13 ตุลาคม 2547 01:08 น.

...Fly Me to the Moon...

อัลมิตรา


Fly Me to the Moon

(Bart Howard) 
---------------------------------------

Fly me to the moon
And let me play among the stars
Let me see what spring is like
On Jupiter and Mars
In other words hold my hand
In other words darling kiss me 
Fill my life with song
And let me sing forevermore
You are all I hope for
All I worship and adore
In other words please be true
In other words I love you 


..๏ ฉันจักเพลินเหินฟ้าหาจันทร์ฉาย
เยี่ยมดาวรายเรืองแสงแข่งรัศมี
แล้ววิ่งเล่นเริงรื่นชื่นฤดี
กลางแสงสีแห่งดาวสกาวงาม

ด้วยยังหมายใคร่รู้อยากดูนัก
แจ้งประจักษ์ฤดูเวียนเปลี่ยนทั้งสาม
ดาวดวงใหญ่พฤหัสอาจต้องตาม
ความงดงามดาวอังคารนั้นเช่นไร

คราวต้นไม้ใบแตกแยกสาขา
คงตรึงตาปรากฏความสดใส
ฤดูเปลี่ยนกาลแปลงแจ้งในใจ
จักรู้ได้เมื่อฉันนั้นชื่นชม

ประคองมือฉันไว้จับให้มั่น ...
เกี่ยวก้อยกันแสนอุ่นละมุนสม ...
แล้วจุมพิตริมฝีปากฝากรื่นรมย์ ....
จวบสิ้นลมมิเสื่อมสร่างร้างไมตรี

ช่วยแต่งเติมเพิ่มค่าชีวาฉัน
ให้เต็มพลันดั่งดาวพราวรัศมี
ด้วยบทเพลงพาเพลินจำเริญมี
จักเปรมปรีด์ตราบนานนิรันดร

เธอล้ำค่ากว่ามณีอันมีค่า
คนึงหาทุกคราวราวภาพหลอน
โปรดจริงใจเถิดหนาอย่าตัดรอน
ทุกถ้อยความย้ำย้อนอ้อนรักเธอ  ๚ะ๛


				
12 ตุลาคม 2547 15:28 น.

...Take me to your heart ...

อัลมิตรา


Hiding from the rain and snow.
Trying to forget but I wont let go.
Looking at a crowded street.
Listening to my own heart beat.

So many people all around the world.
Tell me where do I find someone like you girl .

 ...แม้ผ่านฝนผ่านหนาวมากคราวครั้ง
...ทุกความหลังจำได้ไม่สับสน
...เสียงหัวใจร่ำร้องดั่งกลองกล
...บนถนนคนมากมายคล้ายลำพัง

...โลกที่กว้างกว่ากว้างอ้างว้างยิ่ง
...จะหาหญิงคนใดดั่งใจหวัง
...คนล่ำลือทั่วไปได้ยิน-ฟัง
...ทุกเสียงหยั่งชื่นชมเธอสมควร

Take me to your heart take me to your soul.
Give me your hand before Im old.
Show me what love is - havent got a clue.
Show me that wonders can be true.

 ...โปรดมอบใจเธอนี้ที่รักจ๋า
...มอบวิญญาณ์ความรักประจักษ์ถ้วน
...ขอมืออุ่นละมุนละมัยในเนื้อนวล
...ตอบก่อนจวนฉันชราคราเลยเยาว์

...ฤๅรักนี้เฉกฝันอัศจรรย์แท้
...ไร้เบาะแสรู้ได้โอ้ใจเขลา
...ฉันรู้ดีที่รัก..รักของเรา
...ทุกสิ่งเท่าเรื่องจริงมิอิงลวง

They say nothing lasts forever.
Were only here today.
Love is now or never.
Bring me far away.

