26 เมษายน 2548 13:00 น.
อัลมิตรา
..๏ เพราะมากคน-มากความตามที่รู้
แอบมาดูเขานัดจัดที่ไหน
หลายคนอ่านกระทู้อยู่ร่ำไป
แต่ก็ไม่เอ่ยปากฝากข้อความ
เออนี่แน่ะ ! ตัวป่วนป่วนสมชื่อ
ประโยชน์คือสิ่งใดใคร่เรียนถาม
ท่านมุ่งหวังจุดไฟให้ลุกลาม
ฤๅเพียงตามคนแห่กระแสนิยม
ผลที่ได้จากมิตติ้งสิ่งใดบ้าง
มิตรอำพรางหรือสานต่อข้อเหมาะสม
หากบางคนซ่อนนัยในอารมณ์
แล้วทับถมถุยถากปากไม่ดี
มิตรภาพตราบสิ้นดินและฟ้า
ท่องเวปมามากมายหลายวิถี
อยู่ในโลกมายามานานปี
สร้างน้อง-พี่,ศัตรูอยู่รอบตัว
บ้างต่อหน้าพูดจาประสาชื่อ
เบื้องหลังถือดาบใหญ่ไล่ฟันหัว
หน้ามะพลับหลังตะโก..โฮ่ ! น่ากลัว
เห็นอยู่ทั่วช่างเหี้ยมหลากเหลี่ยมกล
แม้นมิตติ้งคราวนี้มีความหมาย
มิคลับคล้ายเคยผ่านพาลฉ้อฉล
อยากพบความจริงใจไม่วกวน
จะมีไหมเพียงสักคนที่ค้นเจอ ๚ะ๛
ตอบ ..Meetting (จริงใจหรือไก่กา) .. ตัวป่วนกวนใจ
http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_75052.php
25 เมษายน 2548 12:25 น.
อัลมิตรา
มวลผองเพื่อนชมเดือนที่ระยอง
1. กอกก
2. อัลมิตรา
3. คนเมืองลิง
4. ค้างคาวคืนคอน
5. แก้วประเสริฐ
6. Idaho
7. พี่นิด
8. กุ้งหนามแดง
9. นุช
10.เรไร
11.จอมยุทธเมรัย
12.ผู้เฒ่า..โง่งม
13.พินิจ
14.ผู้หญิงไร้เงา
15.ดาวอังคาร
16.คุณพระจันทร์เศร้า
17.ขอโทษครับ..ผมเมา
18.คุณภูตะวัน ตะวันรอน
19.ถนนสายเก่า รองเท้าคู่เดิม
20.ทะเลใจ
21.ขลุ่ยหลิบ
22.เพียงพลิ้ว
23.ร้อยฝัน
24.ผู้หญิงสีม่วง
25.วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
26. น้องสาวของวิสกี้ ฯ
27. ปีกฟ้า
28.ทำมะชาด
มิ ต ร ภ า พ ต ร า บ สิ้ น ฟ้ า
21 เมษายน 2548 11:00 น.
อัลมิตรา
...รับรู้นิยาม...ของความเป็นห่วง...
...ว่าเรื่องทั้งปวง...ที่มอบมาให้...
...ล่องลอยเคว้งคว้าง...เดินทางมาแสนไกล...
...แท้คือเยื่อใย..น้ำใจ..ไมตรี...
...หมายไขว่ใคร่คว้า...นำมอบแนบอก...
...แล้วจึ่งหยิบยก...ทบทวนเรื่องนี้...
...แม้ร้างห่างไกล...ใช่สิ้นไมตรี...
...อยากให้คนดี...รับรู้เรื่องราว...
...ว่าแสนคิดถึง...ตราตรึงในจิต...
...แม้เสี้ยวแห่งชีวิต...เคยคิดเหน็บหนาว...
...มีร้อนรุ่มสุมใส่...บ้างในครั้งคราว...
...เจ็บปวดรวดร้าว...ทุกคราวที่คำนึง...
