18 เมษายน 2547 11:31 น.

..ยามรัก .ยามคิดถึง..หนึ่งเดียว..

อาภาภัส

font color=#ค่าสี


ก่อนอื่นขอเรียนให้ทราบว่าเขียนกลอนนี้กระทันหัน เมื่ออ่าน ๑๔รูปแบบความรักของยูนิคอน ตอนแรกจะตอบไว้ตรงนั้นก็เสียดาย การเขียนของข้าพเจ้าอาจมีข้อผิดพลาดต้องขออภัย (๑๐.๒๑น  ๑๘ เมษายน ๒๕๔๗)

   When you love someone the sun sings.
          When you love someone you act as a king.
         When you love someone the ground turns to be a swing.
     And  take you and your sweetheart to sit and  ring  the  bell  of love

     ยามรักใครรวีไหวร้องเพลงรัก
     ยามรักใครใสนักเหมือนดั่งสิงห์
    ยามรักใครดินเปลี่ยนกระเช้าปีน
    แล้วพาบินสองหัวใจไปด้วยกัน

When  you think of someone  the  sun  smiles.
When you think of  someone  the  seagulls fly  very high
When you think of someone   the  biggest  fun  comes  in  your sight
And  make you dream ahead  of  all  your life.

ยามคิดถึงซึ้งศร๊รวียิ้ม
นางนวลพริ้มบินเหินร่วมโหยหา
รื่นเริงใจยามรักในสายตา
ฝันเราพาสร้างรักชั่วกัปกัลป์

The  only  one  is you you know  my  dear.
The  only  one is  you     the  sweetest  dreamer    who is  near.
The  only one  is you    the kindest heart  without fear
And  makes  the world  go round  brightly.  

  
หนึ่งในใจ คือเธอเธอที่รัก
หนื่งทายทักอยู่ใกล้ใจเสมอ
หนึ่งดวงใจแกร่งกล้ารักเพียงเธอ
โลกเลิศเลอด้วยเธอส่องดวงใจ 
       /font>
				
15 เมษายน 2547 14:07 น.

รัก ..นี่ละ ...ซึ้ง

อาภาภัส

        รัก  ..นี่ละนะ..
    เสียงนกเล็กๆจุบจิ๊บ จีบกันเบาๆยามเช้าวันนี้  ๑๕ เมษายน ๒๕๔๗  ฉันร่วมรับฟังเสียงจากเพื่อนในธรรมชาติ ชื่นชมที่หัวใจมันมีรัก รักที่มีคู่เคียง ย่อมไม่เหงาหงอย  ฉันเองก็มีเช่นกัน หนังสือ คำกลอน เรื่องราว ในความคิด ที่อยากให้ภาษาไทยอยู่ก้องฟ้า  แม้ฉันเปรียบเหมือนละอองแห่งธุลีดินที่เล็กที่สุด แต่ฉันก็ยังพอใจถ้าหากฉันถูกแดดส่องมันคงมีประกายดุจดังประกายเพชรเช่นกัน
    สายน้ำที่ฉันปล่อยให้มันรินรดหน้าฉันยามนี้ เพื่อจะเรียกความสดชื่น และตั้งใจคิดว่าจะช่วยโอบอุ้มภาษาได้อย่างไร แล้วทำให้ผู้ได้ลิ้มรส อิ่ม อิ่มเอม มีความสุข  สิ่งทีฉันชอบคงอยากเห็นผู้คนยิ้ม ยิ้มที่ไม่ลงทุนใดๆเลยนะ เป็นสิ่งที่
ธรรมชาติมอบให้ทุกคนโดยไม่เลือก เพศ เลือกวัย เป็นความอบอุ่นในหัวใจที่ไหลกระจายส่งความสุขให้ผู้คนโดยผ่านสายตาเป็นสื่อ ยามเราแย้มยิ้ม ตายิ้ม ปากยิ้ม หัวใจ ยิ้ม  ไมตรีไม่มี ลงเงิน  ก็คือยิ้ม  
    เคยเห็นใครสักคนยิ้มไหม  ใจถึงใจ มันอ่านค่าภาษาใจ ตามแต่เจ้าตัวจะพรรณนา สายตากรองสื่อแห่งการยิ้ม ไออุ่นใน ความรู้สึกดีงามจะปรากฏหากเป็นความรัก ความชอบพอ ความพอใจ มันสดใส  มันแบ่งปันความรู้สึกจริงใจให้แก่ผู้คนแม้ไม่รู้จัก เขาสุขเราสุข
     แล้วยามที่เราเขียนเป็นโคลง ฉันท์กาพย์ กลอนล่ะ มันส่งสาร และสื่อใจได้แค่ไหนนะ และจำเป็นไหม ที่ต้องให้คนนิยมอ่านเฉพาะกลอนรัก  แต่เท่าที่ประเมินก็จริงเสียด้วย กลอนรักหวานกระจุ๋มกระจิ๋ม ได้รับการต้อนรับแล้วจะทำไงดีที่จะพลิกไถภาษา
   เอาล่ะนะ จะลองเริ่มดูนึกถึงคำครูสอน รู้แบบงูๆปลาๆ ทำอะไรแบบงูๆปลาๆ  มันคงเหมือนเราตอนนี้เลย วันนี้ลองปนๆกันดู
     .
                                    ** บอก รัก  **
       ร่ายสุภาพ  
โอรักเอยอึดอัด  ลอยเรือลัดเรียบคลอง   หวังจีบจองนวลนาง  โฉมสอางค์สวยสาว   งามผิวขาวเรื่อลิ้ม   ดวงเด่นยามยะยิ้ม  สว่างฟ้านภาลัย  เรืองนา

