16 พฤศจิกายน 2547 15:47 น.
อัลมิตรา
..๏ หากรักเก่าดีกว่ารักครานี้
ฉัน..ผู้ที่ต่ำต้อยด้อยคุณค่า
คงมิอาจเทียบรักเก่าเธอเล่ามา
รู้ดีว่าห่างไกลในตัวตน
เพราะเป็นคนที่สองสำรองฝัน
สายสัมพันธ์จึงเหมือนลางเลือนผล
รักแรกนั้นคงงดงามยามย้อนยล
ฉันฤๅทนแทนใครในก่อนกาล
แสนน้อยใจยิ่งนักรักเจ้าเอ๋ย
ด้วยไม่เคยรู้ก่อนเรื่องย้อนขาน
รักที่เธอซาบซึ้งซึ่งตำนาน
จนเขียนกานท์ฉันสะอื้นสุดฝืนใจ
กำไลหินสีแดงเคยแฝงรัก
ตะขอเงินสลักตรึงพึงสวมใส่
แม้รักร่วมประคองสองหทัย
จงรักษ์ไว้แนบแน่น ณ แก่นทรวง
มาบัดนี้กำไลในลิ้นชัก
ปลดสลักตะขอไว้ไม่แหนหวง
สิ่งที่เคยล้ำค่ากว่าทั้งปวง
หากเธอทวง..ฉันพร้อมยอมอำลา ๚ะ๛
12 พฤศจิกายน 2547 13:33 น.
อัลมิตรา
..๏ ยังจำไว้...
..๏ คำนึงอดีตนั้น................เคยเคียง คู่เฮย
อิงแอบแนบใจเรียง...............ร่วมเหย้า
ตราตรึงซึ่งสำเนียง................คำพร่ำ- เพรียกนา
ยังปรากฏดังเฝ้า-..................อยู่ใกล้ใจเสมอ ฯ
..๏ ทุกข์ใดเคยมากล้วน.........อันตรธาน
แจ้งประจักษ์ดวงมาลย์...........มั่นแท้
เธอ-ฉันผ่านฤดูกาล...............เลยล่วง
เคียงคู่มั่งคงแล้......................บ่สิ้นสิเนหา ฯ
..๏ เก็บฝันวันเก่าเกื้อ-...........กูลใจ
วิตกกลัวคนไกล...................หน่ายร้าง
จึงเพรียกพร่ำร่ำไป...............หวาดหวั่น
เกรงรักจักคลาดคว้าง.............ห่างผู้เคยเคียง ฯ
..๏ อดีตกาลผันผ่านพ้น.........กาลสมัย
เธอด่วนลาจากไกล...............รักเรื้อ
รำพันคร่ำครวญไป.................สุดสลด
เจ็บแปลบดั่งทุกข์เยื้อ..............บ่ร้างห่างหาย ฯ
..๏ เสียงเพลงยังตอกย้ำ..........ตามเตือน- จิตเอย
ในส่วนลึกบ่เลือน.................ดั่งแกล้ง
คำเธอกล่าวดังเสมือน.............แหนงหน่าย
เคยรักกลับเสแสร้ง.................เล่นลิ้นปานลวง ฯ
..๏ หลอกคนเคยร่วมร้อย-.......ใจเคียง
เคยห่วงใยใช่เพียง.................ชั่วครั้ง
ฤๅความรักเอนเอียง.................เป็นอื่น
ฉันแค่เพียงพลาดพลั้ง.............กลับซ้ำตามหลอน ฯ
..๏ ความหลังปรากฏให้.........คะนึงหา
เป็นภาพเก่าตรึงตรา..............อยู่ยั้ง
วันคืนเปลี่ยนแปลงพา-..........จิตหม่น - หมองเฮย
ฤๅอดีตยังเหนี่ยวรั้ง................เพื่อให้ทุกข์ระทม ฯ
..๏ แอบไปมีผู้อยู่.................ครองใจ
ลืมรักเก่าทันใด..................ง่ายแท้
ทุกคืนค่ำร่ำไร.....................บ่สร่าง- โศกเฮย
มองภาพความพ่ายแพ้...........กี่ครั้งยังหมอง ฯ
.....( สร้อย ).....
..๏ จดจำความโศกเศร้า...........สุมทรวง
คงแต่ความหลอกลวง...............จากเจ้า
ดวงจิตแอบคิดหวง..................เธออยู่
ยังเจ็บจำความเศร้า.................ตราบสิ้นลมปราน ๚ะ๛
( ยังจำไว้ใจฉันยังเจ็บ..เหลือเกิน )
10 พฤศจิกายน 2547 23:25 น.
