกแรกต้นเจ้ายิ้มแย้ม
ฟ้าคงแต้มต่อสุขสร้างโลกใส
เจ้าวาดหวังคงดังก้องโลกไป
เช้าวันใหม่สิ่งดีที่วางรอ
แต่ครั้นแล้วได้พบกับกรงครอบ
วางรายรอบเป็นกรอบดูกว้างหนอ
คงแจ่มแจ๋วแจ้วเจี้อยเรื่อยเกินพอ
ระทดท้อจริงเร้นเน้นฟาดฟัน
เหล็กแหลมเสียบปิดปักควักลากล้วง
ทะลุควงดวงฤดีสิ้นทางฝัน
ยังดึงเยื่อเถือหนังอย่างเมามัน
ใช้ไฟนั้นเผาราดสาดด้วยเกลือ
กรรมเวรเหลือเชื่อไว้ใจมนุษย์
ยิ้มสุดสุดขุดดีมิมีเหลือ
วิญญานย่อยถอยลับดับใจเจือ
อนาถเทื้อชนชิมอิ่มเอมกาม
คุณครับ ....ซื้อไก่ย่าง 1 ตัวครับ
3 กันยายน 2547 06:53 น.
อาภาภัส
ยามฟ้ามัวหัวใจไม่มัวหม่น
ความเป็นคนสอนใจให้มีหวัง
เดินต่อไปสร้างใจมีพลัง
มิรอรั้งดั่งนามอรอาภา
ยิ้มคือยิ้มพิชิตจิตภายนอก
ตานั้นบอกสิ่งใดไม่ถือสา
เพราะรู้ว่าชีวิตกับเวลา
ผันผ่านลากุมกรก้าวพร้อมกัน
ต่างค่าแต่กาลคืนตื่นเปลี่ยนวน
เช้ากลับยลบ่ายล่วงช่วงผายผัน
ยามเย็นย่ำมืดครึ้มเหมือนลืมวัน
แต่ฉับพลันสว่างใหม่ในเวลา
ฉากชีวิตมีสิทธ์มีเศร้าโศรก
ดั่งลมโบกพัดแรงแกร่งกร่อนหนา
ฤาเห็นแสงแรงร้อนดวงทิวา
ชีวิตพาฝันต่อก่อการงาน
และยังรู้ว่าอยู่ต้องมีรัก
ใจจึงภักดร์สมัครใจจะสืบสาน
หารักเติมเพิ่มศรีด้วยดวงมาลย์
มอบรักผ่านม่านฟ้ามาร่วมเคียง
ศักดิ์และสิทธิ์ลิขิตด้วยใจเรา
มิยอมเขลาเก็บตนยอมสิ้นเสียง
รักต้องมีต้องต่อก่อร้อยเรียง
ผดุงเยี่ยงบุรกาลบรรพชน
รัตนาวลีนี้นำมอบ
เป็นคำปลอบใครหนาคราสับสน
ใจของเราเข้าใจไฟสร้างตน
มิได้หม่นตามฟ้าคราคลื่นรวน