                                    ** รัก ..อ๊ะ จ๊ะ **
 อินทรวิเชียรฉันท์ 
 (เวลาอ่าน ให้อ่านเหมือนตอนสวดมนต์ องค์ใดพระสัมพุทธ)
   
   ใจเรียมจะเจียนร้าว           นะจ๊ะ เจ้า หทัยหวาน
   พี่นี้ มลายราน                  มน หม่น  ฤดีรอน
   หวังเห็น ธ นวลนาง           วร  ปราง ยะยิ้มวอน
   ตาตอบ และ เอ่ยอ้อน        รักจ๊ะ จ้า รตีเผย

                                    ** รัก  ฝากลม **
  กาพย์ฉบัง ๑๖
       ชายใดไร้รักจักตรม               หวังร่วมภิรมย์
   สมสู่อยู่สุขร่วมสอง
      เอื้อนเอ่ยฝากลมโฉมน้อง         คิดถึงเนื้อทอง
   คมขำขาวนวลยวนใจ
               
                                  **  รัก  พาชม  **
กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘
       เรือรักลอยลำ      คลาคล้อยจ้วงจ้ำ     จรจีบอรชร   หวานใจใสสด     งามงดโอษฐ์อ่อน    อย่าปล่อยเรียมรอน   รวดร้าวหนาวทรวง
       โปรดเผยพาที      ใจเจ้าเนาพี่         ชื่นชอบห่วงหวง
รักลึกนึกรัก     ทึกทักแดดวง    วอนเว้าอย่าลวง    รักแล้วรักจริง

                                 **  รัก  คารม  **
โคลงสี่สุภาพ
       ยามไกลใจพี่นี้           เนานวล
    คิดก่อภาพยามสรวล     ส่งให้
    อีกคำเอ่ยคมครวญ       เคยค่อน   รอนนา
    ฝังอยู่ ทราบสุขไซร้       ซ่านซึ้งหวานหอม

                                 **  รัก  รัก  รัก รัก  **
โคลงกระทู้  ๑ คำ
      รัก  คือยอม ร่วมรู้       รสใจ
   รัก    เอ่ยจากตาไหว       หว่านล้อม
   รัก   ตอบย่อมละไม        มากดั่ง   เดือนนอ
   รัก   เร่าพอเพียบพร้อม   พรั่นสิ้นถวิลหา

                    ** รักเธอ  เสมอมิ่ง      ยอดหญิง  หวานฉ่ำ**
โคลงกระทู้   ๒  คำ
          รักเธอ  เธอห่อนรู้          ฤาไร
        เสมอมิ่ง มิตรสวยใส         สู่เจ้า
        ยอดหญิง หนึ่งทรามวัย     วอนแว่ว  รักเอย
        หวานฉ่ำ   หวานคละเคล้า  คู่ร้อยพลอยฝัน
                           **  รัก คือ  รัก **
โคลงสามสุภาพ
                รักคือรัก ทักใจ               เจืออวลไออุ่นหล้า
            ลอยล่อง เหนือฟากฟ้า         เฟื่องฟุ้งแดนสรวง   สวรรค์นอ
                            
