5 กรกฎาคม 2549 20:29 น.
อัสสุ
แสงฉายขึ้นทิศนั้นตะวันออก
สัญญาณบอกสัตว์โลกให้ไล่ล่า
สัตว์เล็กเป็นเหยื่อสัตว์ใหญ่ธรรมดา
ชีพเกิดมาหน้าที่สิ่งสำคัญ
หากทุกอย่างทำหน้าที่ให้ดีแล้ว
คงคลาดแคล้วโภยภัยใหญ่มหันต์
ต่างหน้าที่สร้างงานต่างทำกัน
ช่วยเสกสรรคนละแรงปั้นแต่งเติม
ใครจะทำอะไรไม่ว่ากัน
แต่หากเดือดร้อนฉันไม่สรรเสริญ
ใครจะคิดจะทำก็ขอเชิญ
จะริเริ่มอะไรตามใจคุณ
ฉันคิดอะไรไม่เป็นหรอก
แต่ขอบอกไม่เคยทำให้ใครฉุน
ไม่เคยสร้างวางแผนบาปและบุญ
เรื่องให้วุ่นในใจเลยไม่ค่อยมี
ขออยู่กับตัวเองไว้ให้มาก
ก่อนจะจากโลกไปตายเป็นผี
อยู่เงียบเงียบไม่อยากเด่นไม่อยากดี
ทำหน้าที่ตัวเองมีให้ดีพอ
ไม่รู้ว่าชีวิตนี้มีเท่าไหร่
ยังยาวไกลหรือมันจะสั้นหนอ
ขอเห็นแก่ตัวทำดีให้ตนพอ
เอาตัวรอดแล้วหนอค่อยช่วยคน....อื่น
4 กรกฎาคม 2549 08:30 น.
อัสสุ
แม้นสิผ่านพ้นจนนับมื้อแล้วล้าเมือย
หัวใจยังบ่เอือยเปลี่ยนแปลงไปหน้า
สัญญายังจื่อมั่นคืนวันยังคอยหวง
คำว่าฮักยังเป็นบวงคาข้องใจไว้
ว่าสิลืมยามได๋ใจเอ้ยแฮงผันจำ
คิดนำแต่คำเก่าจนว่าสิเป็นบ้า
จำได้อยู่บ่น้อคำนั้นได้บอกกัน
หรือหันผันเปลียนเวียนไปอื่นแล้ว
แนวนี้บ่สาวบ้านเขวาเว้าแต่หวาน
มีบ้อน้อความจริงใจเป็นการกระทำเจ้า
หรือถือเอาผู้งามแล้วเฮ็ดแนวหยังกะบ่ผิด
มันบ่สะกิดหัวใจให้คิดนำจักแน่บ้อ
อยากขอถามแนะเอาหยังตั้งเอ็ดใจ
ซ่างบ่สั้นหวั่นไหวให้อีหยังเลยบ้าง
แม้นเฮาสิห่างหลายปีแล้วถ่อน
ใจกะฮ่ำฮอนคิดฮอดอยู่สู่มื้อนี้
หากแม้นลืมได้แล้วกะให้ลืมโลดสา
แต่อกอุรานี้ บ่มีทางลืมเจ้าเป็นดอกเด้อ นางเอ้ย
29 มิถุนายน 2549 09:20 น.
อัสสุ
............................
ลมยังพัดโรยทั่วแผ่นฟ้า
พสุธายังรองรับความหนักหนา
น้ำยังอ่อนไหวเช่นเดิม ๆ ๆ
....................................อ่อนไหว
.................ฉัน...............
.................เธอ...............
ไม่น่าจะรู้จักกันเลย
เรารู้จักกัน
ระยะหนึ่ง แต่หลายสิ่งหลายอย่าง
เกิดขึ้นมากว่าช่วงเวลานั้น
เธอหายไปเฉย ๆ ๆ
ฉันเศร้ากับเวลาที่สร้างมา
เสียดายทุกอย่าง
ฉันปลอบใจตัวเอง
เธอคงไปดีแล้ว เธอคิดดีแล้ว
แต่ไม่วายที่จะเสียใจ อ่อนไหว
............................................ระทม
เธอจบแล้ว แต่ฉันเพิ่งเริ่มต้น
ฉันยังคิดว่าเธอแค่ล้อเล่น
เธอยังมีใจ
..............................................เพ้อ
บางที เธอทักฉันก่อน
แต่ฉัน ทำทีไม่สนใจ
เพื่อจะลบความรู้สึกต่าง ๆๆ
ให้มันจบเหมือนเธอบ้าง
.............................................ลืม
" ฉันผิดใช่ไหมที่เป็นเช่นนี้ "
หลบหน้าเธอหลายทีไม่อยากเห็น
เธอคงไม่รู้ใจจริงที่ฉันเป็น
" เจ็บปวดยากเข็ญมากเพียงใด "
27 มิถุนายน 2549 09:16 น.
อัสสุ
พอทราบข่าวราวเรื่อง
จะยกเครื่องมาอีสาน
ยกพลคาราวาน
สู่ถิ่นฐานที่ราบสูง
ชาวอีสานขานรับ
ยินดีกับผู้หมายมุ่ง
เยือนแดนที่ราบสูง
ณ ท้องทุ่งพุทธธรรม
ลำบากบ้างหนทาง
ในบางถิ่นหากเยือนย่ำ
เพราะเกษตรกรรม
จึงชำรุดทรุดโทรมไป
ถึงหนทางจะร้าง
แต่ทางใจไม่เคยไหว
ยินดีต้อนรับใช้
ไม่ว่าใครจะมาเยือน
มีความจริงใจให้
คอยรอไว้เสมอเหมือน
ญาติพี่น้องมาเยือน
ตระเตรียมเรือนรับรองรอ
ยินดีต้อนรับท่าน
มาอีสานเที่ยวกันหนอ
แล้วจะติดพะนอ
มนต์เสน่ที่ราบสูง
25 มิถุนายน 2549 10:29 น.
อัสสุ
ณ ดินแดนที่ไกลไร้ขอบเขต
สิ่งวิเศษหลากล้วนอันควรค่า
สถิตภพเป็นสวรรค์ชั้นเมืองฟ้า
เวิ้งเวหาไร้ผู้คนค้นพบเจอ
พราวทิพยสมบัติทัดเทียมวาง
เนรมิตสร้างแล้วแต่ใจใฝ่เสนอ
เสพสุขสมภิรมย์ชมบำเรอ
มัวเมาเพ้ออย่างไรไม่ตีบตัน
หากมีใครอยากไปในถิ่นนี้
ให้เพียรหมั่นทำความดีตราบปลิดขันธ์
ละร่างกายได้วิมานสวรรค์พลัน
สมใจมั่นหมายมุ่งหมั่นอดทน
เสมือนภาพแดนดินถิ่นมนุษย์
ร่ำรวยฉุดสิ่งใดได้ผลิผล
เสพสุขได้ดั่งใจจะบันดล
ตราบดอกผลทุนทรัพย์จะอับปาง
แดนสวรรค์ไม่ต่างแม้นแดนมนุษย์
ที่มีจุดละโมบยั่วหลายอย่าง
ยิ่งมีมากยิ่งโลภมากยากปล่อยวาง
ยิ่งอยากสร้างอยากเด่นดีโลภมีมา
เพราะความอยากพาให้ใจอยากเด่น
กลบเกลื่อนเร้นมุ่งมาดปรารถนา
แสวงสวรรค์เก็บเกี่ยวยากเยียวยา
ละโมบหาความเด่นดีหนีความจริง