...อยากบอกให้รู้...ผู้อยู่ตรงนี้...
...ยังคงปรารถนาดี...มีความซาบซึ้ง...
...อดีตกาลผ่านแล้ว..ไม่แคล้วตราตรึง...
...มอบความคิดถึง...สุดซึ้งมากมาย...
...คิดย้อนกลับไป...ถึงผู้อยู่ไกลสุดปลายฟ้า...
...สืบเสาะค้นหา...ทิศทางอันหลากหลาย...
...สะท้อนความคิด...ว่าดวงจิตไม่คิดกลับกลาย...
...ไม่เคยเสื่อมคลาย...เปลี่ยนไปจากเดิม...
...รู้ซึ้งตรึงตรา...เกินกว่าพร่ำบอก...
...แม้อาการภายนอก...มาดนิ่งไร้สิ่งเสริม...
...เสมือนเฉยชา...ดั่งว่าผิดแผกจากคนเดิม...
...แต่อ่อนโยนนั้นเริ่ม...ต่อเติมเพิ่มทรวง...
...เก็บงำความรัก...ไว้อย่างนิรันดร์...
...พร้อมกับความสำคัญว่า...ใครเป็นห่วง...
...ให้ไปหมดแล้ว...หัวใจหมดทั้งดวง...
...แค่ขอย้อนทวง...ว่าอย่าได้ทำลายลง...
...เยื่อใยสายรัก...ที่ถักเป็นสร้อย...
...ยังคงจักคอย..เธอผู้ประสงค์...
...แม้ว่าอยู่ไกล...ยังคนึงหาทุกครา...มั่นคง...
...ด้วยจิตจำนง...ตรงสัมผัสใจ...
...แ ด่ ผู้ อ ยู่ ไ ก ล ณ ป ล า ย ฟ้ า...
19 เมษายน 2548 01:01 น.
อัลมิตรา
..๏ เหม่อมองไกลไปสุดปลายฟ้า
พบเพียงว่าสุดสุขหัวใจ
ปล่อยความฝันอันแสนยิ่งใหญ่
ล่องลอยไกลปลิวไปโดยพลัน
เสี้ยวแห่งจิตยังคิดอยู่ว่า
แรงลมจักพาเยื่อใยฉัน
ไปมัดรัดตรึงซึ่งสัมพันธ์
ผูกยึดมั่นไม่หลุดเลือนราง
เพื่อมอบไมตรีที่บริสุทธิ์
แม้ลึกสุดใจยังอ้างว้าง
เนื้อความนัยไม่บังอำพราง
แท้ทุกอย่างคือความสัตย์จริง
ด้วยความรักอันมากจนล้น
แต่กังวลสับสนบางสิ่ง
วอนลมรักโปรดทักท้วงติง
ว่าเธออย่านิ่งและเมินเฉย
ขอให้รู้ว่ายังห่วงใย
นี้คือความนัยที่อยากเอ่ย
แม้คืนวันพ้นผ่านล่วงเลย
ฉันยังไม่เคยหลงลืมเลือน
ขอทวงถามในนิยามหนึ่ง
ว่าเธอซาบซึ้งหรือฝาดเฝื่อน
หวังว่ารักยังไม่บิดเบือน
หากเสมือนตัวเราห่างไกล
ป ล ดป ล่ อ ย ค ว า ม รั ก ล่ อ ง ล อ ย ค ว้ า ง
ก้ า ว สู่ เ ส้ น ท า ง ที่ ฝั น ใ ฝ่
ที่ ป ล า ย ฟ้ า ห า ก ว่ า มี ใ ค ร
ค อ ย รั บ ไ ว้ . . จั ก สุ ข เ ห ลื อ เ กิ น
รับรู้ห่วงใยในครั้งก่อน
ห่วงหาอาวรณ์ไม่ห่างเหิน
หากสัมพันธ์นั้นยังดำเนิน
ขออย่าหมางเมินความห่วงใย ๚ะ๛
I was standing
All alone against the world outside
You were searching
For a place to hide
Lost and lonely
Now youve given me the will to survive
When were hungry
Love will keep us alive
14 เมษายน 2548 13:49 น.