                           **  รัก นะ  **
โคลงสองสุภาพ
                 รักนะนวลนิ่มน้อง           เนาร่อง นองยาม จ้อง
             หลั่งล้นโหยหา  

                         **  อย่างไรก็รัก  **
กลอนสุภาพ 
              รักอยู่คู่หล้ารักมานานเนา     ใครใคร่เอา อุ่นใคร ใจลุ่มหลง
           รัญจวนรวนโรมรัน ชะงักงง      ชีพปลิดปลง ยังชีพ เพียงเพื่อหวาน
          ใจชนล้วน ชนใจ ในยามรัก        เพลินสบพักตร์รักเพลินสะเทิ้นสาน
          ตาส่งสุขซึ้งตา พาเบิกบาน         สุขสราญพบสุขทุกดวงใจ

                         **   รัก เอ๋ย  รัก เอย **
กลอนดอกสร้อย
             รักเอ๋ย เคยรู้ไหม                 ข้ารักใคร ใจข้า ยังหวาหวือ
       ลอยละลิ่วปลิวลอยลมกระพือ      รักก็คือ ความรัก สมัครครอง
       ยอมผูกจิตคิดยอมแม้เจ็บจิต        ระแรงฤทธิ์ ลึกระ คราหม่นหมอง
      อาภาภัส จัดอา ลักษณ์ร้อยกรอง   รักคะนอง ครองรัก โอ รักเอย				
15 เมษายน 2547 13:41 น.

...b> @. รัก...นี่ ละ..ซึ้ง @

อาภาภัส

 บทกลอนไทย 
           
        
                                



				
15 เมษายน 2547 12:22 น.

อาภาภัส

        รัก  ..นี่ละนะ..
    เสียงนกเล็กๆจุบจิ๊บ จีบกันเบาๆยามเช้าวันนี้  ๑๕ เมษายน ๒๕๔๗  ฉันร่วมรับฟังเสียงจากเพื่อนในธรรมชาติ ชื่นชมที่หัวใจมันมีรัก รักที่มีคู่เคียง ย่อมไม่เหงาหงอย  ฉันเองก็มีเช่นกัน หนังสือ คำกลอน เรื่องราว ในความคิด ที่อยากให้ภาษาไทยอยู่ก้องฟ้า  แม้ฉันเปรียบเหมือนละอองแห่งธุลีดินที่เล็กที่สุด แต่ฉันก็ยังพอใจถ้าหากฉันถูกแดดส่องมันคงมีประกายดุจดังประกายเพชรเช่นกัน
    สายน้ำที่ฉันปล่อยให้มันรินรดหน้าฉันยามนี้ เพื่อจะเรียกความสดชื่น และตั้งใจคิดว่าจะช่วยโอบอุ้มภาษาได้อย่างไร แล้วทำให้ผู้ได้ลิ้มรส อิ่ม อิ่มเอม มีความสุข  สิ่งทีฉันชอบคงอยากเห็นผู้คนยิ้ม ยิ้มที่ไม่ลงทุนใดๆเลยนะ เป็นสิ่งที่
ธรรมชาติมอบให้ทุกคนโดยไม่เลือก เพศ เลือกวัย เป็นความอบอุ่นในหัวใจที่ไหลกระจายส่งความสุขให้ผู้คนโดยผ่านสายตาเป็นสื่อ ยามเราแย้มยิ้ม ตายิ้ม ปากยิ้ม หัวใจ ยิ้ม  ไมตรีไม่มี ลงเงิน  ก็คือยิ้ม  
    เคยเห็นใครสักคนยิ้มไหม  ใจถึงใจ มันอ่านค่าภาษาใจ ตามแต่เจ้าตัวจะพรรณนา สายตากรองสื่อแห่งการยิ้ม ไออุ่นใน ความรู้สึกดีงามจะปรากฏหากเป็นความรัก ความชอบพอ ความพอใจ มันสดใส  มันแบ่งปันความรู้สึกจริงใจให้แก่ผู้คนแม้ไม่รู้จัก เขาสุขเราสุข
     แล้วยามที่เราเขียนเป็นโคลง ฉันท์กาพย์ กลอนล่ะ มันส่งสาร และสื่อใจได้แค่ไหนนะ และจำเป็นไหม ที่ต้องให้คนนิยมอ่านเฉพาะกลอนรัก  แต่เท่าที่ประเมินก็จริงเสียด้วย กลอนรักหวานกระจุ๋มกระจิ๋ม ได้รับการต้อนรับแล้วจะทำไงดีที่จะพลิกไถภาษา
   เอาล่ะนะ จะลองเริ่มดูนึกถึงคำครูสอน รู้แบบงูๆปลาๆ ทำอะไรแบบงูๆปลาๆ  มันคงเหมือนเราตอนนี้เลย วันนี้ลองปนๆกันดู
     .
                                    ** บอก รัก  **
       ร่ายสุภาพ  
โอรักเอยอึดอัด  ลอยเรือลัดเรียบคลอง   หวังจีบจองนวลนาง  โฉมสอางค์สวยสาว   งามผิวขาวเรื่อลิ้ม   ดวงเด่นยามยะยิ้ม  สว่างฟ้านภาลัย  เรืองนา