 ...เขากล่าวกันเมื่อก่อนยังย้อนคิด
...ไร้สรรพสิ่งได้สิทธิ์สถิตล่วง
...แต่รักเรารู้ได้นัยทั้งปวง
...จงอย่าห่วงรักลี้..ไม่มีวัน

Take me to your heart take me to your soul.
Give me your hand and hold me.
Show me what love is - be my guiding star.
Its easy take me to your heart.

 ...โปรดเก็บรักฉันไว้เคียงใจเถิด
...รักงามเลิศนิยามความหมายนั่น
...เปรียบเธอคือแสงดาวพร่างพราวพลัน
...ส่องนำฉันยามหม่นทุกข์ล้นใจ

Standing on a mountain high
Looking at the moon through a clear blue sky
I should go and see some friends
But they dont really comprehend

 ...บนภูผาสูงเด่นเช่นเสียดฟ้า
...แลจันทราคราวคืนชื่นสดใส
...หวังความรักเราซึ้งตรึงหทัย
...แม้มิมีผู้ใดเข้าใจความ

Dont need too much talking without saying anything.
All I need is someone who makes me wanna sing.

 ...มิจำเป็นต้องกล่าวใดให้เยิ่นเย้อ
...ขอเพียงเธอเปิดใจฉันใคร่ถาม
...รับรักหน่อยได้ไหมนัยนิยาม
...ที่สื่อตามบทเพลงบรรเลงครวญ

...Take me to your heart ...				
11 ตุลาคม 2547 17:56 น.

..๏ จดหมายถึงคนไกล..

อัลมิตรา

อัลมิตรา..

..๏ ...........................................
คืนที่เราจากกันวันเริ่มหนาว 
ท่ามสายฝนยังบ่นบ้าหาดวงดาว 
ไร้แสงพราวทุกข์ใจให้ร้าวราน 

สิ่งมากมายรายล้อมย่อมไม่รู้ 
ฝนพรั่งพรูเสียงลมข่มขู่ขาน 
หวีดหวีดหวิวไม้ปลิวลิ่วละลาน 
ดั่งประสานเสียงกบอ๊บอ๊บไพร 

สายฟ้าฟาดเปรี้ยงป้างดังข้างหู 
มิกล้าดูด้วยเราเขลาหวั่นไหว 
ยามฟ้าแลบสว่างแสนล้าใจ
หลับตาไขว่หมอนแนบอิงแอบพลาง 

เขาจะรู้หรือเปล่าใจเรานี้ 
ความคิดถึงมากมีเกินปรี่ขวาง
ยากหักห้ามจิตตนหลุดพ้นวาง
ยามเหินห่างกันไกลร่ำไห้คอย

ทุกคืนวันข่มสะอื้นฝืนอ่อนล้า
แต่ละหยดหยาดน้ำตาพาจิตหงอย
แลจุดหมายเบื้องหน้ายังเลื่อนลอย 
ใจดวงน้อยฤๅกล้าจะฝ่าฟัน 

จากพระนครย้อนยังอีกฝั่งหนึ่ง 
แสนคิดถึงจริงหนอพ่อจอมขวัญ 
อกละมุนสองแขนเคยแหนกัน 
ใต้เงาจันทร์คำหนึ่งซึ่งยลยิน 

หากฝั่งธนบุรีที่กว้างใหญ่ 
ปราศแหล่งที่พักใจคนไกลถิ่น 
คงโศกเศร้าโหยหาน้ำตาริน 
รักคงสิ้นจากกันแต่นั้นมา 

ขอข้ามฟากแม่น้ำกว้างไกลลิบ 
แล้วเอื้อมหยิบดวงใจให้ชิดหา 
จะฝากฝันฝากจิตอัลมิตรา 
มิตรภาพตราบสิ้นฟ้ากว่าสิ้นแรง 

lovers moon เคยฟังดั่งเคียงใกล้ 
out of the blue หัวใจก็ไขแจ้ง 
love will keep alive ไว้ไม่เปลี่ยนแปลง 
my love แถลงเขียนจดหมายคล้ายจิตเอย ฯ 

ม้าลาย..