อัลมิตรา
...แด่เจ้านางฟ้าตัวน้อย
..๏ ชีวิตและจิตใจ.........................ดำรงได้เพราะมีเจ้า
ลมปราณอันแผ่วเบา....................ของนงเยาว์ดั่งเยียวยา-
เพื่อให้ได้ดำรง.............................อย่างยืนยงมั่นคงมา
คราใดได้ชายตา...........................มองใบหน้าอันผ่องพรรณ ฯ
..๏ รอยยิ้มที่เย้ายวน.....................ยิ่งเชิญชวนให้ใฝ่ฝัน
ยามเจ้านิทราครัน.........................ความผูกพันธ์ดั่งเพิ่มพูน
ตราบเมื่อเจ้าพลัดพราก.................ดั่งกระชากชีพดับสูญ
โศกาและอาดูร..............................บ่เสื่อมสูญจางหายไป ฯ
..๏ งามงอนเจ้าจรจาก..................ด่วนพลัดพรากไปแดนไกล
พร้อมฝันอันอำไพ........................ที่อยู่ในหัวใจนวล
อดีตกาลอันผ่านพ้น......................ข้า ฯ คงตนบ่กำสรวล
อยู่ได้อย่างสมควร.........................เพราะเนื้อนวลร่วมชีวี ฯ
..๏ ชีวิตและจิตใจ..........................ดำรงได้เพราะสิ่งนี้
ตราบเมื่อได้รู้ดี..............................ว่าไม่มีเจ้าเคียงกาย
ยอมรับกับความจริง.......................สรรพสิ่งต้องเสื่อมคลาย
สัมพันธ์นั้นห่างหาย.......................ต้องเดียวดายอย่างโศกา ฯ
..๏ สูญเสียเจ้าไปแล้ว...................คงไม่แคล้วต้องห่วงหา-
อาวรณ์ยิ่งนำพา............................ให้จิตข้า ฯ นั้นหมองตรม
คำนึงถึงคราวก่อน.........................ครั้งงามงอนอยู่เคียงสม
วันคืนแสนรื่นรมย์..........................ยังชื่นชมตราบเนิ่นนาน ฯ
..๏ สัมพันธ์อันเลอค่า....................ติดตรึงตราทุกวันวาร
ความรักสมัครสมาน......................ยังกังวานแว่วในกมล
ข้า ฯ นั้นบ่หมายปอง.....................แม้แต่ต้องหลับตาตน
ฤๅแม้แต่จำนน-.............................ต่อนิทราทุกคราไป ฯ
..๏ เนื่องด้วยดวงจิตข้า ฯ...............เฝ้าคะนึงหาและอาลัย
ถึงเจ้ายอดดวงใจ...........................อย่างห่วงไยทั้งผูกพัน
แลข้า ฯ บ่ปรารถนา.......................รำลึกหาสิ่งใดนั้น
คราใดเมื่อได้ฝัน............................ถึงเจ้านั้นยิ่งอาวรณ์ ฯ
..๏ ความฝันอันเปี่ยมสุข...............แท้คือทุกข์ตามหลอกหลอน
อ้างว้างทั้งบั่นทอน-.......................ซึ่งจิตข้า ฯ พาร้อนรน
มิเป็นเช่นความคิด........................ให้สัมฤทธิ์ประสิทธิ์ผล
ด้วยจิตติดวังวน..............................ยังเปี่ยมล้นสิเนหา ฯ
..๏ ติดบ่วงห้วงคำนึง.....................ดุจติดตรึงทุกครั้งครา
ถึงน้องผ่องโสภา...........................ทุกเพลามิเว้นวาง
อีกข้า ฯ บ่ประสงค์........................จิตจำนงถึงทุกอย่าง
ดวงใจคล้ายเคว้งคว้าง..................การปล่อยวางช่างยากเย็น ฯ
