30 พฤศจิกายน 2549 12:55 น.
อัลมิตรา
๏ จอมโจรผู้หนึ่งซึ่งคะนอง.....เก่งกาจมาดผยอง
หมายปองของเราเอาไป
หลายเล่ห์กลล้ำเหลือใจ...........ล้วนหลากมากใด
เสมือนใคร่รุกล้ำปล้นสะดม
วนเวียนสนทนาคารม..............หวานแว่วเหมาะสม
เสมือนชมให้ชื่นรื่นฤดี
ฟังเพลินมธุรวาที....................ไพเราะเสนาะดี
เสมือนมีอิทธิฤทธิ์อิทธิเจ ฯ
๏ ความเคลิ้มเริ่มให้โลเล.........มึนเมาหลงเล่ห์
ด้วยเพทุบายขยายความ
ครั้นเป่ามนตราพยายาม...........บุกรุกคุกคาม
เกินห้ามให้หลงงงงวย
หูตาฝ้าฟางเอออวย...................อย่างไรใช่ด้วย
ดังป่วยด้วยยาขนานหนัก
มองภาพเบื้องหน้าพร้อมพรัก....โลกนี้ได้ประจักษ์
เสมือนนักมายากลแสดง ฯ
๏ ครั้นร่ายลีลาเปลี่ยนแปลง.......ท่วงท่าทะมัดทะแมง
กลั่นแกล้งหัวปักหัวปำ
จินตนาการตามความจำ............ของเรามืดดำ
ด้วยคำมนต์ขลังจังงัง
จนสบโอกาสพลาดพลั้ง.............บุกรุกด้วยพลัง
มุ่งหวังสิ่งใดไขว่คว้า
ฉุดกระชากลากชิงอุรา...............ไร้เหตุเมตตา
แท้มาปล้นจี้นี่เอง ฯ
๏ ที่แท้มาตรการบรรเลง............ให้ฉงนอลเวง
ช่างเก่งแกร่งกล้าเกรียงไกร
โอ้นี่มหาโจรปล้นใจ...................สมจริงยิ่งใหญ่
ฉับไวกลยุทธสุดยอด
ย่องมาหว่านเสน่ห์โดยตลอด.......ครั้นหลงย่องตอด
แล้วดอดขโมยพลันทันที
ยังจำคำหวานซ่านฤดี..................หลากหลายไมตรี
โอ้นี่..เราหลงรักฤๅ ? ๚ะ๛
29 พฤศจิกายน 2549 08:50 น.
อัลมิตรา
..๏ หลากใบไม้ร่วงหล่นบนทางเถื่อน
หยดเลือดเปื้อนเห็นทั่วหวาดกลัวหนอ
โรงเรียนร้างไร้เสียงนักเรียนคลอ
ภัยเกิดก่อจากไหนใครทบทวน ?
" ต่างศรัทธานั่นไง "..บางใครอ้าง
มิกระจ่างคำตอบจึงสอบสวน
แต่ละศาสตร์คำสอนย้อนใคร่ครวญ
ทุกศาสน์ล้วนตอกย้ำกระทำดี
" เกมการเมืองฉ้อฉล "..บางคนเอ่ย
ซ้ำเปรียบเปรยรัฐบาลยุคนั้นนี่
ไฟลุกลามถังแดงหลักแหล่งมี
รอยแผลนี้ผ่านวันมิบรรเทา
" ต้องการแยกดินแดน ".. บ้างแค่นรู้
ความเป็นอยู่,ความคิดผิดแผกเหล่า
ใครข้ามถิ่นจำไว้ข้าฯ ไม่เอา
หากเฉียดเงาระวังไว้ข้าฯ ใคร่เตือน
" ยามสงบ-งบไม่มี " เท่าที่เห็น
สร้างประเด็นฆ่าฟันกันกลาดเกลื่อน
บ้างอวดรู้ช่ำชองแต่สมองเลือน
บ้างบิดเบือนโทษซัดให้รัฐบาล
ทั้งหมดคือสนามแห่งความคิด
อาจถูก-ผิดตามใจปากใครขาน
แผ่นดินใต้จะรุ่มร้อนย้อนตำนาน
หรือสราญสุขสดใสไทยยินดี
คงขึ้นอยู่กับหัวใจไทยทั้งชาติ
ขับไล่ความวิปลาส,ความบัดสี
ไม่ว่าพุทธมุสลิมยิ้มไมตรี
สุขปรองดองร่วมปฐพีจากนี้ไป ๚ะ๛
23 พฤศจิกายน 2549 11:45 น.
อัลมิตรา
..๏ นั่งกังวลบนคานก็นานแล้ว
คงไร้แววมีคู่จะสู่สม
สาวรุ่นใหญ่หน้าใสแต่ใจตรม
ปราศชู้ชมนอนเดี่ยวเปลี่ยวเอกา
มองตัวเองทุกทีไม่ขี้เหร่
หุ่นก็เท่ห์เอวองค์ทรงหรูหรา
หัวใจเอ๋ยกลัดกลุ้มหนุ่มไม่มา
อนิจจาทำอย่างไรใครช่วยที
ทั้งบนบานศาลกล่าวเอาทุกอย่าง
หนุ่มยังห่างมองเมินซ้ำเดินหนี
สิบแปดฝนสิบแปดหนาวร้าวฤดี
เพราะไม่มีชายเหลือบแล เฮ้อ ! ..แย่จัง ๚ะ๛
21 พฤศจิกายน 2549 07:39 น.
อัลมิตรา
๏ เลิศล้ำด้วยความแท้......ต่างกันแค่พุทธศิลป์ทรง
แฝงความงามสูงส่ง..........ยิ่งดำรงคงนิรันดร์
เบื้องหน้าพุทธพักตร์.........ยิ่งประจักษ์ซึ่งคุณธรรม์
ลึกซึ้งอย่างสำคัญ............ปรากฎพลันพร้อมปัญญา ฯ
๏ ก่อนงามด้วยงานศิลป์...เกิดแต่ดินในคงคา
เลือกเฟ้นอย่างรู้ค่า..........แยกออกมาซึ่งหินทราย
ขึ้นรูปเป็นโครงร่าง..........สองมือช่างอย่างมุ่งหมาย
ซึ่งปั้นด้วยแรงกาย...........น้อมถวายอย่างสมควร ฯ
๏ มองเห็นซึ่งบางสิ่ง.........เพ่งความจริงในบางส่วน
พุทธลักษณะถ้วน............ทุกสิ่งล้วนพิสุทธิ์ศรี
จากเงินทองผ่องพรรณ....ล้วนสำคัญด้วยความดี
เหรียญหลากอันมากมี.....ด้วยใจที่พร้อมบูชา ฯ
๏ นวโลหะครบครัน..........ซึ่งคัดสรรด้วยศรัทธา
หลอมรวมในพริบตา........เป็นประติมากรรมงามนัก
ขัดแต่งด้วยแรงใจ............ด้วยตะไบทั้งเบาหนัก
จิตน้อมทั้งพร้อมภักดิ์.......จึ่งประจักษ์เป็นองค์งาม ฯ
๏ ปิดทองทั้งล่องชาด.........ล้ำพิลาสทุกย่ำยาม
เพ่งแล้วบังเกิดความ........สุขสงบพบความจริง
บูชาด้วยอามิส..................แล้วน้อมจิตเข้าอ้างอิง
สัจธรรมในความนิ่ง......... เห็นบางสิ่งปรากฏมี ฯ
๏ อยู่เย็นเป็นความสุข......พบความทุกข์อย่าถอยหนี
พุทธธรรมนำชีวี...............ทุกวิถีต้องพบพาน
ปัญญาหาเหตุผล.............จักนำตนเกษมศานต์
รู้เท่าทันเหตุการณ์.......... ด้านสุจริตคิดเมตตา ฯ
๏ ก่อนงามต้องช้ำเป็น.......จึงจักเห็นความโสภา
ก่อนสุขต้องทุกข์มา...........จึงรู้ค่าไม่ลืมตัว
ก่อนกล้าต้องไหวหวั่น........จึงรู้ทันยามหวาดกลัว
ก่อนสูงต้องต่ำตัว...............จึ่งประสบพบสัจธรรม ๚ะ๛
15 พฤศจิกายน 2549 16:21 น.
อัลมิตรา
..๏ ใช่ปิดกั้นแต่เลือกมิเกลือกกลั้ว
ใช่ปิดตัวกักตนกับคนไหน
ใช่ซึมเศร้าหมองหม่นกังวลใจ
บางเรื่องราวเผยได้ไม่ปิดบัง
เราเป็นมิตรหรือศัตรูต่างรู้ดี
หากคลุกคลีชิดใกล้ใคร่ครวญหยั่ง
เชิญสัมผัสด้วยใจในรัก-ชัง
อย่าพลาดพลั้งนัยเลศเจตนา
ความยุติธรรมเยี่ยงนี้ยินดีให้
ฉันคือใคร ? เปิดจิตปิดปัญหา
อีกเบื้องลึก-เบื้องหลังทั้งกิริยา
พิจารณาจริง-เท็จเบ็ดเสร็จทวน
พร้อมยินยอมน้อมรับสิ่งกลับกลาย
ไมตรีเพิ่มหรือคล้ายสูญหายถ้วน
โปรดพินิจกันไปแล้วใคร่ครวญ
ครบกระบวนเสร็จสิ้นตัดสินใจ ๚ะ๛