9 มกราคม 2546 17:55 น.
อัลมิตรา
(๑)
ริมแม่น้ำยามรุ่งอรุณเรื่อ
นั่งมองเรือลอยผ่านพลันสุขสันต์
ยื้อโยงลำนำลอยคล้อยเคียงกัน
เรือยาวนั้นพลันแล่นเสียงแปร๋นมา
(๒)
สายน้ำเย็นเป็นสายกระจายฟ่อง
กระเซ็นต้องรัศมีสุรีย์กล้า
บังเกิดแสงแห่งรุ้งตระการตา
รื่นอุราคราได้ชม้ายมอง
(๓)
พันธุ์พฤกษ์น้ำงามลอยทยอยเคลื่อน
คล้อยเยี่ยมเยือนแรมลาธาราล่อง
ใบมันวาวสกาวใสคล้ายใบตอง
ก้านเป็นฟองอากาศปราศราคี
(๔)
สีเขียวงามล้ำเลอเผลอเชยชม
ไม่มีจมลมล่องคล้ายจ้องหนี
รากเป็นกลุ่มชุ่มน้ำนำจรรี
ดุจชีวีที่ต้องประคองไป
(๕)
ครั้นดอกบานสคราญแท้เชียวแม่เอ๋ย
กลีบดอกเผยเกยก้านพรรณสวยใส
เป็นสีม่วงพวงแย้มแซมซ้อนใบ
เป็นกลุ่มใหญ่ชม้ายเห็นเป็นหกพวง
(๖)
ยามชูช่อล้อแสงสุรีย์ฉาย
ภมรหมายกล้ำกลายคล้ายแหนหวง
เฝ้าสมสู่ชูชื่นระรื่นควง
อิงแอบช่วงชิงชมโฉมเคล้าคลอ
(๗)
ครั้นเมื่อแห้งแปลงได้เครื่องใช้สอย
ตะกร้าน้อยกระเป๋านวลชวนสานก่อ
เป็นกระดาษอาจทำนำถักทอ
อาจเพียงพอแก่ใครในหัตถกรรม
(๘)
ใช่ไร้ค่าราคาแม้นว่าด้อย
ไม่ต่ำต้อยพันธุ์น้ำอย่าทำขำ
หากพินิจคิดตรองหมั่นลองทำ
อาจหนุนนำทำประโยชน์โปรดใคร่ครวญ ฯ
8 มกราคม 2546 22:58 น.
อัลมิตรา
(๑)
ครั้นหอมหวนชวนดอมใจย่อมชื่น
ดอกดาษดื่นยืนมองให้ผ่องใส
ชมดอกงามอร่ามล้ำเหลืองวิไล
ภมรใคร่หมายห้อมล้อมเคล้าคลึง
(๒)
พุดน้ำบุษย์กลีบบานสคราญแท้
ชายตาแลแท้งามใจหวามอึ้ง
กลีบดอกเด่นเห็นผ่องดั่งทองกลึง
ให้ตราตรึงประหนึ่งต้องมนต์ของใคร
(๓)
เขียวชอุ่มพุ่มไสวชม้ายต้น
ใบหลากล้นปนแซมเล็กแกมใหญ่
เป็นมันเลื่อมเอื้อมจับวาววับใบ
ปราศสิ่งใดแผ้วพานกิ่งก้านงาม
(๔)
ไม่สูงนักหากดูทนุถนอม
เป็นพุ่มย่อมน้อมต้นใบล้นหลาม
สองสามเมตรเด็ดดอกซอกแซมตาม
ครั้นผ่านยามล้ำเลอเพ้อชมเชย
(๕)
กลีบดอกแยกเจ็ดแฉกแปลกยิ่งนัก
เหลืองประจักษ์หากครวญถ้วนเฉลย
กลิ่นรัญจวนหอมหวนยากเฉยเมย
คละคลุ้งเคยละมุนหอมดอมระรวย
(๖)
มิแปลกใจได้เห็นเช่นฉะนี้
สุนทรีย์ปรีดิ์เปรมเกษมด้วย
ลืมความหมองหม่นคลายได้อำนวย
ดุจดั่งช่วยบรรเทาให้เศร้าจาง
(๗)
หากดอกนั้นเลยวันกาลผ่านพ้น
จักล่วงหล่นจากต้นบนพื้นล่าง
ดอกเหลืองสดกลับซีดวิปริตพลาง
ดั่งธรรมอ้างอย่างให้ได้พิจารณา
(๘)
ยังคำนึงตรึงใจใคร่ชมช้อง
มาดหมายมองผ่องโศภิณถวิลหา
แม้นได้เห็นดั่งเช่นเป็นบุญตา
เพราะปรารถนา * พุดน้ำบุษย์ * พิสุทธิ์งาม ฯ
8 มกราคม 2546 13:37 น.