..๏ สิ่งหนึ่งซึ่งขวางกั้น-.................จิตเจ้านั้นให้เปลี่ยนเป็น-
กำลังดั่งเคี่ยวเข็น..........................แปรความเห็นเป็นผิดไป
จิตเจ้าราวต่อต้าน...........................อีกทัดทานซึ่งเยื่อใย
ยิ่งเกิดความแคลงใจ.....................ว่าสิ่งใดเจ้าใฝ่ฝัน ฯ
..๏ ข้า ฯ ยังเฝ้าปรารถนา.............ให้พบพาสิ่งมหัศจรรย์
สิ่งใดเจ้าใฝ่ฝัน.............................ขอสิ่งนั้นคือตัวข้า
ขอให้ ฯ ได้จุมพิต.........................ทั้งดวงจิตที่ปรีดา
ประทับ ณ เปลือกตา.....................ด้วยสิเนหาสุมทรวงใน ฯ
..แด่เจ้าดวงใจ
..๏ จิตน้อมพร้อมเคารพ................ขอนอบนบซึ่งพระไตร-
โลกเชษฐ์ที่ทรงให้........................สองเราได้เคียงใกล้กัน
และข้า ฯ เพียงประสงค์................จิตจำนงจงใจมั่น
เยื่อใยสายสัมพันธ์.......................ให้เรานั้นเป็นคู่ครอง ฯ
..๏ ผูกสนิทและชิดเชื้อ..................อีกโอบเอื้อเกื้อปรองดอง
ตลอดไปไม่ขุ่นข้อง.......................นิจนิรันดร์มั่นในกมล
ข้า ฯ นั้นบ่หมายปอง.....................แม้แต่ต้องหลับตาตน
ฤๅแม้แต่จำนน-..............................ต่อนิทราทุกคราไป ฯ
..๏ เนื่องด้วยดวงจิตข้า ฯ..............เฝ้าคะนึงหาและอาลัย
ถึงเจ้ายอดดวงใจ...........................อย่างห่วงใยทั้งผูกพัน
แลข้า ฯ บ่ปรารถนา.......................รำลึกหาสิ่งใดนั้น
คราใดเมื่อได้ฝัน............................ถึงเจ้านั้นยิ่งอาวรณ์ ฯ
..๏ ความฝันอันเปี่ยมสุข..............แท้คือทุกข์ตามหลอกหลอน
อ้างว้างทั้งบั่นทอน-......................ซึ่งจิตข้า ฯ พาร้อนรน
มิเป็นเช่นความคิด.......................ให้สัมฤทธิ์ประสิทธิ์ผล
ด้วยจิตติดวังวน.............................ยังเปี่ยมล้นสิเนหา ฯ
..๏ ติดบ่วงห้วงคำนึง....................ดุจติดตรึงทุกครั้งครา
ถึงน้องผ่องโสภา..........................ทุกเพลามิเว้นวาง
อีกข้า ฯ บ่ประสงค์.......................จิตจำนงถึงทุกอย่าง
ดวงใจคล้ายเคว้างคว้าง................การปล่อยวางช่างยากเย็น ฯ
..๏ ใจหนึ่งไม่ปรารถนา-..............คะนึงหาฤๅพบเห็น-
รอยยิ้มของใครเป็น-....................เสมือนประเด็นเช่นเล่ห์ลวง
ทั้งยังไม่ประสงค์..........................จิตจำนงจงใจห่วง-
คิดถึงซึ่งรอยลวง..........................คือจุมพิตติดตรึงตรา ฯ
..๏ คงเป็นการเหมาะสม.............หากพระพรหมให้พรมา
ได้สุขสมปรารถนา......................เพื่อ เจ้า - ข้า ฯ อยู่เคียงกัน
ดำรงจงใจภักดิ์............................เพื่อพิทักษ์รักคงมั่น
ใกล้ชิดจิตสัมพันธ์.......................ทุกคืนวันบ่เสื่อมคลาย ฯ
..๏ สัมผัสอาจรู้ซึ้ง.......................แสนคำนึงถึงความหมาย
