5 ตุลาคม 2548 07:59 น.
อัลมิตรา
. . ก็ อ า จ ไ ม่ เ ป็ น วัน ข อ ง เ ร า
. . ไ ม่ เป็ น ไ ร ฝั น ร้ าย วัน นี้ ใ ห้ ลื ม มั น
. . คื น นี้ ที่ ฟ้ า มื ด ม น ก่ อ น พ บ แ ส ง ต ะ วั น
. . อ ย า ก ให้ เ ธ อ ท ร ง จำ. . ภ า พ วั น ดี ๆ
..๏ อาจเป็นวันที่ร้าย..........ของเรา
ช่างเถิดลืมสลัดเอา...........ออกทิ้ง
ฟ้ามืดชั่วบังเงา..................ตะวันส่อง
เพียงภาพวันวานพริ้ง..........เก็บไว้ทรงจำ ฯ
. . จ ะ อ ยู่ ดู แ ล เ คี ย ง ข้ า ง เ ธ อ
. . ไ ม่ ใ ห้ เ ธ อ เ ดี ย ว ด า ย ป ว ด ร้ า ว กั บ คื น นี้
. . ห ลั บ ต า พั ก ใ ห้ ส บ า ย อ ย า ก เ ห็ น เ ธ อ ฝั น ดี
. . ก่ อ น วั น พ รุ่ ง นี้ ไ ม่ มี . . ฉั น ค อ ย ดู แ ล
..๏ จะดูแลอยู่ข้าง..............เคียงกาย
มิปล่อยเธอเดียวดาย..........ปวดร้าว
หลับตาพักให้สบาย..............ฝันสุข
ก่อนพรุ่งพ้นพรากก้าว.........ปราศร้างเลือนกัน ฯ
. . เ อ น ก า ย ล ง พั ก ใ จ ไ ว้ กั บ ฉั น
. . จ ะ พ า เ ธ อ ผ่ า น ภ า พ คื น ด้ ว ย หั ว ใ จ
. . ก่ อ น ที่ ค น คุ้ น เ ค ย จ ะ เ ป็ น แ ค่ เ ค ย คุ้ น ไ ป
. . ข อ แ ค่ ใ ช้ เ ว ล า ที่ เ ห ลื อ . . ไ ด้ ทำ เ พื่ อ เ ธ อ
..๏ เอนกายใจพักไว้..........กับฉัน
จะผ่านภาพคืนปัน.............จิตร้อย
เวลาที่เหลืออัน..................ควรค่า
ขอแค่มอบก่อนคล้อย.........อุทิศให้แด่เธอ ฯ
. . อ ย่ า ก ลั ว ค ว า ม จ ริ ง ที่ ต้ อ งเ จ อ
. . เ มื่ อ เ ข า รั ก เ ธ อ แ ล ะ เ ธ อ เ ลื อ ก เ ข า ฉั น เ ข้ า ใ จ
. . เ ธ อ ไ ม่ ต้ อ งกั ง ว ล เ ห ตุ ผ ล จ ะ เ พ ร า ะ อ ะ ไ ร
. . ค น สำ คั ญ ข อ ง ใ จ . . ก็ ยั ง เ ป็ น เ ธ อ
..๏ รับความจริงสิ่งต้อง......พบเจอ
ในเมื่อเขาและเธอ............รักแท้
ใจฉันมั่นคงเสมอ..............ขออย่า พะวงเอย
คนสำคัญสุดแม้.................เช่นนั้นคือเธอ ๚ะ๛
4 ตุลาคม 2548 13:45 น.
อัลมิตรา
..๏ อ่านลำนำแสนเศร้าคำเขาพ้อ
คงหวั่นหนอกลัวรักจะหักหาย
คนไกลตาโดดเดี่ยวเปล่าเปลี่ยวกาย
หัวใจสลายขมขื่นใครลืมเลือน
ตัวอักษรตรงหน้าครารับรู้
ให้หดหู่เพราะถ้อยคำเขาเชือดเฉือน
ณ คืนที่ท้องนภามาร้างเดือน
เราก็เหมือนน้ำท่วมปากลำบากใจ
หากคำรักต้องพูดพร่ำย้ำเสมอ
ทุกคืนวันเอาแต่เพ้อละเมอใฝ่
รักจะเพิ่มจากเก่าสักเท่าใด
ยามเอ่ยปากเปรยไปไม่เว้นวัน
มาตรแม้นรักยืนยงคงคู่ฟ้า
ควรฤๅมาข้องใจจนไหวหวั่น
นิยามรักคืออะไรนัยสำคัญ
ไยรำพันว่าเศร้าหนอตัดพ้อเรา
ยามราตรีที่ไร้เดือนมาเยือนส่อง
คนหนึ่งหมองทุกข์หนักดุจรักเฉา
เปรียบกระต่ายหลงจันทร์รำพันเงา
ชะแง้เฝ้าชะเง้อจนบ่นน้อยใจ ๚ะ๛
4 ตุลาคม 2548 07:37 น.
