30 เมษายน 2547 17:56 น.

....ใน...ฝันรัก..

อาภาภัส

           วันนี้ขอแต่งนิทาน.. ที่เรียกนิทาน   งงไหมค่ะ  ก็นิทานมันคือเรื่องเล่าต่อๆกันมาแล้วต่อเติมเสริมแต่ง   วันนี้ก็คิดว่าอ่านอะไรได้รสอีกแบบแต่ไม่รู้จะเข้าประเด็นไหม


                                          .ในห้วงนึก
       นานมาแล้ว    แว่วแว่ว   ที่ย่าเล่า
         เด็กน้อยเฝ้า    ทุ่งนา   น่าสงสาร
         มีพืชไร่  ถั่วงา   อยู่เต็มลาน
         นกบินผ่าน  โผตรง  ลงจิกกิน

    ปู่มาท่านโกรธจัด      ให้เคืองขัดเสียทรัพย์สิน
    ใยปล่อยนกฉกกิน     เราคงสิ้นอาหารกัน

             เด็กน้อยเสียใจ    แล้วเราทำไง  เดินไปตามหา
  เจอะเจอพ่อพราน  เมินผ่านล่ำลา  แล้วบอกหนูว่า   ต้องไปตามกวาง
            หนูน้อยออกเดิน  รื่นรมย์เพลิดเพลิน  เขาเขินหม่นหมาง
 ร้องไห้ฮือฮือ     คิดดื้อบ่นพลาง   หากไร้หนทาง    ต้องหาตายาย
             
           กระท่อมปลายเนิน   ยายตาเชื้อเชิญ   จัดเลี้ยงขวนขวาย
แม่ไก่ได้ยิน   จึงบินลาตาย       ดาวลูกสูญหาย   กลางกองไฟฟืน
           เด็กน้อยงงงัน    ในใจหวิวหวั่น     เหหันทนฝืน
เสียสละชีวา   พุ่งถลาเปลวฟืน     ชาวชนสะอื้น   เด็กน้อยอาสัญ  
          กาลนานผ่านมา    ดาวบนฟากฟ้า   เติมหล้าสร้างพลัน
เจ้าชายระวี    ลิ่วรี่นานวัน   เกิดจากเด็กนั่น    สานฝันไทยโพม

         แปลงกายเหตุเพื่อเอื้อ        อักษรา
     อีกมุ่งสานภาษา                     สู่เหย้า
     รักจริงจึ่งจัดพา                       เพลินก่อ  กานท์เอย
     หวังส่งสุขเสกเศร้า                   สร่างร้อนเริงศรี
      
   อยากบอกผู้ที่อ่านเหลือเกินว่า มันเป็นนิทานที่เปลี่ยนนิทานเดิม อย่างที่ผู้เขียนอาจถูกดักตีกระหม่อมได้   เนื่องจากนิทานเดิมเด็กน้อยดูไร่นา แล้วเดินตามหาคนช่วยเหลือตั้งยาว  เพื่อจะได้ถั่วงากลับคืน  แต่นี่เขียนเอามาปนกับเรื่องดาวลูกไก่แล้วไปเป็นเจ้าชาย  ยังไม่จบนะคะ  ชาวไทยโพมชอบอะไรหวานๆ   ต้องสานเรื่องต่อค่ะ

    ราตรีนี้ แสงจันทร์สว่างนวล  
   เจ้าชายผวนกลายร่างเป็นหญิงสาว
   ระเริงเพลินเดินเล่นในดวงดาว
    สุกสกาวก่องเพชรเก็จเรือนใจ
   พลันประสานสายตากับใครหนึ่ง
   จึงหวานซึ้งตรึงตราอุราไหว
   รักเมื่อพบตอนจบก็อำไพ
   สุขหาไหนไฟรักสมัครครอง
   อันความรักเข้าจองทุกดวงมาลย์
   ระรัวหวานแผ่วใสหทัยหมอง
   นั่นแหละรักทุกข์สุขเพลิงลุกลอง
   เพียรร้อยกรองนิทานจบแล้วเอย                 
      

          อรุโณทัย อาภาภัส ตะวันหวาน
            ๓๐ เมษายน  ๒๕๔๗ 
      แฮ่ะๆ ด้วยความรักเคารพนะคะ
    
				
29 เมษายน 2547 07:35 น.

....ยังรัก...

อาภาภัส



           
         ..ยินคำหวาน...ผ่านมา....ทางฟากฟ้า
           ราวกับว่า. วานลม   ...พรมคำหอม
           ล้อมอวลรัก..ด้วยรัก..รักอวลออม
           ใจเจ้ายอม ..น้อมรัก...มาพักพิง...

            เริงระบำ..กระพือ..สื่อความรัก
            เพลงทายทัก  ...ฝากใจ..กระหนุงกระหนิง
            แสนสดชื่น ..รื่นใจ...จากใจจริง
            มิประวิง...คำชม....ตอบลมไป...

           
            รักรักนี้...มีรัก...รักก็รัก..
            คงคึกคัก..รักในเพลง...ครื้นเครงไฉน
            แซกคำซึ้ง  ...ส่งมา.....ละมุนละไม
             ใจจากใจ...มอบตอบ...ชอบแต่เธอ


             จะรับไหม...ไม่ว่า... คนน่ารัก
             ใจยังภักดิ์...สมัครผูก....มิเคยเผลอ
             อยู่ที่ใคร...ก็ต้อง....ตามจนเจอ
             แล้วละเมอ ....มุ่งหมาย....ไม่คลายเกลียว

.
             เฝ้าเก็บรัก   พักไว้    ...ในกระปุก
             เติมความสุข   ...หัวใจ.....มิหน่ายเหนียว
             จะขอรัก...รักเธอ....เพียงคนเดียว
             ตาลดเลี้ยว...แต่ใจ...ต่อใจพัน


             เชื่อหรือไม่..ถามใจ...เธอดูเถิด..
             รักยามเกิด..ประเสริฐ...สร้างสุขสันต์
              เกาะหัวใจ..เกี่ยวกระหวัด.คำจำนรรจ์
              จากใจฉัน..ยังมั่น...ยังรักเธอ


             นับเม็ดฝน...ยามหล่น...หยาดจากฟ้า
              คือสัญญา..ฉันนั้น....มั่นเสมอ
             ทั้งดวงใจ...วางไว้..ด้วยใจเจอ
              รักเลิศเลอ..รู้นะ...ว่า...รัก..รัก

             

				
28 เมษายน 2547 13:07 น.

....เพียงนิดนึง....

อาภาภัส

สวัสดีค่ะทุกท่านเดี้ยวว่าหายไป มีเวลพักแป็บ

    จะเขียนตามภาษา

            สายฝนโปรยโรยมาเวลาเช้า
           ใจข้าเหงา คิดถึงทุกคนหนอ
           เคยเขียนกลอนหยอกล้ออ่ออือออ
           สุขเคล้าคลอคนฝันวรรณกวี
           ขอหยาดนำฉำรดให้ใจชื้น
           รักระรื่นไร้ทุกข์เป็นสุขศรี
           อวลด้วยมิตรชิดข้างนางนารี
           จากระวีจารฝากจากใจจริง

  มีเวลา ประมาณ ๕ นาทีแอบมาแต่งกลอน อ่านกันบ้าง  คงพอมีที่ว่างในหัวใจเก็บตะวันหวานไว้สักมุมหนึ่งนะคะ

          กลั่นอารมณ์พรมมาหามวลมิตร
          ว่าเราคิดถึงซึ้งใจหทัยหมอง
          หลายเวลาไม่ได้มันใจรอนรอน
          ขอฝากกลอนอ้อนคำมาจำนรรจ์				
27 เมษายน 2547 05:51 น.

..รัก..ธรรมดา..

อาภาภัส

              ก่อนที่จะอ่านนะคะ  ขอทำความเข้าใจก่อนว่า เขียนเรื่องรักขึ้นมา เพราะมีผู้เข้าไปตอบในหน้าส่วนตัวท่านหนึ่งบอกว่า  กลอนไพเราะดี แต่ อยากได้อ่านภาษาธรรมดา ก็จะลองดูนะคะ ความจริงมันก็ธรรมดาทุกทีล่ะค่ะ  แปลงกายไม่ได้แน่นอน5555  ล้อเล่นค่ะ   ตัว ร   คำ  รัก   รถไฟ   รถยนต์  แล้วลองเอาล้อเรียงเคียงกับ ความรัก  ในกาพย์สุรางคนางค์ ๒๘   แล้วต่อด้วยกลอนเปล่า


                                              รัก ..ธรรมดา

                ปู๊น ปู๊น  วู๊ด  หวูด    ล้อรถคราดครูด     เสียงดังฉึกฉัก
           จะถึงก็ช่าง    ออกห่างสักพัก     สถานีกับดัก     รถไฟสายรอ

                ครืด  ครืด  แท่ก แท่ก   วิ่งตามหอบแฮ่ก     เหนี่อยใจจริงหนอ
        หลายตู้ลากเอื่อย แล่นเฉื่อยอ่อออ   รักกันเคลียคลอ    ล้อเล่นเย็นเคียง

