6 กุมภาพันธ์ 2551 11:24 น.
อัศวลีลา
เมื่อเจ้ามีสองมือไว้ถือสาก
ก็อย่าอายหากมีปากไว้ถือศีล
สองมือเจ้าตะเกียกตะกายและป่ายปีน
และสองตีนเจ้าก็ร่ำย่ำยีคน
6 กุมภาพันธ์ 2551 11:17 น.
อัศวลีลา
ตาเบบูญ่าบานแล้ว
พรูพราวแพรวพรมภิรมย์หวาน
ปลิดปลิวละลิ่วคว้าง ณ กลางลาน
จึ่งพิมานชมพูพิไลลา
ตาเบบูญ่าเริ่มแย้ม
ผลิแต้มมวลไพรพฤกษา
ชมพูชะเรื่อเจืออุรา
จิตาหวนเยือนเรือนรัง
3 กุมภาพันธ์ 2551 12:46 น.
อัศวลีลา
เอือมระอา
น้ำตาแน่นอกตกประหวั่น
เจ้าหรือข้าหนอที่สมควรโดนลงทัณฑ์
เหตุใดกันจึงเป็นข้าที่เสียน้ำตา
ข้าไม่เข้าใจการกระทำเจ้า
เจ้าก็บอกไม่เข้าใจการกระทำข้า
ชิ มันน่าเอือมระอา
และมันน่าสมเพศสิ้นดี
อยากสาบส่งให้เจ้าไปให้พ้น
แต่ก็หนอเรามันคน(ไร้ศักดิ์ศรี)
เพียงคำหวานผ่านชิวหาฝ่ารตี
ก็มามีอิทธิพล(เหมือนเช่นเคย)
3 กุมภาพันธ์ 2551 01:30 น.
อัศวลีลา
ปากเจ้าเฝ้าสัญญา
แล้วมุสาทุกวี่วัน
ชิ ทุเรศเปรตสิมัน
อยู่โลกันต์นั่นแหละดี
เสียดายเป็นมนุษย์
แต่มิหลุดสันดานผี
กักขฬะ ณ รตี
ชั่วชีวีจงบรรลัย
ชาติหน้าจงรับกรรม
ที่เจ้าทำเต็มหทัย
ข้าจะตามจองเวรไว้
มิยกโทษสักชาติเดียว
3 กุมภาพันธ์ 2551 01:20 น.
อัศวลีลา
หน้าเจ้าด้านกว่าหินผา
ใจเจ้าชากว่าไม้หมอน
น้ำเน่ายังม้วยมรณ์
นรกสัตว์ยังหลีกไกล
ชิ น้ำตาข้า
มิกล้าจะหลั่งไหล
ดวงจิต ณ หทัย
ใช่มีไว้เพื่อเจ้าชม
ปากเจ้ามันหวานนัก
จึงประจักษ์ว่าขื่นขม
น้ำลายหนอระย่อระทม
เน่าบรมบรรลัยจริง
ไปตายเสียเถิดเจ้า
อย่าอยู่เฝ้าหนักเมืองศรี
และอย่าฝังให้เปื้อนธรณี
และบุรีนี้เลยเทอญ