9 พฤษภาคม 2547 06:57 น.
อาภาภัส
หวอ..วอแต๊วแหน่ว ติ๊ด แต๊วแหน่ว
รถหลากแนว รีบรุด สุดสุดผาย
จุดเกิดเหตุ ตรงโค้ง อันตราย
ล้วนหญิงชาย รายเรียง ระเบียงทาง
ต่างลีลา ใบหน้า ภาษาพูด
กามเทพทูต แซกปน มิหม่นหมาง
ตามองจ้อง จัดคู่ คอยดูพลาง
แล้วจึงกาง ปีกโอบ โฉบดวงใจ
หญิงหนึ่งนาง ข้างชาย คล้ายชื่นชอบ
ศรจึงลอบ ปักลง ให้หลงไหล
ตาสบตา เหมือนฝัน วันยาวไกล
ยิ้มละไม อุ่นรัก พักพิงกัน
พายุพัด ลมพา เมฆหนาจัด
ปลิวสะบัด บ่ายคล้อย คอยความฝัน
อ้าวไหงนั่น หันหลัง เดินจากพลัน
หญิงหนึ่งนั้น หยาดน้ำ ช้ำแก้มนวล
กระไรเลย เหตุไฉน ไยกลับเปลี่ยน
อ๋อเทพเวียน มึนงง เลยผกผวล
ศรยิงไป ไหวมิด ผิดกระบวน
รักเลยรวน ป่วนปั่น ไม่มั่นคง
อันความรัก มักพา ให้รันทด
ดั่งน้ำลด มดกิน น้ำตาลหลง
หมดความหวาน มดงาน เลยมึนงง
รักไม่ตรง ติดตาม ตอนต่อไป
อ่านตอนที่๑แค่นี้ก่อนนะคะ ถ้าว่างจะมาแต่งต่อต้องไปทำงาน
วันอาทิตย์ที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๔๗
อรุโณทัย อาภาภัส
8 พฤษภาคม 2547 08:35 น.
อาภาภัส
แฮ่ะๆ บอกว่าติดธุระ จะออกจากบ้านอยู่แล้ว เปิดเครื่องใหม่ ส่งอีกรอบค่ะ กะว่าหลานสาวหลานชายที่เชียงใหม่จะมาอ่านให้คุณตาฟัง
จากน้ำใจใสสุด ดุจหยาดฝน
จากกมล คนอ่าน คำขานไข
จากกานท์กลอน วอนเว้า ให้เข้าใจ
จากดวงใจ แนบไป ในบทกลอน
เพลินอารมย์ พรมคำ ลำนำรัก
เพลินพบพักตร์ พวงพริ้ม นิ่มสมร
เพลินในเพลง ไทยมิส ปล่อยมาวอน
เพลินเดียวดอน ร่อนเลี้ยว ทางเดียวดาย
ใจดวงเดิม เติมรัก สมัครสิทธิ์
ใจลิขิต จิตลง ตรงงานหมาย
ใจเปี่ยมรัก จักรู้ ค่ารักพราย
ใจมิร้าย ทำลาย ใจด้วยกัน
ให้เพลิดเพลิน พริ้งเพริด บรรเจิดสุข
ให้สนุก เรื่องสั้น สื่อสร้างสรร
ให้น้ำใจ ฝากไว้ ดุจตะวัน
ให้คำมั่น ใจตน ไม่วนใจ
คนละกลอน ย้อนเขียน เวียนกันอ่าน
คนละบ้าน งานแลก แปลกไฉน
คนละคน คิดแผก แตกต่างไป
คนละใจ ใครเหมือน ก็แฝดเกลอ
คอยเวลา ที่ฟ้า เปิดประทาน
คอยคำหวาน ของใคร มาเสนอ
คอยช่วยอ่าน ด้วยหลาน นานจะเจอ
คอบพบเธอ รักเสมอ รักกานท์กลอน
จากเพลินใจให้คนคอย ร้อยมาฝาก
เพียงเศษซาก เหล่ากวี ศรีอักษร
ร่วมหว่านไถ ภาษา ให้บวร
จรัสพร พราวคำ พร่ำไทยโพม
8 พฤษภาคม 2547 06:44 น.