อัลมิตรา
..๏ ยามใดใจอ่อนล้า.............ทุกข์ระทม
อีกพบความขื่นขม................เจ็บช้ำ
อุปสรรคมากทับถม...............โหมกระหน่ำ
ความโศกศัลย์ตอกย้ำ............จิตเจ้าบ่วาย ฯ
.๏ .คืนวันอันว้าเหว่................เพียงใด
ขอร่ายบทกวีไป.....................ปลอบเจ้า
เพลงไพเราะจับใจ.................เสมือนกล่อม เสมอนา
หมายกลบลบความเศร้า.........เพื่อให้เกษมสันต์ ฯ
..๏ ฝากดาวพราวพร่างฟ้า......ราตรี
เสมือนเอ่ยมธุรวาที...............เพราะพริ้ง
แสงกระพริบพร่างพรรณี........เสมือนบท- กวีเฮย
เพียงเพื่อเจ้าสลัดทิ้ง-............ทุกข์ให้สลายไป ฯ
..๏ ยามตรมพึงแกร่งกร้าว......โดยพลัน
พึงคิดว่าห้วงมหรรณพ์............มืดแล้
บางคราวเมฆแห่งวสันต์-.......ฤดูปก- คลุมเฮย
ชีวิตพบชนะแพ้......................ต่างล้วนอนิจจัง ฯ
..๏ สังคมต่างยื้อแย่ง..............แข่งขัน
มีรบราฆ่าฟัน........................เล่ห์ร้าย
ใครเก่งข่มเหงกัน..................ดังพยัคฆ์
เขี้ยวเล็บแหลมคมคล้าย........จับจ้องกัดกิน ฯ
..๏ เจ้าจงมุ่งมั่นทั้ง...............ทรนง
อุปสรรคปัญหาคง.................แหลกสะบั้น
จิตแข็งแกร่งดำรง.................กอปรกิจ- การนา
จักพบความสุขครั้น...............ย่างเท้าก้าวเดิน ฯ
..๏ ฝากดาวราวโอบเอื้อ.........อิงกาย
ฝากซึ่งจันทร์พรรณราย.........ส่องหล้า
ฝากลมพัดเย็นสบาย.............แผ่วผ่าน
ฝากเมฆหมอกฝนฟ้า............กล่อมเจ้าตลอดกาล ฯ
๏ ลำนำบทรจน์ร้อย...............โคลงกวี
สานผูกต่อไมตรี....................แน่นแฟ้น
เพียงเธอพบสุนทรี................เริงระรื่น
มีสุขลืมทุกข์แม้น-................มากด้วยแรงใจ ๚ะ๛
2 ตุลาคม 2548 22:33 น.
อัลมิตรา
..๏ ฝากเธอด้วยดอกไม้.......มวลพรรณ
ฝากส่งค่าความฝัน.............เลิศล้ำ
ฝากยิ้มอย่างตื้นตัน.............แก้มอาบ
รินหลั่งมาเป็นน้ำ...............จากห้วงหัวใจ ฯ
..๏ ฝากสายรุ้งพร่างพร้อย....แพรวพราว
ฝากกระพริบจากแสงดาว.....ลิบล้อม
เป็นเพลงอ่อนหวานราว.......ธารหลั่ง รินเอย
ฝากรักละไมน้อม...............มอบให้แด่เธอ ฯ
..๏ ขอเธอสืบก้าวอย่า.........หวั่นไหว
ฝันร่วมทางเราไป..............ใฝ่เฝ้า
เพื่อโลกงดงามใส..............สุขสด ชื่นเอย
มีแต่รอยยิ้มเคล้า................ส่งให้ทุกคน ฯ
..๏ จุดฝันยิ่งใหญ่ให้...........แด่เธอ
จุดรักสม่ำเสมอ.................ส่องใกล้
ดับไฟเล่ห์ลวงเสนอ............มอดสนิท
สร้างรักแต่งโลกไว้.............จากน้ำใจเรา ฯ
..๏ หากแม้นคืนค่ำนี้...........ทรมาน
ความรักที่พบพาน..............พิสูจน์กล้า
ศรัทธาร่วมอุดมการณ์.........บรรเจิด
หนาวร่วมผิงดาวฟ้า.............อุ่นเอื้อโอบขวัญ ๚ะ๛
1 ตุลาคม 2548 22:32 น.
อัลมิตรา
..๏ เดือนดาวพราวพร่างแพร้ว..นภาพรหม
ดูงดงามสวยสม.......................สว่างแท้
เรียงรายทั่วนภจม...................แจ่มจรัศ
แสงส่องเรืองรองแล้................รุ่งหล้าราตรี ฯ
..๏ กาลผันคืนผ่านพ้น.............เพียงใด
สุกสว่างพร่างพิไล-................ลักษณ์ล้ำ
ครามองชื่นพิศมัย...................มีสุข เสมอนา
เดือนเด่นดาวดื่นย้ำ.................ยิ่งให้หทัยเพลิน ฯ
..๏ วับวาวราวเนตรน้อง...........ดรุณงาม
เคยสบตาครายาม....................อยู่ใกล้
ดวงจิตสื่อนัยความ...................ปฏิพัทธ์
คราวเพ่งมองยิ่งให้...................อกนั้นสั่นคลอน ฯ
..๏ เมฆามาเคลื่อนคล้อย..........ลอยบัง
ฤๅจบซึ่งความหลัง...................ก่อนนั้น
เดือนดาวหม่นหมองดัง............รักเริ่ม- มลายฤๅ
จึงถูกเมฆปิดกั้น.....................หมดสิ้นรัศมี ฯ
..๏ เดือนดาวราวไร้ซึ่ง.............แสงงาม
ถูกบุกรุกคุกคาม....................ข่มแล้ว
เคยพราวพร่างทุกยาม..............ยังมืด- มนเฮย
คงเปรียบดังน้องแก้ว...............กลับน้ำคำฤๅ ฯ
..๏ สำนวนโคลงบ่ซึ้ง...............ตรึงใจ
ยามร่ายบทกวีใด.....................ยิ่งช้ำ
มธุรพจน์บทกวีใคร..................มากล่อม- แม่เฮย
จึ่งแอบลอบรุกล้ำ-.....................จิตเจ้าจนหลง ฯ
..๏ เพ็ญแขแลหม่นแล้ว..........ดาวหมอง
เคยเด่นพรรณยรรยอง.............มืดสิ้น
ฤๅเช่นจิตนวลละออง...............แปรเปลี่ยน แล้วนา
เพลินซึ่งมธุรพจน์ลิ้น-...............แห่งท้าวจอมกวี ฯ
..๏โคลงใครเคยกล่อมเจ้า........จึงหลง แม่เอย
บทกาพย์ใดอันผจง.................หยอกเย้า
บทฉันท์ซึ่งหวานคง-...............เสนาะโสต เสมอแฮ
อีกบทกวีใดกระเซ้า.................ล่วงล้ำใจนาง ฯ
..๏ หลงใหลโคลงอื่นแล้ว..........ฤๅหนอ แม่เอย
ลืมคำกล่อมนวลลออ-..............อดีตนั้น
มีกวีเอกมาพนอ......................จิตระรื่น แลฤา
จึ่งชื่นชมโคลงครั้น-.................อ่านแล้วจึงเพลิน ฯ
..๏ โคลงดินมีกลิ่นคลุ้ง.............สาบโคลน
โคลงเมฆสูงโลดโผน...............ลิ่วฟ้า
เผลอจิตคิดเอียงโอน-..............เอนจิต ฤๅแม่
จึงเปรียบเทียบโคลงข้า............ต่ำต้อยเพียงดิน ฯ
..๏ เชือดเฉือนเหมือนมีดน้อย.....อันบาง
หมายกรีดซึ่งผิวนาง....................บาดเนื้อ
อาจแทงทิ่มใจพลาง....................ไหวหวั่น
โคลงบาดอาจช้ำเยื้อ....................ค่ำเช้าบ่วาย ๚ะ๛