              รถไฟลายรัก    หัวใจกิ๊กกั๊ก   สีแดงแกล้งเลี่ยง
       ทางโค้งโล่งข้าง   เวิ้งว้างบ่ายเบี่ยง   เรื่อยเรื่อยเรียงเรียง  ไร้ร้อนพาเพลืน

              แตร่น แตร๊น  ป๊อด  ป๊อด   รถจิ๊บมาจอด    สอดตาดุ่มเดิน
       ปาดซ้ายป่ายขวา   แซงหน้าหมางเมิน งอนง้อขวยเขิน  เจ๊าะแจ๊ะเจรจา

             ยนต์รถยลรัก    ยามแจ้งประจักษ์    แน่นหนักอุรา
      หลับตายิ้มแย้ม   ปากแก้มแต้มตา   สุขซึ้งโหยหา   ร่วมเรือนเพื่อนฝัน
             
             ลิขิต ตัว  ร     รถไฟรักก่อ      ไฟร้อนนิรันดร์
     รถยนต์ดลจิต    ชีวิตผกผัน  เปลี่ยนไปวี่วัน     ทิวาราตรี

            จะเป็นแบบไหน    เกลียวรักอย่างไร     ใครรักรู้ดี
     รักมิรู้จบ   กี่ภพมากมี    รวมล้วนไมตรี   ตอบถ้อยรักเอย



                            รัก
                  คำที่ไม่ธรรมดารัก
              รวมน้ำตา    ยามที่มี  รัก
         ปนความยิ้มแย้ม แต้มแต่งเติมรัก
       สุขทุกข์หมกหมัก   คละเดล้า   คำรัก
     หลากหลายรูปแบบ  แอบอิง  วิ่งหนี  ร้ก
                            รัก     คำร้อย  ถ้อยที  นุ่มนวล  ออดอ้อน 
                            รักอารมณ์ ละมุนแผ่ว เติบโตแล้ว    รัวร้อน
   รัก  คำที่ซ่อนลึก  ใจยอม ตรอมจิต คิดๆนึกๆ ค่อน ค้อน
   รัก  ยังอยากได้ยิน  ใครสักคน เรียกใครสักคน   ที่รัก



อรุโณทัย  อาภาภัส
๒๗ เมษายน ๒๕๔๗
             












				
25 เมษายน 2547 22:23 น.

.....ร้าง ฤา รัก ......

อาภาภัส




       นวลนางหนึ่ง  ท้าวคาง  ข้างหน้าต่าง
       ตาฝันสร้าง  เหม่อลอย  ละห้อยหา
       คำนึงถึง  ใครหนึ่ง  ซึ้งไกลตา
       อยากเห็นหน้า  เนาแนบ  แอบเคียงใจ

       เนินแนวไพร  ไกวกวัก  ทักร้องเรียก
       ยินสำเหนียก  เพรียกเพลิน  พนาไสว
       ใบไม้พลิ้ว  พลอดล้อ  พะนอไพร
       หวีดหวิวใส  เสียงเสนาะ  ไพเราะเพลง

       ครวญลอยลม  ชมชื่น  ว่าชอบเจ้า
       พี่คอยเฝ้า  ตะวัน    กั้นข่มเหง
       หัวใจจอด  ออดอ้อน   วอนระเบง
       ครึกครื้นเครง  หวานเจือ  เอื้อเอ่ยนำ

       มวลวิหค  ผกผิน   ผ่านไพรพฤกษ์  
       นางนิ่งนึก ไหนหนอ  พ่อคมขำ
       ฤาเร่ร้าง  ห่างลี้  หนีเลือนคำ
       ปล่อยระกำ  โดดเดี่ยว  เพียงเดียวดาย

      ยินสายลม  โบกซัด  สะบัดเสียง
      อ้อยอี๋เอียง  สกุณา  ลาลับหาย
      หรีดหริ่งร้อง  ก้องแว่ว  เจี้อยแจ้วคลาย
      เกลียวรักหน่าย  เหนียวหนัก  ฟักโศกตรม

      ภุมริน  บินล่า   หาเกสร
      เหลืองอรชร   ร่อนครา  อุษาสม
      เติมแต้มสี โลกหล้า  อ่าอารมณ์
      ใจนางล่ม  หล่มรัก  หักใจปอง

     หยดหยาดฝน บนฟ้า มาหยาดหยด
     หล่นราดรด  ดินแห้ง ฟื้นทั่วผอง
     ทุกชีวัน  เจิดจ้า   ประกายทอง
     แต่นางร้อง หยดใส ไว้ในทรวง

    
   
     
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอาภาภัส