4 ธันวาคม 2546 08:45 น.
อัลมิตรา
๏ อภิลักขิตกาลเวียนบรรจบ
ดิถีครบ ๕ ธันวา มหาสมัย
เหล่าไพร่ฟ้าทวยราษฎร์ชนชาติไทย
ต่างรวมใจนอบน้อมจอมจักริน
พระมหากรุณาธิคุณ
แผ่ไออุ่นเอื้อสยามทุกคามถิ่น
พระบาทย่างเยือนแดนทั่วแผ่นดิน
องค์ภูมินทร์ประทานสุขเปลื้องทุกข์พลัน
ธ ทรงงานอันหนักมากนักหนา
เมื่อนำมาเรียงร้อยถ้อยรังสรรค์
ทุกสิ่งล้วนเกื้อหนุนคุณอนันต์
เกินประพันธ์บทกวีที่บรรยาย
ทุกโครงการฯ ทรงดำริล้วนพิศิษฎ์
ผลสัมฤทธิ์แก้จนคนทั้งหลาย
ชาวประชาสงบสุขทุกข์คลี่คลาย
ร่มเย็นภายใต้หล้าพระบารมี
ทรงมอบสวนไร่นาถิ่นอาศัย
คนจนได้ประกอบการพลันสุขี
ด้วยอาชีพเกษตรกรรมตามวิธี
เปลื้องปลดหนี้เปี่ยมสุขทุกผู้คน
ปลูกพืชผักพฤกษาธัญญาหาร
ไว้เจือจานตามถนัดไม่ขัดสน
พลิกแผ่นดินถิ่นไทยไล่ความจน
ดำรงตนตามธรรมนำสุขใจ
ยามแดนดินถิ่นใดมีภัยแล้ง
พระคุณแห่งกรุณาแผ่มาให้
ธ ประทานฝนหลวงด้วยห่วงใย
ผืนนาไร่ไม้สวนล้วนสมบูรณ์
ทรงสร้างเขื่อนทำนบฝายคล้ายเล็งเห็น
ความจำเป็นมากมายไม่เสื่อมสูญ
เก็บกักน้ำเอาไว้ให้บริบูรณ์
เพื่อเกื้อกูลเกษตรกรรมได้ทำกิน
คราวบ้านเมืองผจญความระส่ำระสาย
จนวุ่นวายอุปสรรคมากหนี้สิน
ยาเสพติดระบาดไปในแผ่นดิน
ทั้งยังสิ้นคุณธรรมนำการเมือง
พระทรงเป็นแรงใจไทยทั้งชาติ
จนสามารถพ้นภัยในทุกเรื่อง
พลิกวิกฤติเป็นโอกาสชาติรุ่งเรือง
สมเป็นเมืองขวานทองผ่องอำไพ
ขออำนาจแห่งพระชินสีห์
พระธรรมที่ผ่องผุดพิสุทธิ์ใส
คุณพระสงฆ์ทรงศีลสิ้นอาลัย
ทวยเทพไทมเหศักดิ์ทั่วนัครา
พระเสื้อเมืองพระทรงเมืองผู้เรืองฤทธิ์
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสกลโพ้นโลกหล้า
พระสยามฯ มิ่งเมืองเรืองเดชา
ขอจงมาอำนวยแลอวยพร
ขอให้พระสยามินทร์นรินทร์นั้น
เกษมสันต์ดั่งข้า ฯ อุทาหรณ์
พระชนมายุผ่านพุทธันดร
จตุรพรพร้อมสรรพตราบนิรันดร์
ขอเทิดทูนบูชามหาราช
แทบเบื้องบาทจนกว่าจะอาสัญ
ทวยราษฎร์น้อมสดุดีด้วยชีวัน
จอมราชันขอจง ทรงพระเจริญ ๚ะ๛
ถวายพระพร เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุยเดชมหาราช
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
สมาชิกบ้านกลอนไทย thaipoem.com
3 ธันวาคม 2546 10:58 น.