..๏ ...........................................
จากหน้าหนาวยาวนานผ่านหน้าฝน 
ยังคงเฝ้ามองหาแต่หน้ามน 
อย่างหน้าด้านหน้าทนทุกฤดู 

ฝนตกหนักทางโน้นหนาวคนนี้ 
นานผ่านไปหลายปียังสั่นอยู่ 
กลางสายฝนหล่นฟ้ามาพรั่งพรู 
พี่ยังสู้ฝืนทนคนเหน็บแนม 

จนฟ้าฟาดหวาดฟ้าหวั่นพายุ 
นางฟ้าดุเทวดาช่วยด่าแถม 
จึงร่อนเร่พเนจรมารอนแรม 
กลางพงไพรใต้ดาวแวมดุจตาวาว 

มองท้องฟ้าหลังฝนจนตาชึ้น 
คิดถึงคึนวันเพ็ญเราเล่นว่าว 
ลมไม่มีดึงไม่ขึ้นขึนทุกคราว 
ช่วยกันสาวเท่าใดไม่พ้นดิน 

ทั้งพี่สาวน้องสาวจนเข่าอ่อน 
ล้มตัวนอนเอวังข้างแอ่งหิน 
ตักน้ำค้างร่วงฟ้ามาดึ่มกิน 
จวบจนสิ้นเสน่หาราตรีเอย ฯ				
7 ตุลาคม 2547 14:12 น.

..๏ แบกแอกแลกอิ่มหนำ

อัลมิตรา


..๏ เถิดอิ่มหนำ..น้ำ,หญ้า,หัวอาหาร
หน้าฉากการเลี้ยงไว้ขาย ขุนไว้ฆ่า
ไม่เคยมีแม้เศษเสี้ยวเมตตา
แค่หวังหากำไร..ใช่เอ็นดู

คือสำนึก..นายทุนขุนข้าทาส
ตราบมิอาจปลดแอกที่แบกอยู่
เขาต้องคิดว่าคุ้มจึงอุ้มชู
เราควรรู้ทันเหลี่ยมหลากเล่ห์ปน

เขาคือคนเรามิใช่..ใจเขาคิด
เพียงปัจจัยการผลิตผลิดอกผล
หลายหลายครั้งด้อยค่ากว่าจักรกล
ครอบชีวิตผู้คนสนตะพาย

ตราบเป็นทาสทุนนิยมต้องก้มหัว
คอยเจียมตัวยอมรับกับความหมาย
เขาหยามเกียรติ์เหยียดเราเท่าวัวควาย
เถอะ ..! ยอมตายคาแอกแบกทุกข์ตรม  ๚ะ๛				
7 ตุลาคม 2547 11:34 น.

..๏ ปักเป้า

อัลมิตรา


..๏ อ่านเรื่องสั้นสะกิดใจย้อนให้คิด 
ว่าชีวิตผันแปรไปแค่ไหน
หรือมั่นคงดังเช่นให้เป็นไป
อย่ามั่นใจจนประมาทอาจตรอมตรม

เห็นปักเป้าคราวพลิ้วลอยลิ่วคว้าง
ล้อลมพลางโยกย้ายหางส่ายสม
คล้ายรุนแรงโฉบเฉี่ยวเลี้ยวตามลม
คราวนั่งชมหวนคิดชีวิตจริง

มีรุ่งโรจน์โชติช่วงและร่วงหล่น
เปรียบเทียบตนแปรไปไม่หยุดนิ่ง
ดั่งว่าวน้อยลอยลมน่าชมจริง
ดูทุกสิ่งงดงามตามใจปอง

สายป่านขาดอาจคว้างอย่างไร้เหตุ
เกิดอาเพศพลาดพลั้งต้องนั่งหมอง
อีกจุดหมายสิ้นความตามครรลอง
ครั้นเหม่อมองปักเป้าจึงเข้าใจ ๚ะ๛ 				
Calendar
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอัลมิตรา
Lovings  อัลมิตรา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอัลมิตรา