30 มิถุนายน 2552 20:59 น.
อัลมิตรา
๏ ใช่โดดเด่นเช่นปราชญ์ราชบัณฑิต
ฉันแอบพ่วงดวงจิตใคร่สนิทสนม
กว่าช่ำชองพ้องภาษาพร่างอารมณ์
ที่แล้งลมพูดพร่ำพลอยร่ำเรียน
ทั้งโคลงกาพย์กลอนฉันท์สารพันคิด
สู้มุ่งมั่นหมั่นประดิษฐ์หัดขีดเขียน
เรียงประโยคโยกความจนงามเนียน
ฉันพากเพียรเพื่อใครหวังใดกัน
แท้บุคคลคนเดียวหมายเกี่ยวข้อง
แค่เขาเหลือบแลมองร้อยกรองฉัน
หลากคำชมบนลานกลอนค่อนกำนัล
ฤๅ เทียบขวัญหนึ่งเขาอ่านเข้าใจ
ที่พร่ำเพ้อเสมอมาคราหงอยเหงา
ฉันหวังอ้อมอกเขาบรรเทาให้
ร่ายอรรถรสปลดเปลื้องเรื่องราวไป
วางอักษรซ่อนนัยแฝงใจความ
เขียนทุกอย่างเพื่อให้บางใครแล
สร้างกระแสบางหนคล้ายคนพล่าม
เคยมีคนแค่นแคลนว่าแสนทราม
กลอนห่วยห่ามผิดเหง้าเหล่ากวี
ยังยิ้มรื่นยืนยันรังสรรค์ถ้อย
แม้ฤทธิ์น้อยก็ตระหนักในศักดิ์ศรี
เจตนาเขียนให้ใครใจรู้ดี
คนเดียวที่พิเศษสาเหตุกลอน
แล้วบรรเลงลงความตามรู้สึก
จากส่วนลึกบึ้งใจนัยอักษร
ด้วยสายใยเสน่หาแสนอาทร
ทุกวรรคตอนทุกวลียินดีทำ ๚ะ๛
29 มิถุนายน 2552 22:12 น.
อัลมิตรา
๏ ขอเรียงร้อยถ้อยฝากถึงฟากฟ้า
บรรจงเขียนคำว่า"ห่วงหาเสมอ"
บนเส้นทางห่างไกลยังใฝ่ละเมอ
โอกาสเจอมีไหม.. ฉันไม่รู้
ทุกสิ่งสรรพ์บรรยายจากใจฉัน
บรรจงกลั่นร้อยเรียงใช่เพียงครู่
อยากให้คนแสนไกลได้เหลียวดู
แล้วอุ้มชูเหมือนครั้งเมื่อยังเยาว์
ภาพเด็กหญิงวิ่งหาบิดากอด
ฝันเห็นตลอดคล้ายว่าอุราเหงา
สองแก้มเปื้อนน้ำตามาลางเลา
หลับยังเศร้าครั้นตื่นสะอื้นแล
อ่าน"รอยจูบ"วูบไหวหัวใจสั่น
เขารังสรรค์เพราะจิตสนิทแม่
อ่าน"สัญญา" บางนัยเขาไม่แปร
ซาบซึ้งแท้พระคุณหนออุ่นไอ
แสนคิดถึงเสมอมาแม้คราฝัน
ซ้ำบางวันเพ้อว่าพ่อมาใกล้
คนพิเศษพิสุทธิ์สุดหัวใจ
สถิต ณ ฟากฟ้าไหนไม่รู้เลย ๚ะ๛
25 มิถุนายน 2552 16:59 น.
อัลมิตรา
๏ ตื่นเต้นกันสนั่นเมืองเรื่องแพนด้า
ต่างเฟ้นหาสนุกสนานคิดขานขวัญ
แค่เลือกชื่อลือเล่าเมาท์ทั้งวัน
บ้างเดิมพันหมูปิ้งหวังชิงชัย
ไปรษณีย์นับเงินเพลินเพราะหมี
พิมพ์โปสการ์ดทันทีที่คลอดใหม่
ชวนโหวตชื่อเลือกชื่ออื้ออึงไป
รางวัลใหญ่เงินสดพร้อมรถรอ
ฉันก็ซื้อโปสการ์ดด้วยคาดหวัง
สักหนึ่งครั้งยามเห็นเช่นไรหนอ
แพนด้าน้อยน่ารักจักเคลียคลอ
อยากอ้อนขอบางใครพาไปชม
เบื่อกรุงเทพฯ เหตุเมืองเรื่องวุ่นวาย
อยากพักกายพักร้อนนอนสุขสม
กับบางใครในพนาน่ารื่นรมย์
ท่ามสายลมสายหมอกเย้าหยอกกัน
เขียนถึงหมีที่แท้ฉันแค่เหงา
ยอกย้อนเล่าหลายตลบเพื่อขบขัน
วางประเด็นเส้นทางมอบรางวัล
จงคัดสรรแล้วมอบคำตอบมา
เชื่อมสายใย "ไทจีน" จอมกินเก่ง
ให้เหมาะเหม็งอย่างยิ่ง "หญิงหญิง" จ๋า
นาม "ขวัญไทย" ขวัญใจในพารา
เกิดล้านนา "หลินปิง" อิงสายธาร
เลือกเพียงหนึ่งพึงใจในคำตอบ
นามใดชอบควรเสี่ยงอย่าเลี่ยงผ่าน
หากใครตอบถูกต้องพ้องทางการ
รอไม่นาน.. ของฝากหากโชคดี ๚ะ๛
คุณแก้วประภัสสร .. โหวตชื่อ "หลินปิง"
คุณเฌอมาลย์ .. โหวตชื่อ "ไทจีน"
คุณกุ้งก้ามกราม .. โหวตชื่อ "ไทจีน"
คุณดอกบัว .. โหวตชื่อ "หลินปิง"
21 มิถุนายน 2552 23:24 น.