อัลมิตรา
คล้ายวันพ่อเวียนวนอีกหนหนึ่ง
แต่ฉันซึ่งกำพร้านั่งหน้าหมอง
แลคนอื่นชื่นสุขทุกครั้งมอง
น้ำตานองเมื่อเปรียบเทียบกับตน
พ่อฉันจากไปไกลช่างไกลแสน
ยังดินแดนเกินตามข้ามทุกหน
อาจจะอยู่ ณ สวรรค์ชั้นเบื้องบน
ก็อับจนเกินกล่าวเรื่องราวใด
ลูกกำพร้าครานี้ฤทัยเศร้า
ด้วยปวดร้าวบาดเจ็บเกินเก็บไหว
อีกสองวัน วันพ่อ ท้อเหลือใจ
ฉันจะทำอย่างไรให้พ่อคืน
เขียนกลอนอื่นแสนง่ายไม่ลำบาก
แต่ครั้งนี้สุดยากจักต้องฝืน
จำเก็บกลั้นอารมณ์ข่มเต็มกลืน
สองแก้มชื้นอาลัยในบิดา
2 ธันวาคม 2546 23:27 น.
อัลมิตรา
เพียงหลับตานึกย้อนยังตอนหลัง
ผ่านปียังจดจำย้ำเสมือน
ครั้งเคยนั่งเคียงคู่ดูดาวเดือน
ยังย้ำเตือนให้สุขทุกครั้งครา
มวลหมู่ดาวสกาวไกลหมายเอื้อมจับ
มาประดับแต่งเติมเสริมคุณค่า
เป็นมงกุฏสวมใส่ในพริบตา
สร้อยดาราเรียงร้อยพลอยงดงาม
ระยิบระยับวับวาวพราวพรายแท้
ชายตาแลฝันใฝ่ชวนใจหวาม
แม้นผ่านวันผันคืนชื่นนิยาม
รำลึกตามยังเพลินจำเริญใจ
มวลดาวเดือนสวยใสประกายจ้า
ท่ามนภาผุดผ่องดุจส่องใกล้
แว่วสำเนียงเสียงกลอนอ้อนความนัย
ตรึงฤทัยซาบซึ้งคนึงนวล
ณ คืนที่ดื่นดาวสกาวพรั่ง
ย้อนความหลังฝังใจให้กำสรวล
ภาพตรึงจิตติดตาพารัญจวน
ยังคร่ำครวญถึงดาวคราวจากลา
อยากเก็บดาวดวงนี้เป็นที่สุด
ทำมงกุฏมอบไว้ให้รักษา
เพื่อย้ำเตือนเดือนปีที่ผ่านมา
ล้วนมีค่าเกินจดความงดงาม
30 พฤศจิกายน 2546 23:48 น.
อัลมิตรา
๏ โขนครอบทรงเครื่องพร้อม.....นาฏศิลป์
รามลักษณ์ยักษ์ลิงอินทร์............โอ่อ้าง
สำแดงอวดศักดิ์สถิร..................ยุทธศาสตร์
เชิดบทลอยบาทบ้าง..................ฆ่าล้างโรมรัน ๚
๏ หลงยศเหลิงเกียรติ์ก้อง.........โลกีย์
ยามเหล่าโขนดนตรี....................แต่งให้
หวังจักเพิ่มราศี..........................สูงส่ง
จึงเหนี่ยวจิตบอดใบ้...................บ่งข้ามลืมตัว ๚ะ๛
28 พฤศจิกายน 2546 15:36 น.
อัลมิตรา
ประดุจม่านพรางไว้มิให้เห็น
ฤๅซ่อนเร้นตัวตนเกินค้นหา
หนาวกว่าหนาวปวดร้าวในอุรา
หมอกหรือควันบังตามิน่ายล
ยามอุษาอาทิตย์จรัสแสง
สายส้มแดงส่องใบในไพรสณฑ์
กลับลางเลือนเสมือนเช่นเร้นกายตน
ดูมืดมนดุจราตรีที่ผ่านคืน
ควันหรือหมอกหลอกบังหยั่งใจคิด
แสนอ่อนจิตระทมสุดข่มฝืน
สองแขนล้าสองขาเกินหยัดยืน
เปรียบรักชื่นแปรเปลี่ยนเวียนตามกาล
หมอกหรือควันฝันสลายคล้ายยากเห็น
รักซ่อนเร้นปิดบังครั้งเคยหวาน
ไม่ชัดเจนเช่นก่อนตอนวันวาน
จึงเขียนกานท์โปรดบอก..หมอกหรือควัน ..