6 สิงหาคม 2547 16:17 น.
อัลมิตรา
..๏ บุหลันขวัญหล้าคราเพ็ญ
งามเด่นบริสุทธิ์ผ่องใส
สุกปลั่งรังรองยองใย
มากใครหมายแขแลมา
ต้อยต่ำกระต่ายกรายเก้อ
ละเมอหวังเพ็ญเห็นค่า
จุมพิตรัศมีลีลา
อ่อนล้าขื่นขมตรมตรอม
ใฝ่ฝันกลั้นใจหมายเอื้อม
รักเหลื่อมเกินข้าคว้าถนอม
หลงเฝ้าแสงฟ้าข้าฯยอม
ถึงพ่ายก็พร้อมพลีตน
ชะแง้แลจันทร์ในจิต
มืดมัวไร้สิทธิ์สับสน
บุหลันลอยเลื่อนเคลื่อนบน
กระต่ายว่ายวนน้ำตา ๚ะ๛
3 สิงหาคม 2547 22:55 น.
อัลมิตรา
..๏ มองเมฆฝนบนฟ้าพาหวั่นไหว
คำของใครเคยสัญญาตอนหน้าฝน
เสียงกบเขียดเสียดแทงให้สุดทน
เหมือนเรียกคนอยู่ไกลให้กลับคืน
โอ้ ! ฝนเอยฝนพรำทำช้ำนัก
คราคนรักแปรผันใจฉันขื่น
คำเคยแน่แท้ให้ไม่ยั่งยืน
เขาคงกลืนกลับไป-คนใจดำ
กลางสายฝนหล่นรายร้ายรักนี้
ขออีกที-ร้องไห้..จนใจหนำ
เป็นสุดท้ายที่จะปลดเลิกจดจำ
ทิ้งถ้อยคำของใครให้สัญญา
แล้วจะอยู่สู้ฝนคนใจร้าย
อาจแผลพ่ายฝังรากยากรักษา
ก็จะยิ้มถึงแพ้แผ่เมตตา
ลืมรักลวงไร้ค่าลากันที ๚ะ๛
1 สิงหาคม 2547 11:01 น.
อัลมิตรา
++ รมณียรส ++
..๏ พัวพันรรรรักร่วม..................ใจรอน
กรต่อกรกุมกร...........................ก่ายกลุ้ม
ภุชงค์กระหวัดชร........................กลเช่น
แลเร่าระริกรุ่ม............................ผูกร้อนโรมรึง ฯ
..๏ คลึงคลอนบรบุษย์เบื้อง..........บานบง
ผึ้งผ้ายผ่ายผายพง.......................ปีกพล่าน
ผาณิตชิดแนบองค์......................อิงเอิบ
เริงกลั้วตลอดก้าน.......................กลัดสู้เกสร ฯ
..๏ ดอนรินดินชุ่มแช่ม................ชลธาร
กล้าสักปักดิ่งดาน........................เดาะแยก
หนามไหน่ไต่ระพาน...................วัชพืช
รกโร่ละเมาะแมก- .....................ไม้ปลูกปางไหน ฯ
..๏ โซมสินธุ์เสโทท่วม................ถึงพรหม
แรงรื่นอภิรมย์............................หลั่งหล้า
เกษียรสมุทรระดม..................... ดรงค์สาด
ทบท่าวฤทัยท่า...........................เทียบน้องนานฉนำ ๚ะ๛
++ ขุนกระบี่ ++
..๏ คมดาบตราบแอบซ่อน..........ในฝัก
คงไม่อาจแจ้งประจักษ์................ฤทธิ์แล้ว
หากยามเมื่อใครชัก....................ออกจาก- ฝักแฮ
ดาบจักแทงชีพแคล้ว...................มิดด้ามดาบคม ฯ
..๏ กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง...........ปฐพี
ดาบดื่มเลือดกี่ที.........................ไป่สิ้น
ชักเข้าชักออกมี.........................โลหิต
โดนปักเสียบด่าวดิ้น....................ร่ำร้องครวญคราง ฯ
..๏ ดาบทื่อทื่อแต่เบื้อง................ปลายดาบ
หากแต่อาจกำราบ......................ทั่วหล้า
ยังสามารถฟันปราบ....................อีกฝ่าย นึงแล
ดาบทื่อท่านอย่าท้า.....................ว่าไร้สรรพคุณ ฯ
..๏ ชักทีมีเลือดคลุ้ง.....................เวหา
แทงยับใช่ชีวา.............................มอดม้วย
ดวงจิตมุ่งปรารถนา.....................รสดาบ- ทื่อแฮ
ขุนศึกต่างคึกด้วย........................ดาบนี้ตลอดกาล ๚ะ๛
++ สาง ++
..๏ ซ่อนพรางไพรพฤกษ์จ้อง.....โจนทะยาน
คว้าตะปบเหยื่อเพียงพราน.........ล่าเนื้อ
สบเขี้ยวคร่าสังขาร....................ทรายรุ่น
เอมโอชรสอาบเอื้อ....................โอษฐ์ด้วยเสน่หา ฯ
..๏ เย็นลมพาแผ่วพลิ้ว..............ยะเยือกกาย
พรมพร่ำหยาดพิรุณคลาย..........พิโรธฟ้า
หนาวใดกว่าหนาวดาย...............เดียวดั่ง นี้นอ
พายุอารมณ์ว้า..........................อกว้างหวั่นไหว ฯ
..๏ ดอมกลิ่นกายกรุ่นเจ้า..........จอมขวัญ
แก้มแนบแก้มนวลพรรณ..........พิลาสไล้
เคล้าเคลียร่างราวสวรรค์...........เสวยสุข
นาสิกกำซาบไซ้........................สนิทแก้มเนียนนาง ฯ
..๏ ครวญครางรินหลั่งน้ำ..........ตาทราย
งามเนตรดุจดาวราย.................เบิกค้าง
หนั่นเนื้อระริกกาย....................ระรัวสั่น
โลมลูบเลียร่างล้าง....................เลือดด้วยชิวหา ฯ
..๏ เอมโอชารสเนื้อ..................ทรายนวล
โลหิตโซมร่างยวน.....................ยั่วข้าฯ
หัวใจแผ่วยามจวน.....................จบชีพ
ควักออกกลืนช้าช้า.....................ชื่นแท้เพียงสวรรค์ ๚ะ๛
อาศรมชาวโคลง..