อัลมิตรา
.
เรียมเลิศล้ำเฉิดโฉม
งามดุจโสมล่วงดวงดาว
ระยับพร่างวับวาว
สุกสกาว ณ นภา
ไร้หมองช่างผ่องแผ้ว
มลทินแคล้วปราศเมฆา-
บดบังบิดเบือนรา-
ศรีสง่าฉวีวรรณ
งามเนื้ออันเรื่อแล้
อาภรณ์แม่แลรังสรรค์
สีดำล้ำเลอพลัน
ผิวนวลนั้นสะอ้านองค์
เข้มคมสมเนื้อสาว
สคราญราวน่าเริงหลง
นัยนาแม่นวลอนงค์
เรื่อเรืองตรงแพรผืนดำ
เพี้ยงราตรีวันเพ็ญ
ยังจิตเห็นดุจครอบงำ
คำนึงตรึงตราย้ำ
ให้เพ้อพร่ำพิร่ำปอง
โอ้งามเกินความเปรียบ
หาใครเทียบนวลละออง
ปราศสิ่งอันหมางหมอง
พิสุทธิ์ผองล้ำโลกสาม
อรชรแม่อ้อนแอ้น
นกนางแอ่นยังอายงาม
เลื่อมรับกับแสงวาม-
วับข่มข้ามอาภรณ์พรรณ
เปรียบปีกประกายเกิน
คราวดำเนินเพลินจำนรรจ์
พร่างแพร้วแน่วเฉิดฉันท์
เกษมสันต์ครั้นเมียงมอง
คราวที่ราศีหาย
สองเนตรฉายประกายกรอง
พลันแจ้งกลบกลืนผอง
ที่ลางรองให้เรื่อเรือง
ฉัพพรรณรังสี
ยอนวลที่งดงามเนือง
นุชน้องต้องชำเลือง
ดุจฝันเฟื่องใฝ่เคียงครัน
เลื่อมพรายหมายครองที่
โปรดปราณีนะมิ่งขวัญ
พริ้มพักตร์เพี้ยงเพ็ญจันทร์
วิลาวัลย์.."ตรีชฎา"
งามนี้เปรียบกาพย์เปรย
แล้วลงเอยเผยพจนา
เสกสรรค์วรรณกรรมว่า
เทพธิดาฤๅเทียบเทียม
สองแก้มแย้มเนื้อนวล
จิตปั่นป่วนเกินจำเนียม *
อกหวามในงามเรียม
แม่เสงี่ยมสงวนที
ท่วงถ้อยคำมธุรส
มากปรากฏแสนสุนทรี
ลักขณายามแย้มมี
ตรึงใจพี่ให้เพ้อหมาย
เช่นน้ำอันฉ่ำเย็น
ใสกระเซ็นเห็นพร่างพราย
ไหลเรื่อยเอื่อยชลสาย
ประดุจคล้ายทิพย์ชโลธร
ซาบจิตซ่านใจแท้
คลายล้าแม้มองบังอร
อ่อนโหยโรยแรงร้อน
ก็บั่นทอนกลับกลายไป
รื่นเริงบันเทิงยิ่ง
เพลินเพริศพริ้งแม่ยวนใจ
ซาบซึ้งตรึงทรวงใน
ให้หลงใหลตราบวายปราณ
แม้นสิ้นพิภพหล้า
จักปรารถนาเคียงนงคราญ
เชยชมภิรมย์นาน
นิรันดร์กาลมั่น.."ตรีชฎา"
12 มิถุนายน 2552 22:11 น.
อัลมิตรา
๏ ซ่อนกายแนบแอบแฝงกำแพงขวาง
คล้ายอำพรางตัวตนกลัวคนเห็น
มิเอื่อยเฉื่อยเรื่อยไหลไร้ประเด็น
ฉันจำเป็นปกป้องเกียรติของตัว
ซุกเปลือกหอยชะรอยจิตยังคิดฝัน
เพ้อรำพันผิว์พิกลเฉกคนทั่ว
ภายนอกแสร้งแกร่งใจภายในกลัว
กำหนดเกณฑ์กั้นรั้วไม่พัวพัน
เหมือนจืดชืดเชือนแชกระแสกล่าว
แค่ครู่เดียวเกรียวกราวเรื่องราวฉัน
บ้างตอกย้ำกำแพงแต่งแต้มกัน
เพื่อผังขัณฑสีมาสง่างาม
หลังกำแพงเปลือกหอยหอคอยสูง
ไร้ยางยูงอาศัยในเขตขาม
ฉันโดดเดี่ยวเดียวดายนัยนิยาม
ซ่อนตัวตามซอกเปลือกด้วยเลือกเอง
กำแพงเปรียบเปลือกจาดปราศสดใส
ต่างจากแก้วเจียระไนชวนให้เพ่ง
แถมบางคนคิดฉงนปนกริ่งเกรง
ฉันนักเลงมาดเก๋าดุ่มเดาไป
ก่อกำแพงเปลือกหอยค่อยค่อยก่อ
เขาลอบล้อกำแพงแห่งหนไหน
สร้างกำแพงจำเพาะดุจเกราะใจ
ฤๅ ขวางกั้นบางใครมิให้มา
แลดาษดื่นระรื่นตอบคนชอบเขียน
ถึงผิดเพี้ยนไปบ้างช่างสรรหา
ต่างยกเล่าเข้าใจหลายพรรณนา
คงลืมว่า.."ตัวฉันเท่านั้นเป็น" ๚ะ๛