30 สิงหาคม 2545 09:22 น.
อัลมิตรา
.....กรกอปรหอบเกล็ดแพร้ว......................แวววาย ทรายเฮย
ริเริ่มเติมเรียงราย....................................ใฝ่ตั้ง
ปราสาทมาตรสาดสาย.............................แสงส่อง พิไลแล
ดังใคร่ครวญหวลครั้ง...............................ดั่งเฝ้าสาวดรุณ ฯ
.....กำแพงแข็งแกร่งกร้าว.........................ราวหิน
แซมซ่อมถนอมถวิล................................ปกป้อง
เสนาทหารดิน........................................เดินดุ่ม
แนวค่ายหมายตรวจห้อง...........................ถ่องคล้ายหมายจริง ฯ
.....เสกสรรค์ตระหง่านตั้ง..........................ดังจิน- ตนาเฮย
ปราสาททรายนครินทร์.............................ถิ่นน้ำ
ทะเลเห่กาพย์ยิน-....................................ยลสินธุ์ สมุทรนา
ดังดุริยางค์ย้ำ.........................................พร่ำเพี้ยงเสียงสวรรค์ ฯ
.....ปีติสิเคลิบเคลิ้ม.................................เติมทรวง
กาลผ่านอัศจรรย์ดวง-..............................จิตแท้
ชลธารมั่นทะลวง.....................................ปวงค่าย นครเฮย
หายวับลับใจแพ้-.....................................พ่ายเพี้ยงเยี่ยงทราย ฯ
30 สิงหาคม 2545 08:15 น.
อัลมิตรา
...ตะวันลับมิได้...................ลาโลก
เหมือนจิตดับโศก................หม่นไหม้
สุรีย์ลับยังโยก....................ย้ายกลับ คืนนา
เพียงแต่จิตครวญไห้...........มิได้กลับคืน ฯ
30 สิงหาคม 2545 08:13 น.
อัลมิตรา
...เหมือนน้ำเปี่ยมขอบขันใบน้อย
...เพียงใบไผ่ลอยแผ่วลงสัมผัส ก็ล้นไหล
...ปัจจุบันแปลกใจ
เพียงอดีตอันแสนจะพร่าเลือนวูบไหว
น้ำตาก็หยาดลงหยดได้ ทุกความทรงจำ
...หลั่งน้ำตา อา...สัจธรรมธรรมดา
เคยเผชิญหน้า? ใช่!
เอิบอิ่มยิ้มเย็นเป็นเยื้อใย พลิ้วไหวรอยยิ้ม, ที่ริมทางจากน้ำตาคล้ำดำ
จำได้ ...ผ่านมาผ่านไปคือใครบ้าง ซื่อใสสร้อยเศร้าเบาบาง
เคลื่อนไหวในร่างเราบ้างแล้ว
...สังวร
ถอยออกมาจากผู้คน ทอดหัวใจหมองหม่นในความมืด
คืนไร้จันทร์ มิได้หวังจะมีเพื่อน
แค่กระหายถ้อยกวีสักบท แทนทดความร้าวรานในใจ
แค่เพียงสายลมลูบไล้ เป่ารดน้ำตาเนินแก้มให้แห้งจาง
...กิ่งไม้ไร้ใบ เหยียดยาวราวเอื้อมฟ้า
ทุกขนานในเรา ล้วนหมายปองสิ่งซึ่งไม่ควร
29 สิงหาคม 2545 13:47 น.
อัลมิตรา
(.... ก็ไม่รู้ว่าอะไร ทำให้เราได้พบกัน ทั้งที่มันไม่น่าจะเป็นไปได้
...เธอก็มีโลกของเธอ ซึ่งต่างกับฉันมากมาย เหมือนไม่มีอะไรเลยที่คล้ายกัน
...อยากถามว่าชอบเธอไหม สบตาแล้วถูกใจไหม ...ก็บอกว่าใช่เป็นอย่างนั้น
...มันคือลิขิตจากฟ้า หรือว่าปาฏิริย์ อะไรอย่างไร ก็คงไม่สำคัญ
...เท่ากับวันนี้.ฉันมีเธอ ....
...เธอไม่ใช่คนที่ฉันคิด เธอไม่ใช่คนที่ฉันหวัง แต่เธอเป็นมากกว่านั้น ..เธอเป็นคนที่ฉันรัก..... )
ผ่านแว่วเสียง บทเพลง เคยขับกล่อม
เหมือนดั่งอ้อม ให้ใจ ได้หวลหา
เธอเป็นใครมาจากไหน ?... เคยสงกา
เหตุใดมาเคียงใจ ?... ใคร่รู้จัง
ไม่เคยพบ สบแต่คำ ลำนำกล่าว
ทุกค่ำเช้า กล่าวรัก ให้สมหวัง
หวั่นไหวหนอ หวั่นไหวจริง หวั่นไหวจัง
มานั่งฟัง คำรักขาน ผ่านกานท์กลอน
ชนหลายหลาก มากหน้า เข้ามาอ่าน
ยิ้มสะคราญ หวานใจ ได้ออดอ้อน
บางครั้งอาย เกินกว่า ตอบเป็นกลอน
บางบทย้อน ยิ้มไป ได้คิดพลัน
หากว่าเธอ รับรู้ ฉันขวยเขิน
อย่าเพิ่งเมิน โปรดสดับ ตามคำฉันท์
ลมหายใจ แห่งความรัก กันและกัน
ดั่งสวรรค์ สรรหา ภาษาใจ ....
29 สิงหาคม 2545 11:05 น.
อัลมิตรา
อยากจะบอกใครสักคน... (ไมโคร)
...หนใดที่สุดท้อ.........................เหงาใจ
ทุกข์มากตรมหทัย......................หม่นเศร้า
หวังเพียงหนึ่งคนไกล.................คอยห่วง
อาจล่วงบรรเทาได้.....................จากร้ายกลายคืน ฯ
...เพียงหนึ่งปลอบพี่ให้...............คลายนวล
ยิ้มรื่นชื่นเสสรวล.......................สื่อได้
บอกกล่าวเล่าความหวน...............เกือบหลั่ง นัยนา
เปรยเปรียบดั่งใจอ้าง.................ห่างร้างใจเคียง ฯ