18 พฤศจิกายน 2546 22:51 น.
อัลมิตรา
๏ เพียงกริชมีดเล่มน้อย.............เจียมตน
หาเทียบทวนดาบสกล...............หอกง้าว
โคลงบทหนึ่งดังดล...................ใจนอบ- น้อมนา
หวังเหล่าปราชญ์แดนด้าว..........บ่งชี้หลักการ ๚
๏ นิยามความลึกล้ำ..................วิทยา- ยุทธเฮย
กระบี่เดียวอาจพา....................ชีพม้วย
ดุจโคลงเฟื่องภาษา...................สรรพศาสตร์
บทหนึ่งอาจแฝงด้วย.................สิ่งเร้นเห็นความ ๚
๏ โยน...ดาบมากราบผู้..............เล่าฮิว
...หิน...แกร่งใช่เพียงผิว.............นอกนั้น
...ถาม...ไถ่ท่านโฉบฉิว..............ไยหลบ เลี่ยงนอ
..ทาง...มากเพียงอยากรั้น............เร่งเท้าตามเธียร ๚ะ๛
16 พฤศจิกายน 2546 23:29 น.
อัลมิตรา
ใจเหว่ว้าผวาหวั่นฝันเพียงสุข
วันคืนทุกข์ฝืนทนจนเสียขวัญ
ขวัญเสียจนทนฝืนทุกคืนวัน
สุขเพียงฝันหวั่นผวาว้าเหว่ใจ
คืนวันล่วงห่วงไยในทรวงร้อน
ใครเคียงตอนอ้อนคำยามชิดใกล้
ใกล้ชิดยามคำอ้อนตอนเคียงใคร
ร้อนทรวงในไยห่วงล่วงวันคืน
โลมแลไล้ใจชื่นตื่นสวาท
ยืนยันหยาดนาฏนุชฉุดแรงฝืน
ฝืนแรงฉุดนุชนาฏหยาดยันยืน
สวาทตื่นชื่นใจไล้แลโลม
คำร้อยครวญนวลโน้มโค้มคืนฝาก
โรมรันอยากยากฝืนชื่นชมโฉม
โฉมชมชื่นฝืนยากอยากรันโรม
ฝากคืนโค้มโน้มนวลครวญร้อยคำ
14 พฤศจิกายน 2546 21:47 น.
อัลมิตรา
...ย่ำค่ำยามคืน.............มาลาพาชื่น.............ดาษดื่นดอกงาม
เบ่งบานพลันพลิ้ว........ท่วงทิวท่าตาม.........กิ่งรวนก้านลาม
เมื่อยามลมโชย
...เย็นใจใคร่มอง..........บุบผาผุดผ่อง........ก่อนต้องร่วงโรย
งดงามยามคืน..............หลงยืนบันโดย*.......หากไร้ใจโหย
บำโบย*เด็ดดม
...ลมล่องต้องใบ.........ระบัดกวัดไกว...........กิ่งไม้เริงลม
หอมกรุ่นเย้ายวน..........รัญจวนจิตชม..........ให้ชื่นรื่นรมย์
สุขสมตรมคลาย
...ชื่อว่า ราตรี ........ดอกมากหลากมี.........ควรที่เมียงหมาย
สีขาวราวสังข์..............สะพรั่งเรียงราย.........ดุจดาวพราวพราย
เบื้องปลายแปลกตา
...ไม้กลุ่มพุ่มใหญ่.........อวดก้านกิ่งใบ...........ครวญใคร่ทัศนา
ยามเมื่อดอกบาน..........ตระการแน่นหนา.........อวดแสงจันทรา
งามกว่ากาพย์เปรย
...ขาวนวลชวนหลง........จับจิตจำนง.............ประสงค์ชมเชย
ฤๅเทพเสกสร้าง.............สวยสล้างจริงเอย......ใบงอกดอกเงย
เกินเอ่ยเผยความ
... ราตรี หอมกรุ่น.....คงสิ้นกลิ่นคุ้น..........คราวอรุณรุ่งยาม
เมื่ออรุโณทัย................สดใสวาววาม...........สิ้นหอมสร่างงาม
นิยามธรรมดา
...หากเปรียบเทียบน้อง.....พิสุทธิ์ผุดผ่อง........ควรต้องคะนึงหา
ใช่งามข้ามคืน................สดชื่นทุกครา.............คราวเคียงกายา
ขออย่าเคลือบแคลง
...ขอปองครองชิด........ชมชอบมอบจิต.........บ่คิดหน่ายแหนง
ทิวาราตรี....................บ่มีเปลี่ยนแปลง..........กวีชี้แจง
กาพย์แสดงแจ้งใจ
...ฤดีสิเหน่หา..............มิ่งขวัญกัลยา..............ไม่ว่ากาลใด
ยังสนิทชิดเชื้อ............จุนเจือตลอดไป............ไมตรีมีให้
อย่าได้จืดจาง ฯ
14 พฤศจิกายน 2546 11:54 น.
อัลมิตรา
ชาย..
...โอ้คนดีพี่มารักษาจิต
ช่วยชีวิตด้วยรักอย่าผลักไส
พี่เปลี่ยวเปล่าเศร้าโศกเพราะโรคใจ
ที่เป็นไข้จนแย่นะแม่คุณ
โปรดแบ่งรักสักนิดเจ้าคิดเถิด
จะประเสริฐสูงสุดช่วยอุดหนุน
สงสารพี่ที่มาอย่าทารุณ
จะเห็นบุญทันตาค่าปรานี
ขอมอบใจไว้เคียงอยู่เพียงเจ้า
และขอเอารักให้ไม่หลีกหนี
แทนหยูกยาค่ารักอย่างภักดี
จากใจพี่คนเศร้าเขาลวงมา...
หญิง..
...ฟังน้ำคำย้ำหนอพ่อคนเศร้า
ว่าปวดร้าวเรื่องใดให้กังขา
ตัองการรักรักษ์ไว้แทนหยูกยา
เจ็บไข้มาจักคลายหายโดยพลัน
โดนใครลวงล้วงจิตพิษรักถม
ต้องตรอมตรมหมองหม่นจนโศกศัลย์
เคยเริงรื่นชมื่นสุขทุกคืนวัน
ทำมาคั้นเสียงอ้อนแสนอ่อนใจ
โอ้ละหนอ..ขอใจหมายเคียงข้าง
กลัวทิ้งคว้างลาลบเมื่อจบไข้
ปล่อยคนนี้ที่จักรักษาใจ
ต้องหมองไหม้ผู้เดียวเปลี่ยวอาดูร...
11 พฤศจิกายน 2546 14:18 น.
อัลมิตรา
ทุกนาทีมีสิทธิ์แค่คิดถึง
แม้รู้ซึ้งเธอนี้มีเจ้าของ
ได้แต่แอบซ่อนหน้าน้ำตานอง
เห็นเขาครองคู่เคียงจึงเลี่ยงไป
เห็นเธอมีความสุขฉันสุขยิ่ง
แม้ความจริงคนอื่นชื่นชิดใกล้
หากวันหนึ่งเธอเศร้าปวดร้าวใจ
โปรดรู้ไว้ฉันเจ็บเกินเก็บทน
ความลับอยู่ภายในหัวใจนี้
ความรักที่หนาวเหน็บเจ็บเหลือล้น
ความรู้สึกที่ยากมอบตอบบางคน
ช่างวกวนยากเอ่ยเผยตามจินต์
ไม่กลัวความเป็นไปในภายหน้า
สมมุติว่าเขาหักสูญรักสิ้น
ยังรอคอยด้วยใจหมายยุพิน
โปรดยลยินคำมั่น ..ฉันรักเธอ
...มีความลับที่อยู่ในใจ
...มีความลับที่อยู่ข้างใน
...เป็นความลับที่ยังเปิดเผยไม่ได้
...มีความลับที่อยู่ในใจ
...เป็นความลับที่อยู่ข้างใน
...แต่ไม่รู้จะบอกเธอ ได้อย่างไร