ว่าเจ้าบ่กลับกลาย........................ฤๅห่างหายความผูกพันธ์
ดวงจิตบ่คิดอื่น.............................ยังยั่งยืนบ่แปรผัน
ข้า ฯ ยังยืนหยัดมั่น.....................ในคืนวันที่หมุนเวียน ฯ
..๏ บ่สิ้นสิเนหา..........................ห้วงเวลาแม้แปรเปลี่ยน
ชีวิตแม้นจวนเจียน.....................ยังพากเพียรในบัดดล
ข้า ฯ นั้นบ่หมายปอง..................แม้แต่ต้องหลับตาตน
ฤๅแม้แต่จำนน-...........................ต่อนิทราทุกคราไป ฯ
..๏ เนื่องด้วยดวงจิตข้า ฯ.............เฝ้าคะนึงหาและอาลัย
ถึงเจ้ายอดดวงใจ.........................อย่างห่วงใยทั้งผูกพัน
แลข้า ฯ บ่ปรารถนา.....................รำลึกหาสิ่งใดนั้น
คราใดเมื่อได้ฝัน..........................ถึงเจ้านั้นยิ่งอาวรณ์ ฯ
..๏ ความฝันอันเปี่ยมสุข..............แท้คือทุกข์ตามหลอกหลอน
อ้างว้างทั้งบั่นทอน-......................ซึ่งจิตข้า ฯ พาร้อนรน
มิเป็นเช่นความคิด........................ให้สัมฤทธิ์ประสิทธิ์ผล
ด้วยจิตติดวังวน.............................ยังเปี่ยมล้นสิเนหา ฯ
..๏ ติดบ่วงห้วงคำนึง.....................ดุจติดตรึงทุกครั้งครา
ถึงน้องผ่องโสภา..........................ทุกครั้งครามิเว้นวาง
อีกข้า ฯ บ่ประสงค์........................จิตจำนงถึงทุกอย่าง
ดวงใจคล้ายเคว้งคว้าง...................หมายปล่อยวางช่างสับสน ฯ
..๏ ข้า ฯ นั้นบ่หมายปอง..............แม้แต่ต้องหลับตาตน
ฤๅแม้แต่จำนน-............................ต่อนิทราทุกคราไป
เนื่องด้วยดวงจิตข้า ฯ...................เฝ้าคะนึงหาและอาลัย
ถึงเจ้ายอดดวงใจ..........................อย่างห่วงใยทั้งผูกพัน ฯ
..๏ แลข้า ฯ บ่ปรารถนา................รำลึกหาสิ่งใดนั้น
คราใดเมื่อได้ฝัน...........................ถึงเจ้านั้นยิ่งอาวรณ์
ความฝันอันเปี่ยมสุข....................แท้คือทุกข์ตามหลอกหลอน
อ้างว้างทั้งบั่นทอน-......................ซึ่งจิตข้า ฯ พาร้อนรน ฯ
..๏ มิเป็นเช่นความคิด..................ให้สัมฤทธิ์ประสิทธิ์ผล
ด้วยจิตติดวังวน.............................ยังเปี่ยมล้นสิเนหา
ติดบ่วงห้วงคำนึง...........................ดุจติดตรึงทุกครั้งครา
ถึงน้องผ่องโสภา...........................ทุกครั้งครามิเว้นวาง ฯ
..๏ อีกข้า ฯ บ่ประสงค์.................จิตจำนงถึงทุกอย่าง
ดวงใจคล้ายเคว้งคว้าง.................หมายปล่อยวางช่างสับสน
ข้า ฯ นั้นบ่หมายปอง...................แม้แต่ต้องหลับตาตน
ฤๅแม้แต่จำนน-.............................ต่อนิทราทุกคราไป ฯ
..๏ ด้วยข้า ฯ บ่ประสงค์...............จิตจำนงฤๅฝันใฝ่
ด้วยคะนึงถึงไฉไล.......................ตราบนิรันดร์ไม่จืดจาง ๚ะ๛