                                    ** รัก ..อ๊ะ จ๊ะ **
 อินทรวิเชียรฉันท์ 
 (เวลาอ่าน ให้อ่านเหมือนตอนสวดมนต์ องค์ใดพระสัมพุทธ)
   
   ใจเรียมจะเจียนร้าว           นะจ๊ะ เจ้า หทัยหวาน
   พี่นี้ มลายราน                  มน หม่น  ฤดีรอน
   หวังเห็น ธ นวลนาง           วร  ปราง ยะยิ้มวอน
   ตาตอบ และ เอ่ยอ้อน        รักจ๊ะ จ้า รตีเผย

                                    ** รัก  ฝากลม **
  กาพย์ฉบัง ๑๖
       ชายใดไร้รักจักตรม               หวังร่วมภิรมย์
   สมสู่อยู่สุขร่วมสอง
      เอื้อนเอ่ยฝากลมโฉมน้อง         คิดถึงเนื้อทอง
   คมขำขาวนวลยวนใจ
               
                                  **  รัก  พาชม  **
กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘
       เรือรักลอยลำ      คลาคล้อยจ้วงจ้ำ     จรจีบอรชร   หวานใจใสสด     งามงดโอษฐ์อ่อน    อย่าปล่อยเรียมรอน   รวดร้าวหนาวทรวง
       โปรดเผยพาที      ใจเจ้าเนาพี่         ชื่นชอบห่วงหวง
รักลึกนึกรัก     ทึกทักแดดวง    วอนเว้าอย่าลวง    รักแล้วรักจริง

                                 **  รัก  คารม  **
โคลงสี่สุภาพ
       ยามไกลใจพี่นี้           เนานวล
    คิดก่อภาพยามสรวล     ส่งให้
    อีกคำเอ่ยคมครวญ       เคยค่อน   รอนนา
    ฝังอยู่ ทราบสุขไซร้       ซ่านซึ้งหวานหอม

                                 **  รัก  รัก  รัก รัก  **
โคลงกระทู้  ๑ คำ
      รัก  คือยอม ร่วมรู้       รสใจ
   รัก    เอ่ยจากตาไหว       หว่านล้อม
   รัก   ตอบย่อมละไม        มากดั่ง   เดือนนอ
   รัก   เร่าพอเพียบพร้อม   พรั่นสิ้นถวิลหา

                    ** รักเธอ  เสมอมิ่ง      ยอดหญิง  หวานฉ่ำ**
โคลงกระทู้   ๒  คำ
          รักเธอ  เธอห่อนรู้          ฤาไร
        เสมอมิ่ง มิตรสวยใส         สู่เจ้า
        ยอดหญิง หนึ่งทรามวัย     วอนแว่ว  รักเอย
        หวานฉ่ำ   หวานคละเคล้า  คู่ร้อยพลอยฝัน
                           **  รัก คือ  รัก **
โคลงสามสุภาพ
                รักคือรัก ทักใจ               เจืออวลไออุ่นหล้า
            ลอยล่อง เหนือฟากฟ้า         เฟื่องฟุ้งแดนสรวง   สวรรค์นอ
                            
                           **  รัก นะ  **
โคลงสองสุภาพ
                 รักนะนวลนิ่มน้อง           เนาร่อง นองยาม จ้อง
             หลั่งล้นโหยหา  

                         **  อย่างไรก็รัก  **
กลอนสุภาพ 
              รักอยู่คู่หล้ารักมานานเนา     ใครใคร่เอา อุ่นใคร ใจลุ่มหลง
           รัญจวนรวนโรมรัน ชะงักงง      ชีพปลิดปลง ยังชีพ เพียงเพื่อหวาน
          ใจชนล้วน ชนใจ ในยามรัก        เพลินสบพักตร์รักเพลินสะเทิ้นสาน
          ตาส่งสุขซึ้งตา พาเบิกบาน         สุขสราญพบสุขทุกดวงใจ