อัลมิตรา
...รื่นรมย์ชมสวนสำราญ...........สุดร่ายกาพย์กานท์
เกริ่นกล่าวเหล่าพรรณมาลา
...จำปีพิกุลจำปา......................หิรัญญิการ์
ทิวาสารภีราตรี ฯ
...ช้องนางแย้มบานบุรี.............โมกช้องนางคลี่
แก้วยี่สุ่นจำปาขอม
...ลำดวนลำพูพยอม..............พุดแก้วเจ้าจอม
จันทร์หอมอัญชันสะบันงา ฯ
...ชมนาดคัดเคล้าชบา............พุดพิชญา
บุหงาราชาวดี
...สร้อยฟ้าสร้อยสุมาลี.............บัวจงกลนี
พุดสามสีกระดุมทอง ฯ
...กระดังงาและผกากรอง.........พวงแก้วพวงทอง
ขันทองบุนนาคประยงค์
...กุหลาบเฟื่องฟ้ากาหลง.........รสสุคนธ์ชง-
โค โมดดงกรรณิการ์ ฯ
...นมแมวแววมยุรา..................อโศกระย้า
มะลิลาสไบนาง
..ชวนชมลั่นทมชมพลาง..........เช่นพจน์พยางค์
เอื้อนอ้างดั่งหมายให้เพลิน ฯ
*******
จำปี พิกุล จำปา หิรัญญิการ์ ทิวา สารภี ราตรี
ช้องนาง บานบุรี โมก ช้องนางคลี่ แก้ว ยี่สุ่น จำปาขอม
ลำดวน ลำพู พยอม พุด แก้วจำจอม จันทร์หอม อัญชัญ สะบันงา
ชมนาด คัดเคล้า ชบา พุดพิชญา บุหงา ราชาวดี
สร้อยฟ้า สร้อยสุมาลี บัวจงกลนี พุดสามสี กระดุมทอง
กระดังงา ผกากรอง พวงแก้ว พวงทอง ขันทอง บุนนาค ประยงค์
กุหลาบ เฟื่องฟ้า กาหลง รสสุคนธ์ ชงโค โมดดง กรรณิการ์
นมแมว แววมยุรา อโศกระย้า มะลิลา สไบนาง
ชวนชม ลั่นทม
8 มกราคม 2546 09:29 น.
อัลมิตรา
.....ราชาวดีม่วง.......................มะลิพวงประดิษฐ์ช้อง-
นางแก้วผกากรอง...................มะลิทองอุไรรา-
ตรีโมกและจำปี........................มะลุลีกระดังงา
บุนนาคพิกุลพลา......................กระแจะป่ากระดุมทอง ฯ
....ราชาวดีม่วง...มะลิพวง...( พวง )ประดิษฐ์...ช้องนาง..
....แก้ว...ผกากรอง...มะลิ...ทองอุไร...ราตรี....โมก...
....จำปี...มะลุลี...กระดังงา...บุนนาค...พิกุลพลา...
....กระแจะป่า...กระดุมทอง...
6 มกราคม 2546 21:15 น.
อัลมิตรา
...ลอง...หลงใหลรักแล้ว................เริงรมย์
เลิก...หลอกหลอนลงหล่ม..............ลึกล้ำ
เลือก...รื่นรักลิงลม.......................หลับร่วม- เรือนฤา
เริ่ม...เลิศเลอล่วงล้ำ....................รุ่งหล้าลอยหลาย ฯ
...ลอง...รักเรียมแล้วรื่นรมย์.............เริงร่าลื่นล้ม
ล่วงหล่มรัดเร้าลังเล
...เลิก...เหล้าเหลวไหลเหลียวเหล่.....ลบเหลี่ยมร้อยเล่ห์
โลเลหลอกล่อเลหลัง
...เลือก...หลอมรวมรักเรือนรัง...........ระรื่นรัดรั้ง
เรื่องหลังลืมเลือนไร้แล
...เริ่ม...ร้องลีลาแร๊พแหล่...................ร๊อคเร้าเลิศแล้
ร่อแร่ลีลา...ล้ำเลอ ฯ