อาภาภัส
เขียนงานชิ้นนี้ด้วยเห็นว่าคุณต้นหลิวใช้ว่า ภาษาให้มีภาษี ก็ลองคิดตามดูค่ะ
ปากตะไกร ใครเห็น คงเร้นหนี
ปากมีสี ด้วยอัด คารมเหลือ
ปากเป็นเอก เสกคำ คนจานเจือ
ปากตลาดเบื่อ น่าเกลียด เครียดคนเมิน
ใจร้ายนัก ใจดำ ทำกันได้
ใจใหญ่ไซร้ ได้เพิ่ม หรือขาดเหิน
ใจนักเลง ไม่กลัว กล้าเผชิญ
ใจเดียวเดิน เพลินรัก หักเดียวดาย
ไม่รอบคอบ ลอบว่า ก็หน้าเสีย
ไม่(ไหม้)ลามเลีย หลับลืม ล้วนหดหาย
ไม่สบาย เสียดสี อาจวางวาย
ไม่งมงาย โง่งัน ก็ทันคน
ตรงต่อเวลา นี่ ดีนักนะ
ตรงตรงละ พระแน่ ผู้กอปรผล
ตรงต่อความดี สิ ตัวของตน
ตรงนี้ปน ฝนคำ สอนไม่เอียง
กัน และ กัน มั่นใจ ในมวลมิตร
กันน้ำสนิท กันซึม กันรั่วเสียง
กันไปกันมา เรื่อย เฉื่อยเหลือเพียง
กันชนเลี่ยง รักช่วย ไยหลอกเรา
ปากใจไม่ตรงกัน นั้นลำบาก
รักจางจาก ฝากรัก ก็ผลักไส
รักจริงแท้ ถมทับ ทั้งทรวงใน
มิบอกใคร ใครรัก รู้จิตคน
รวมร่ายคำ ตามหลิว ปลิวมาตก
ราวโผผก ภาษิต สะกิดสน
เรื่องจริงใจ เตือนใคร ต้องเตือนตน
จากกมล อาภา ภัสใจจริง
อรุโณทัย อาภาภัส
๘ พฤษภาคม ๒๕๔๗
บ้านพระประแดง
7 พฤษภาคม 2547 09:16 น.
อาภาภัส
ก่อนอ่านกลอนนี้ขอบอกทุกท่านด้วยความจริงใจว่าไม่เคยคิดจะลืมงานเขียนนะคะ แต่ไม่มีเวลาพอ ได้อย่างมันจะเสียอย่างค่ะ อย่างกลอนที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้อาจจะไม่เพราะนะคะเพราะผู้เขียนเขียนทันทีเมื่อเปิดหน้ากลอนส่งงานนะค่ะ
หยิบหัวใจ โปรยไปให้ฟากฟ้า
เรียงคำว่า ยังรัก ยังคิดถึง
แม้กี่วัน ผ่านไป ใจคะนึง
รักสุดซึ้ง ถึงเธอ แม้ตัวไกล
เธอเป็นใคร อยู่ไหน ในความฝัน
ช่วยหวานหวัน ส่งใจ มาได้ไหม
ผูกเกลียวรัก ปักไว้ ในดวงใจ
อุ่นละไม ไกล้อยู่ ทุกวันคืน
ฟังเสียงเพลง ตามลม ผสมผสาน
หัวใจขาน หวานรัก มิอาจฝืน
มิเดียวดาย ดื่มดำจนลืมกลืน
ช่างสดชื่น รื้นใจ ให้เริงรมย์
โอคนดี มีเธอ คือเสียงเพลง
มิกลัวเกรง โดดเดี่ยว มาหมักหมม
รักฉันนั้น ฝากใจ ไปตามลม
จงรับคม คำรัก พักคงเคียง
อยากมีวัน ที่ฝัน นั้นเป็นจริง
หัวใจวิ่ง ร้อยลี้ ไปหาเสียง
เจ้าของคำ อ่อนโยน ยามเรื่อยเรียง
ที่มองเมียง จากฟ้า มาสู่ดิน
แม้นามฉัน ตะวัน อยู่ฟากฟ้า
แต่ชีวา หาใช่ ได้ผกผิน
คงยังคง วงจร แค่ธานินทร์
นำไหลริน นกร้อง ห้อมล้อมตน
จริงคือจริงจริงนี้ นี่ชีวิต
ตนลิขิต ตนไง ไม่น่าสน
เกิดบนดิน เพียงดิน เพียงความจน
ยากกมล จนรัก ยากละไม
บทสุดท้าย ฝากไว้ ในวันนี้
ขอจงมี สิ่งดี ที่สดใส
ในหัวใจ ในรัก ทุกคนไป
ชีวิตใหม่ พบสุข ทุกคนเทอญ
5 พฤษภาคม 2547 17:51 น.