                         **   รัก เอ๋ย  รัก เอย **
กลอนดอกสร้อย
             รักเอ๋ย เคยรู้ไหม                 ข้ารักใคร ใจข้า ยังหวาหวือ
       ลอยละลิ่วปลิวลอยลมกระพือ      รักก็คือ ความรัก สมัครครอง
       ยอมผูกจิตคิดยอมแม้เจ็บจิต        ระแรงฤทธิ์ ลึกระ คราหม่นหมอง
      อาภาภัส จัดอา ลักษณ์ร้อยกรอง   รักคะนอง ครองรัก โอ รักเอย
           
        
                                



  				
14 เมษายน 2547 17:28 น.

...คำซึ้ง.... ถึงคุณ

อาภาภัส

อากาศยามบ่าย ของวันที่ ๑๔ เมษายน๒๕๔๗ มันช่างร้อน แต่ยามที่อยู่หน้าเครื่องคอมเวลานี้และได้อ่านเรื่องที่ใครสักคน เขียนถึงใครสักคน ความร้อนมันลดอุณหภูมิลงอย่างไม่หน้าเชื่อ  มันเป็นความรู้สึกภายในใจของชายคนหนึ่งที่เขาใช้ชีวิตเพื่อการงาน เพื่อตัวหนังสือ เพื่อสิ่งที่ทำให้หัวใจเขากระตุก แสดงถึงการเข้าใจในชีวิต

   และในท่ามกลางบรรยากาศที่ร้อนระอู กลับมีกระไอรักที่ชุ่มฉ่ำเย็นของเขารดรินจากใจของเขา และนึกถึงยอดหญิงอันเป็นที่รักของเขา  ไม่อยากเชื่อเลยนะว่าเขารู้จักคำว่าซึ้งและความคิดถึง

   อาจเป็นเพราะวาจาที่ดู ถอดหัวใจออกมา  ฉันนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์อ่านงานของเขา แล้วฉันอยากให้เขารู้สึกดี  โธ่ก็ วันนี้มันวันแห่งความสุข วันสงกรานต์ ทำไมคุณต้องรานหัวใจขนาดนั้น

    ฉันอยู่บนฟากฟ้า ได้ยินวาจาของคุณ ความรู้สึกของคุณ ณ อีกบทบาทหนึ่ง มันยิ่งใหญ่มากนะ

   ฉันอาจจะเขียนเพื่อให้คุณรู้สึกดีไม่ได้ เพราะไม่ใช่ใครที่คุณคิด แต่ก็อยากให้คุณ ทำใจนิดๆ ว่าอือม์เหมือนฟังเพลงในสายลม เพลงบรรเลงให้เราสุข เราก็แย้มยิ้ม ฉันอยากให้คุณรู้สึกดีนะ
  
   กอบหัวใจ โปรยมา เวลานี้
รักมิลี้ ล้อมองค์ คงรักเหลือ
แสงรวี โรยร้อน อ่อนจางเจือ
ใจนางเนือ เอื้อออม หลอมไมตรี

    ยามไกลกัน ฟากฝัน พลันได้พบ
 สายตาสบ สายใจสาน รักมิหนี
ราวลมเย็น โบยอ้อน วอนวาที
คิดถึงพี่ เพียงหนึ่ง  ตรึงฤทัย

   มาลาหอม พยอมร้อย เป็นคำรัก
ผูกวงค์พักตร์  ภาษา  มาหวานไหว
ใจดวงนี้ พี่ครอง ห้องดวงใจ
ยามเราไกล มองฟ้า พาอุ่นพลัน

   หยิบเมฆา กระพือ คือ ปีกฟ้า
โบยบินหา เหลียวมอง องค์จอมขวัญ
ทั่วแดนดิน สิ้นสูรย์ ทุกคืนวัน
รักนินิรันดร์ ตามติด ชิดใจเรียม

   เก็บนำหมด มหาสมุทร รุดเร็วรี่
รดคนดี เย็นฤทัย  ไร้อายเหนียม
เริงร้อนรื่น ชื่นไซร้ ใจ กราย เกรียม
น้องเอ่ยเทียม แทนใคร ในใจนา

   พรหมบรรเลง เพลงพา อุรารื่น
ขอพี่ชื่น ยิ้มในใจ ได้แล้วหนา
ด้วยสารนี้ คนดี  ต้องขอลา
ภัสอาภา อาภาภัส  จัดส่งแทน

				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอาภาภัส