29 ตุลาคม 2550 12:58 น.
อัลมิตรา
๏ พอจะมีเวลามาหาไหม ?
ฉันเขียนกลอนถามไปด้วยใจหวัง
เพราะเธอนั้นห่างหายคล้ายชิงชัง
หัวใจยังเหมือนเก่าหรือเปล่าเธอ ?
ช่างผิดแผกแตกต่างจากเมื่อก่อน
เธอเคยอ้อนคลอเคล้าหยอกเย้าเสมอ
กลับเปลี่ยนแปลงชอบกลมิปรนเปรอ
ฤๅ หลงเพ้อสาวใหม่จึงไม่แล
หากรักเราเลือนลางเพราะห่างไกล
เหมือนรักของบางใครในกระแส
คำเพ้อพร่ำ"จะรักมั่นมิผันแปร"
นิยามนั้นที่แท้แค่คำลวง
พอจะมีเวลามาหาไหม ?
ฤๅ สิ้นแล้วเยื่อใยไร้แววหวง
แม้นเธอมิตระหนักรักทั้งปวง
โปรดอย่าถ่วงหัวใจฉันให้ตรม ๚ะ๛
ฉันถามไป เพราะหัวใจเริ่มหวั่นไหวแล้วนะเธอ ..
25 ตุลาคม 2550 10:49 น.
อัลมิตรา
๏ ม่านหมอกเมฆเฉกฉากหลากลดหลั่น
ใกล้ไกลกั้นคั่นขวางหว่างภูผา
ล้วนเลื่อนลอยคล้อยคว้างหว่างนภา
ดาษดื่นตาตรึงใจให้เปรมปรีดิ์
จากเบื้องบนหนหาวราวเมืองสวรรค์
เป็นฉากชั้นตระการเห็นเป็นวิถี
ครั้นคราวแจ้งแสงสว่างกลางปฐพี
ต้องกันที่ขาวละมุนสมดุลย์กัน
ต้องลมปลิวพลิ้วประภาบ้างลาเลื่อน
ยังเยี่ยมเยือนแนวป่าพณาสัณฑ์
สู่ห้วงน้ำล้ำขจายคล้ายแพรพรรณ
อันเลิศล้ำงามฉะนั้นเฉิดฉันเกิน
จากสูงล้ำนำแน่วสู่แถวทุ่ง
จากฟ้ารุ่งมุ่งป่ามาเขาเขิน
จากแดนสรวงห้วงมหรรณพ์อันจำเริญ
ต่างมาเพลินแต่งไพรให้งดงาม
ฤๅอวดเทพเทวามหาศาล ?
จนชื่นบานชอบใจจึงไถ่ถาม
ว่าเทพใดในหล้าระบือนาม
ผู้ชอบความงามวิจิตรเนรมิตไว้
จนชาวชนคนป่ามาประสพ
ชาวเมืองพบตื่นตะลึงจึงสงสัย
เช่นนี้หรือคือสวรรค์อันอำไพ
แสนสุขใจยามเห็นเป็นขวัญตา ๚ะ๛
23 ตุลาคม 2550 20:26 น.
อัลมิตรา
๏ เสียงซุบซิบติดตาม"รักสามเส้า"
เหมือนนิยายน้ำเน่าเขากล่าวถม
รักขมวดวุ่นวายกลายเป็นปม
ดาวเด่นของสังคมแทบล้มตึง
เหตุเพราะศึกแย่งชายทำขายหน้า
หนุ่มที่ว่า ฤๅ ควรให้ชวนหึง
ต่างรู้ทั่วตัวเขาหวังเคล้าคลึง
ไม่เลือกหนึ่งเกี่ยวข้องลองพลัง
คงมากสาวจับจองจึงจ้องแจก
แต่ก็แปลกสาวรุมล้อมหน้าหลัง
จนเกิดเรื่องอื้อฉาวเป็นข่าวดัง
เมื่อพลาดพลั้งเลินเล่ออ้างเผลอตัว
เฉกละครสอนใจชวนให้คิด
ถูกหรือผิดสังคมประโคมทั่ว
หนึ่งคนรักอีกหนึ่งซึ่งพันพัว
ถ้าเกลือกกลั้วต่อไปคงไม่ดี
จงตระหนักสักนิดก่อนคิดรัก
แม้นจมปลักจะท่วมทุกข์ไร้สุขี
หากคัดสรรพันธุ์เสาะไม่เหมาะมี
จงเสรีความโสดอย่าโอดครวญ ๚ะ๛
18 ตุลาคม 2550 16:56 น.
อัลมิตรา
๏ ด้วยเรือนร่างด่างพร้อยมากรอยแผล
หวังบางใครเหลือบแลและสงสาร
มอบไมตรีแบ่งบุญเอื้อสุนทาน
ความร้าวรานที่มีคงคลี่คลาย
แต่ทว่า.. ที่ปรากฏคือหดหู่
ฤๅ เราผู้ต่ำทรามไร้ความหมาย
เพียงน้อยนิดความหวังยังเปล่าดาย
คนเคียงกายกระทั่งฝันยังลางเลือน
ต้องพานพบบทสรุปที่เศร้าโศก
เราอับโชคยิ่งนักใครจักเหมือน
หวังสักคนเมตตาพาร่วมเรือน
คล้ายฟั่นเฟือนเพ้อพร่ำลำพังตน
เพราะไม่มีบางใครใฝ่ปรารถนา
ซ้ำรู้ว่าหวังอย่างไรก็ไร้ผล
อีกทั้งทุกข์มากมายให้ผจญ
จะอดทนได้แค่ไหน..ไม่รู้เลย ๚ะ๛
12 ตุลาคม 2550 12:50 น.
อัลมิตรา
.
๏ เชิญคับแค้นข้องใจตามใจท่าน
เชิญระรานตามถนัดไม่ขัดขวาง
เชิญพยาบาทมุ่งร้ายจนวายวาง
เราเปิดทางด้วยยิ้มอาบอิ่มใจ
สำหรับเรา...เราพร้อมจะอโหสิ
ปราศอุตริหาเรื่องเปลืองตัวใส่
เหตุการณ์ที่สับสนผ่านพ้นไป
วันหน้ายังยาวไกลเริ่มใหม่พลัน
เชิญท่านแบกบทบาทอาฆาตเคียด
เชิญตั้งข้อรังเกียจและเดียดฉันท์
เชิญเหน็บแนมประณามหยามเหยียดกัน
เราจะหมั่นยิ้มให้ไม่แค้นเคือง
เรายืนยัน...พร้อมจะอโหสิ
ถึงแม้ว่าอนุสติมิปราดเปรื่อง
เพราะสำนึกดีว่าแสนเปล่าเปลือง
เรื่องบางเรื่องแค่วาง...ก็ว่างแล้ว
มาตราแม้นท่านมิขจัดทุกข์อัดอก
มิยอมยกสิ่งระคางปล่อยวางแผ่ว
อโหสิที่หวังไว้เหมือนไร้แวว
เชิญท่านแกร่วกลัดกลุ้มจนคุ้มเทอญ ๚ะ๛