อัลมิตรา
..๏ เหลียวหน้ามองหาจุดหมาย........ตะเกียกตะกาย
ขวนขวายคว้าไขว่ผลงาน
พุ่งเป้าวิเคราะห์กิจการ.......................วางหลักปักฐาน
หวังว่านงคราญเอ็นดู
มอบใจให้แล้วโฉมตรู.........................พึงทราบรับรู้
อย่าดูผิวเผินเมินหนี
กระจายหัวใจให้ที..............................น้ำใจไมตรี
แค่นี้คงชื่นรื่นรมย์ ฯ
..๏ แลหลังยังสั่นหวั่นตรม.................เหินฟ้าคว้าลม
ดั่งชมเดือนดาวพราวงาม
แค่เห็นบนฟ้าวาววาม.........................รุ่งเรืองเหลืองอร่าม
ทุกยามราตรีนิรันดร์
อย่าให้เป็นเช่นเพ้อฝัน.......................ยามตื่นหายพลัน
พลอยหวั่นวิตกอกตรอม
เหลียวหน้าแลหลังดั่งยอม...................ความรักสุกงอม
โปรดซ่อมสร้างใจให้ที ๚ะ๛
9 พฤศจิกายน 2547 23:48 น.
อัลมิตรา
วสันต์ดิลกฉันท์ ( ๑๔ )
..๏ กากากะกากะกะกะกา..........กะกะกากะกากา
กากากะกากะกะกะกา...............กะกะกากะกากา ฯ
..๏ ยามรัตติกาลศศิประไพ...........วิสมัยวิไลวรรณ
แจ่มจ้าจรัสวิศวจันทร์...................ณ นภานิรันดร
ยามรัตติกาลสิริประภา............อุปมาอรุณกร
พลันเอื้อนกวีมธุรวอน..................ศศิธรวโรดม
ด้วยปรารถนาจะสรเสริญ..........หฤทัยสิเพลินชม
ยามเพ่งประหนึ่งผิว์อภิรมย์......... ขณะนั้นระทมหาย
อันสรรพทุกข์ดุจมหันต์...........สรพันสิกลับกลาย
เปี่ยมสุขเสมออุรสบาย...................ฤ พระจันทร์ประทานพร ๚ะ๛
8 พฤศจิกายน 2547 22:56 น.
อัลมิตรา
..๏ เกล็ดแก้วแววใส........วาววับจับใจ..............ควรให้ใฝ่ปอง
จากห้วงสรวงสวรรค์........อัศจรรย์เรืองรอง.......บริสุทธิ์ผุดผ่อง
ถ้วนท้องธรณี
..๏ ปรากฏหยดหยาด......หลากลักษณ์ล้ำพิลาส....ดื่นดาษปฐพี
บ้างเกาะกิ่งใบ................แมกไม้มากมี...............ถ้วนทุกถิ่นที่
ตราบระวีรุ่งพลัน
..๏ เกล็ดผ่องแพรวพราย....งามล้วนชวนหมาย......ท้าทายสุริยัน
บังเกิดแสงสี......................ลักษมีครบครัน...........บรรเจิดเฉิดฉัน
ลดหลั่นเรียงราย
..๏ ปานเพ็ชรเม็ดพลอย....มากมายใหญ่น้อย........หยดย้อยหยาดกลาย
ต้องแสงสุริยา.................แปลกตาพรรณราย..........รูปลักษณ์หลากหลาย
จึ่งละลายกลายทรง ฯ
..๏ ดังเกล็ดแก้วแววใสจับใจนัก
หลากรูปลักษณ์ล้วนงามนำสุขสันต์
พร่างพิสุทธิ์เรืองรองผ่องแพรวพรรณ
ฤๅวิศวกรรมันบันดาลมา
จากโลกหล้าสุราลัยอำไพภพ
ล้วนบรรจบงดงามล้ำนักหนา
บริสุทธิ์ผุดผ่องยังต้องตา
ให้ปรีดาเกษมสันต์เกินบรรยาย
เกล็ดปรากฏหยดหยาดพิลาสล้ำ
ปฏิมากรรมธรรมชาติเกินคาดหมาย
บ้างวาววับหลบเร้นเช่นมากมาย
บ้างแพรวพรายราวเพ็ชรเกล็ดมณี
โอ้แรงฤทธิ์วิษณุกรรมนำรังสรรค์
ยังอัศจรรย์ความงามล้ำหลากสี
แต่งแต้มพันธุ์พฤกษาทั่วปฐพี
ตราบระวีจรัสฉายจึ่งกลายทรง ๚ะ๛