27 สิงหาคม 2545 11:38 น.
อัลมิตรา
...พี่เอยฯ..น้องเผยสิ้น.................ความนัย
สุดหักห้ามหทัย............................ใฝ่อ้าง
เกรงมากฤทธิ์เกรียงไกร..............ห้ำหั่น ใจนา
เพิ่มพจน์สบถคว้าง.......................ดุจสร้างให้จมฯ
...ต่างเปรยต่างเยี่ยมไซร้..............ฤทธี
เอื้อนเอ่ยเผยวจี...........................เหยียบย้ำ
กังวาลสาดถ้อยมี...........................เคืองขุ่น กันฤา
ต่างมิตรต่างจิตรซ้ำ.......................เหตุอ้างอันใด ฯ
...จารจำจุมพิตซึ้ง.........................วิญญาณ
ด้นพจน์สะกดขาน........................หวาดไห้
เติมแต่งต่อความพาล...................เกรี้ยวกราด ใดนอ
ลำบากพธูไซร้.............................อาจได้จากลา ฯ
...เพื่อนเอยฯ ลำบากแล้ว................แนวกวี
หลบซึ่งผ่านวิถี................................หมกถ้อย
จำใจพรากคงดี...............................กว่าอยู่ แล้วนา
ลาร่ำใจบ่ายคล้อย............................หลีกลี้ห่างไกล ฯ
27 สิงหาคม 2545 08:37 น.
อัลมิตรา
...๑...
.....เด็ดดอมหอมกลิ่นแก้ว................กลีบขาว- งามเฮย
ชมดอกออกเรียงราว........................แข่งแย้ม
ไฉไลใคร่หมายสาว..........................เยาวเรศ แม่เอย
เปรียบดั่งศศางค์แฉล้ม....................หยอกให้ใจหลง ฯ
...๒...
.....ไหวโยกลมโบกบ้าย.....................กลีบบาน
เกรงหล่นเกลือกกลางลาน................ย่านพื้น
หากเชยกลิ่นเผยวาร........................กาลเนิ่น นานนา
ยังติดตรึงจิตฟื้น..............................ชื่นช้องผองสุคนธ์ ฯ
...๓...
.....ขาวนวลชวนกรีดนิ้ว...................หวิวหวาม
กลีบเบ่งยังเกรงขาม.........................คร่ำกร้าน
ประคองผ่องคืนยาม.........................ค่ำล่วง เลยนา
สูดกลิ่นระรินสอ้าน...........................ปราศกลั้วมัวมล ฯ
...๔...
.....หอมใดใครอื่นได้........................หมายหอม
หาเปรียบเทียบอาจถนอม.................นาฏน้อง
แก้วอาจมาตรเด็ดดอม.....................หอมครู่ เดียวนา
หากพลัดนุชนาฏต้อง........................ชอกช้ำอวสาน ฯ
26 สิงหาคม 2545 22:52 น.
อัลมิตรา
...ขอเพียงเอ่ยเผยพจน์สบถถ้อย..............จะเรียงร้อยค่อยกล่อมถนอมไข
ฉันทลักษณ์ทักท่วงดวงหทัย......................พริ้มพิไลวายแววแนวคำกลอน
ผสมคำตามว่าภาษาศาสตร์.........................พจน์พิลาสมาตรหวังดังอักษร
คลายระทมชมเจ้าคราวหลับนอน................ฟังพี่ก่อนย้อนคำมาพร่ำวอน ฯ
...ให้รู้สึกถึงสัมผัสที่รับได้........................ด้วยดวงใจมิต้องให้ใครสั่งสอน
รสบทร้อยถ้อยความลำนำกลอน.................ล้วนสั่นคลอนหัวใจให้นำพา
ว่าใจเอ๋ยก่อนเราเคยหรือไฉน.....................เหตุเป็นไปให้ใจได้ห่วงหา
หรือว่าภพหรือว่าชาติที่ผ่านมา....................ได้พบพักตร์สบตาให้แคลงใจ.......
26 สิงหาคม 2545 11:31 น.
อัลมิตรา
ลิง 1
ดาวแวบวับ ประดับ สกาวฟ้า
ล้อมจันทรา สง่าส่อง ผ่องราศี
ยามเพ่งพิศ นฤมิตร ในฤดี
ถึงตัวพี่ ยามนี้ คงอยู่ไกล
ลิง 2
ยามเดือนแรม มืดมิด ให้อับแสง
หมดเรี่ยวแรง ส่องแสง ถึงใจเขา
ทั่วฟ้ากว้าง มืดมน เหมือนใจเรา
ให้ใจเหงา หดหู่ ไร้ใครแล
ลิง 3
มีดวงดาว พราวกระจ่าง อยู่เคียงข้าง
ให้หนทาง ที่มืดมิด กลับสดใส
เราเป็นเดือน เธอเป็นดาว อยู่ข้างใจ
ช่างประไร ความมืดมิด เราไม่แคร์
ลิง 1
ส่องแสงสาด สอดส่อง ถึงใจเจ้า
ให้ความเหงา สดชื่น รื่นถวิลย์
ถึงแสงส่อง เพียงน้อยนิด แต่ใจจริง
เพียงประวิง ให้เจ้า คลายกังวล
ลิง 2
แสงเดือนฉาย พร่างพราย ทอแสงฟ้า
ระยิบตา ดารา กลางเวหน
ดลจิตให้ คำนึง ถึงบางคน
ทีเคยด้น พจน์มา คราเดือนเพ็ญ
ลิง 3
ดวงเดือน ดวงดาว พร่างฟ้า
ดวงตา ดวงจิต คิดเหมือน
ดวงใจ ดวงจันทร์ ลอยเลือน
ดวงเดือน ดวงใจ ให้เธอ
ลิง 1
เป็นเพียง ดวงดาว ที่อับแสง
มิคลายแคลง จากจิต ให้คิดถึง
เป็นเพียง ดารา ที่คำนึง
เป็นเพียงซึ่ง ลอยเลื่อน เกลื่อนนภา
***
26 สิงหาคม 2545 11:15 น.
อัลมิตรา
...สุดอาจโอษฐ์กฏเกณฑ์เช่นเคยครั้ง
ห้วงภวังค์ยังวนดลจิตข้อง
ให้แนบชิดติดบ่วงห่วงใจครอง
เพียงสนองต้องภักดิ์ปักษ์นงเยาว์ ฯ
...ฤากาลเก่าเราคงประสงค์หนึ่ง
ฤาเป็นซึงซอสายให้คลายเหงา
บรรจงสีปรีเปรมเกษมเนาว์-
เนื่องดังเจ้าคราวใกล้ใช่ใครเลย ฯ
...หากมีหนึ่งซึ่งอาจประมาทพลั้ง
ฤากำบังยังมาตรปรารถน์เฉลย
เพียงนงค์น้องต้องคำยามเปรียบเปรย
หาได้เมยหมางเมียงเยี่ยงชายตา ฯ
...หากกาลก่อนย้อนยุคมิทุกข์เท่า
จักบรรเทาเยาวมาลย์พลันเริงร่า
แม้นหยอกเย้าราวรื่นชื่นจิตรา
คาดหวังว่าพาห์สุขสนุกใจ ฯ