18 ธันวาคม 2546 11:24 น.

..ป่วยการ..

อัลมิตรา




มิติแห่งการเห็นเกิดเป็นภาพ
บนระนาบที่เหมือนมิเคลื่อนไหว
ถูกส่งผ่านแผ่นกรองของจิตใจ
เพื่อนำไปสะสมอารมณ์ตน

อาจหกหายหลายสิ่งที่ทิ้งขว้าง
ก่อนเคว้งคว้างอยู่กับความสับสน
แล้วระหว่างคืนวันอันวกวน
เราย่ำบนความเขลาของเราเอง

กี่มุมมองมืดมนจนจมปลัก
ดิ้นขลุกขลักขืนทำอย่างคร่ำเคร่ง
เสียงตอบของความหวังจึงวังเวง
หลังละเลงรอยบาปคราบน้ำตา
 
กี่ครั้งที่ภาพสะท้อนน่าย้อนคิด
ถูกปกปิดสูญเปล่าเพื่อเอาหน้า
กี่บทเรียนบนทะเลกาลเวลา
ถูกลดค่าเหลือแค่รอยแผลเป็น

เมื่อแน่วแน่ในนามของความเขลา
ยึดอัตตาตัวเราเท่าที่เห็น
ป่วยการพล่ามเพ้อพร่ำว่าลำเค็ญ
ทุกยากเข็ญนั่นคือฝีมือใคร

ก็ขาดเพียงความพร้อมจะยอมเปลี่ยน
จึงวนเวียนหว่างวันอันเหลวไหล
ดิ้นรนหาฝันดีจากที่ใด
ตราบเราไม่ยอมรับการปรับปรุง				
17 ธันวาคม 2546 23:19 น.

๏ ผู้ปลดปล่อย ??

อัลมิตรา


๏ ยกทัพจับศึกสร้าง.............เวรกรรม
ก่อกฎเกณฑ์ชี้นำ.................เข่นข้า ( ฆ่า )
ราวีทั่วโลกกำ-.....................สรวลมาก  มีแล
เห็นเด่นดีจึงบ้า...................คลั่งคล้ายพลายพัง ๚

๏ บุกรุกบุกริบแคว้น.............รังควาน
คงเกียจชังจึงราญ.................รุกล้ำ
ทำลายทุกเรือนชาน...............ล้วนวอด-  วายแล
อาจคาดหมายข่มขย้ำ............ฆ่าล้างพงศ์พันธุ์ ๚ะ๛


๏ ยกทัพจับศึกสร้างเวร-..........กรรมก่อกฎเกณฑ์
ชี้นำเข่นฆ่าราวี
ทั่วโลกกำสรวลมากมี...............แลเห็นเด่นดี
จึงบ้าคลั่งคล้ายพรายพัง
บุกรุกบุกริบแคว้นรัง-.............ควานคงเกียจชัง
จึงราญรุกล้ำทำลาย
ทุกเรือนชานล้วนวอดวาย.......แลอาจคาดหมาย
ข่มขย้ำฆ่าล้างพงศ์พันธุ์ ๚ะ๛
				
9 ธันวาคม 2546 15:56 น.

๏ เขียนโคลงจรรโลงศิลป์

อัลมิตรา


๏ เขียนโคลงจรรโลงศิลป์.........ตราบแผ่นดินจะสิ้นสูญ
ร่ายคำนำเกื้อกูล.....................อาจเพิ่มพูนจินตนาการ
คงมั่นฉันทลักษณ์..................แจ้งประจักษ์รักษ์จดจาร
เรียงร้อยถ้อยชำนาญ...............อิงโบราณเหล่าเมธี ๚ะ๛

 
๏ เขียนโคลงคงฝากชั้น-............เชิงกวี
เลียนแบบมวลเมธี....................เก่งกล้า
บังเกิดจิตสุนทรีย์.....................เกษมสุข
ตราบภพกลบกายข้า ฯ..............จึ่งสิ้นพิศมัย ๚

๏ ฉันทลักษณ์ประจักษ์แจ้ง.........ปฏิภาณ
หลายหลากพจน์จดจาร..............เพริศแพร้ว
เรียงคำร่ายโคลงผสาน...............รังสฤษดิ์
อิงท่านบรมครูแก้ว....................ชาติเชื้อวรรณศิลป์ ๚ะ๛

				
8 ธันวาคม 2546 17:44 น.

…นิยามรัก…

อัลมิตรา

( มาลินีฉันท์  ๑๕ )

๏ กะกะกะกะกะกะกากา.....กากะกากา......กะกากา
กะกะกะกะกะกะกากา........กากะกากา......กะกากา ฯ
 
                              
๏ ฤ  รติ ณ หฤทัยข้า ฯ.....ดั่งสุรีย์จ้า.................มหาศาล
สิริฐิตกนิรันดร์กาล...........ล้ำและโอฬาร...........ตระหง่านงาม
ดุจกวิสิพยายาม...............ย้ำประพันธ์ความ......นิยามเปรย
อุระปณิธิสิชมเชย.............ดั่งเสมือนเคย..........เฉลยคำ ๚


๏ ผิว์รติดุจศศีล้ำ.............รัศมีนำ...................ณ ราตรี
ขณะศศิชุติเพียงนี้...........รื่นฤทัยมี.................สถิตใจ
ผิว์อุระอภิรดีใฝ่...............คงกมลไว้.................มิให้สูญ
มนะสุขอภิรมย์พูน...........รักสิเกื้อกูล...............มนุญนาน ๚ะ๛



 				
6 ธันวาคม 2546 00:25 น.

๏..อิสระใต้ฟ้าคราม..

อัลมิตรา


๏ ครั้นพลบค่ำยามคืนยืนจับกิ่ง
หลบเร้นสิงแนบกายในไพรสัณฑ์
แซกซ่อนตนแอบอิงกิ่งไม้พลัน
แลนวลจันทร์เคลิ้มสุขซุกปีกนอน

ฟังเสียงลมชมไพรใจสุขแท้
ลืมอ่อนแอเหนื่อยล้าคราเก่าก่อน
เปี่ยมความหวังตั้งใจไม่บั่นทอน
ตะวันรอนรุ่งหล้าผละโบยบิน

เมื่อรุ่งแจ้งแสงสีสุรีย์ฉาย
กางปีกหมายเหินฟ้าจะโผผิน
สู่โลกกว้างสุนทรีย์ที่สมจินต์
จนกว่าสิ้นแรงใจไร้กำลัง

ครั้นเหนื่อยอ่อนร่อนถลาหากิ่งเกาะ
ร่ายเสนาะกล่อมไพรดุจใจหวัง
ขยับกายสยายขนจนน่าฟัง
ตราบกระทั่งหายล้าจึงลาไป

ปีกกระพือพลิกแพลงด้วยแรงฝัน
ชมผาชันพฤกษาป่าเขาใหญ่
ล้อลมลิ่วลำพังอย่างสมใจ
รื่นฤทัยเสรีภาพตราบวายปราณ

สองปีกกล้าใจแกร่งกำแหงเหิน
ยังเพลิดเพลินสวยสง่าอย่างกล้าหาญ
จ้องระวีเลื่อมหล้าพาชื่นบาน
เพรียกกังวานเริงร่าใต้ฟ้าคราม ๚ะ๛


				
Calendar
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอัลมิตรา
Lovings  อัลมิตรา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอัลมิตรา