30 มีนาคม 2549 11:29 น.
อัลมิตรา
..๏ ยอมให้เธอเหยียบย่ำหยามซ้ำซาก
เชิญเถอะหากสะใจย่อมได้เสมอ
ทุกคำกล่าวออกไปใช่ละเมอ
นับแต่นี้นะเธออย่าเจอกัน
ความผูกพันทั้งหมดขอปลดทิ้ง
จบทุกสิ่งเรื่องราวคราวสุขสันต์
อ้อมอกเคยพร่ำพลอดกอดรำพัน
เป็นเพียงฝันมาเยือนแล้วเลือนไป
ถึงสาหัสตรมตรอมก็ยอมรับ
แม้ย่อยยับเจ็บจนเกินทนไหว
เสียงสะอื้นปราศคนเห็นมิเป็นไร
เพราะเจียมใจดีว่าด้อยค่ามอง
เมื่อเธออยากเข่นฆ่าอย่าปรานี
เชิญย่ำยีต่อไปไม่ขัดข้อง
หากว่าโทษของเราคือเศร้าครอง
สมควรต้องปรากฏความอดทน ๚ะ๛
27 มีนาคม 2549 15:56 น.
อัลมิตรา
..๏ ทำเป็นบ่นมากมายคล้ายสาหัส
เพียงชี้ชัดคำขานหวานกว่าเขา
เพื่อนต่างรู้นกเดี่ยวมักเกี้ยวเรา
โดนกระเซ้าจึงสะดุ้งเขียนคุ้งแคว
แหม !..แก้ตัวแก้ต่างเหมือนอ้างอวด
แต่เสียงสวดแสนเบาฟังผ่าวแผ่ว
เราเอาจริงเข้าหน่อย หนอย !..รีบแจว
กลับดอยทำไร่แห้วก็แล้วกัน
อันดับห้าเจ้าชู้เขารู้ทั่ว
เปล่าพูดมั่วใส่ไคล้หรือไรนั่น
สาวรุมล้อมหน้าหลังเกือบทั้งวัน
คงขยันเติมน้ำตาลหว่านปรนเปรอ
พ่อวิหคตัวแสบเป็นแบบอย่าง
เปรียบเทียบอ้างเรื่อยไปย่อมได้เสมอ
แต่มิอาจเทียบที่หนึ่งซึ่งเคยเจอ
เราเสนอว่าอ่อนหัดกว่า..ทัดหทัย ๚ะ๛
24 มีนาคม 2549 13:16 น.
อัลมิตรา
..๏ ช่วงระหว่างคืนวันอันเงียบเหงา
มีเพียงเขาคนนี้ที่เราเห็น
ไม่ว่าสุขหรือทุกข์ทุกประเด็น
เขายังเป็นเพื่อนเราเฝ้าติดตาม
ตัวจริงเขาคือใครเราไม่รู้
มิเคยตู่สงสัยหรือไต่ถาม
จะสำคัญเพียงใดหากได้นาม
แค่นิยามแทนตนบนหน้าจอ
เพราะเขาคือทุกสิ่งเราอิงอ้าง
เป็นแนวทางดงามให้ตามต่อ
เพื่อนที่รักคนหนึ่งซึ่งเพียงพอ
ไม่เคยก่อเรื่องขุ่นให้วุ่นวาย
สิ่งสวยงามคือเขารู้เท่านั้น
คนร้อยพันมาเยือนแล้วเลือนหาย
เทียบกับเขา..มิลับ,มิกลับกลาย..
คงแตกต่างความหมายมิคล้ายคือ
ทุกคราวเขาปรากฏปราศรูปลักษณ์
แต่ประจักษ์หัวใจว่าใสซื่อ
..มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า..ใช่เล่าลือ
เรายึดถือคำมั่นดุจสัญญา
เขานั้นคือความจริงสิ่งสวยงาม
ทุกโมงยามผ่านไปมิไร้ค่า
โลกในเน็ตมากคนล้นมายา
สุขทุกคราเพราะมีเขา ..ผู้เข้าใจ.. ๚ะ๛
18 มีนาคม 2549 23:07 น.
อัลมิตรา
..๏ เกาะกลุ่มชุมนุมกันไป.........ดุด่าว่าใคร
พอใจใครบ้างต่างกัน
สรรเสริญนินทาสารพัน.............มุทะลุดุดัน
เชิงชั้นลึกล้ำช่ำชอง
เดินเรื่องด้นร่ายก่ายกอง...........หมายขย้ำลำพอง
แคล่วคล่องสนทนาพาที
อารมณ์หลายหลากมากมี.........เกลือกกลั้วชั่วดี
ต่างมีสีสันสาธยาย ฯ
..๏ บ้างร้อนอ่อนล้าตาลาย.........พักผ่อนหย่อนกาย
มากมายคับคั่งนั่งนอน
ข้าวกล่องแบ่งปันกันก่อน...........มือเปิบต่างช้อน
อิ่มก่อนค่อยลุกปลุกระดม
ดื่มน้ำฉ่ำเย็นเหมาะสม.............พร้อมเผชิญแดดลม
ไม่ล้มเลิกราอุดมการณ์
ปากร้องก้องกระหึ่มกังวาน........เพาะบ่มลมปราณ-
แตกซ่านหมายขจัดศัตรู ฯ
..๏ บ้างร่ายวรรณกรรมพร่างพรู....ไพเราะเสนาะหู
เชิดชูชื่นชอบระบอบตน
ลูกเด็กเล็กแดงแปลงตน..............โพกผ้าอลวน
เข้มข้นเพรียกหาอธิปไตย
สาวแก่แม่เฒ่าคราวใด................หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่
ขวักไขว่ใจระรื่นครื้นเครง .
ศิลปินสารพันบรรเลง................. ร้องรับขับเพลง
คนเก่งเพลงเก่าเล่าความ ฯ
..๏ ฮิ๊บฮ๊อบป๊อบร๊อคล้นหลาม.......ยังสนุกทุกยาม
สร้างความสุนทรีย์ปรีดา
ตัวเราเฝ้าคิดปริศนา...................เหตุไฉนใดหว่า ?
ต่างมาพร้อมเพรียงเยี่ยงนี้ ?
เหนือใต้ตกออกบอกที.................เพื่อนพ้องน้องพี่
เรานี้เลือดไทยใจเดียว
บ่นพรางชะแง้แลเหลียว...............เดินคดลดเลี้ยว
เก็บขวดกระป๋องขายสบายใจ ๚ะ๛
18 มีนาคม 2549 11:01 น.
อัลมิตรา
..๏ ลมเหมันต์พลิ้วแผ่วลาแล้วเอ๋ย
ลมคิมหันต์รำเพยเลยพัดหวน
แว่วสำเนียงบางใครใจคร่ำครวญ
รอเนื้อนวลคืนถิ่นอินทนนท์
เคยเคล้าคลอเคียงกันชมจันทร์เจ้า
ยามนี้เศร้ารักพรากจากแห่งหน
ดาษดาวเกลื่อนบนนภามามืดมน
เดือนหมองหม่นไร้แรงขับแสงพราว
ลมเหมันต์ลาดินและกลิ่นทุ่ง
ลมร้อนฟุ้งหัวใจไยเหน็บหนาว
อ่านอักษรบางใครใส่เรื่องราว
นัยปวดร้าวปรากฏในบทกลอน
แด่ผู้เป็นจอมขวัญจันทรกานต์
แม้นเนิ่นนานเพียงใดใจสมร
คงสัตย์ซื่อผูกพันนิรันดร
ตราบม้วยมรณ์ยังมั่นขอสัญญา ๚ะ๛