อาภาภัส
จะเริ่มกลอนยังไงให้เป็นแท่ง
มันเป็นแบงค์ ใบพัน นั่นสิหนอ
อือ..เข้าใจ .หลายใบ..ซื้อแท่งพอ
เนื้อทองทอ ล้อเล่น เช่นแท่งทอง
แท่งที่เอ่ย อยู่เลย เขตแดนไทย
เรืองเดชไกล ถึงถิ่น ปุ่มสมอง
คนที่โน่น โอนงาน กดก่ายกอง
กดแม้ร้อง ฟ้องหย่า ก็กดเพลิน
จริงหรือเท็จ อ่านจาก สารฝรั่ง
ยามรักจัง กดปุ่ม มิขัดเขิน
อเมริกัน มีมั่ง ขาดๆเกิน
แท่งเผอิญ หล่อเท่ห์ ไม่เล่ห์กล
เมืองเท็กซัส บู๊ซัด กันดะดุ
มุทะลุ ต่อยตี ปืนแตกผล
หนังคาวบอย สวยหาย ฝุ่นมันปน
นางเอกหล่น หลังม้า ออกบ่อยไป
กลอนวันนี้ แท่งซี เป็นพระเอก
ยืนเก็กเก็ก ฝรั่งมอง จ้องตรงไฝ
แท่งเอ่ยถาม นงราม มองทำไม
ฝรั่งใส่ ทันใด ไอ เลิฟยู
แท่งยิ้มรับ ครับผม ก้มคำนับ
เดินไปจับ มือสาว ขาวเชียวหนู
อยู่เมืองไทย ไร้ใคร นานพอดู
โชคละตู วันนี้ มีโอเค
สาวเจ้าส่ง ยิ้มใส่ หัวใจแป้ว
หวานเหลือแล้ว น้องพี่ มิโฉเฉ
อยากกอดน้อง จริงนะ มิโลเล
คุณเธอเซ กอดแท่ง พลันทันที
โอ้สวรรค์ สรรสร้าง ให้ได้พบ
ตาประสบ รักนั้น ไม่หน่ายหนี
ทันใดนั้น เสียงสาว เจ้าพาที
ไปไหนพี่ แท่งจ๋า ข้าประเทือง
(ตรงนี้ ต่อเรื่องว่า คุณประเทืองแกเป็นเพื่อนชายสมัยม.6 แกมาอยู่ต่างประเทศก็เลยแปลงเพศเป็นหญิง)
อ่านจากหนังสือบอกว่าชาวอเมริกันจะใช้ระบบความสะดวกในทุกชนิด เช่นจะแต่งงานหรือฟ้องหย่าใช้ระบบการกด อาจจะเป็นมือถือหรือโทรศัพท์ เขาไม่นิยมติดต่อด้วยตนเองอย่างเมืองเรา