9 พฤษภาคม 2548 18:25 น.
อัลมิตรา
..๏ เรื่องที่เห็นอาจมิใช่อย่างใจคิด
สิ่งถูก-ผิดแค่คำพูดพิสูจน์หรือ
น้ำมันที่เขาราดไปไฟโหมฮือ
คว้าไต้ถือมิระวังจะพลั้งตน
อันคำลวงเล่ห์ใครหากใคร่รู้
จิตพิศดูเถอะนะอย่าสับสน
ใช้ปัญญาปกป้องใจไม่วกวน
หลีกให้พ้นสิ่งอุบาทว์ขยาดไกล
รักษ์ใจเถิดคนดีที่อยากสอน
หากแง่งอนจนจิตคิดเผลอไผล
อาจสูญเสียคนรักอกหักไป
คุ้มกันไหมกับเรื่องราวข่าวมิจริง
ความรักที่บาดหมางยามห่างเหิน
คงยากเกริ่นปลอบใจในบางสิ่ง
ด้วยไมตรีเรามีให้ใคร่ท้วงติง
จงทำใจให้เฉยนิ่งอย่ายิ่งลาม ๚ะ๛
9 พฤษภาคม 2548 15:39 น.
อัลมิตรา
..๏ ในคืนที่ท้องฟ้าดารดาษดาว
แ ต่ฉันกลับเหน็บหนาวรวดร้าวแสน
ดั่งเร่ร่อนแรมไกลในต่างแดน
อ้างว้างแม้นผู้คนมากค้นเจอ
แ ห ง น ม อ ง ดู ด ว ง ด า ว ที่ พ ร า ว ฟ้ า
แ ส ง ร ะ ยิ บ แ จ่ ม น ภ า ค ร า เ ส น อ
ไ ย ตั ว เ ร า ช อ ก ช้ำ พ ร่ำ ล ะ เ ม อ
เ ศ ร้ า กั บ ค ว า ม รั ก เ ก้ อ เ พ้ อ ลำ พั ง
โ อ้ ! ค่ำ คื น ดื่ น ด า ว เ ร า ห น า ว เ ห น็ บ
จำ กั ก เ ก็ บ น้ำ ต า ไ ว้ มิ ใ ห้ ห ลั่ ง
ณ ที่ ซึ่ ง ค ลั บ ค ล้ า ย ห ล า ย ค น ชั ง
เ พี ย ง ห นึ่ ง ห วั ง ค น รั ก จ ะ ภั ก ดี
ห วั ง ข อ ง ค น ต่ำ ต้ อ ย ด้ อ ย ว า ส น า
เ ห ลื อ เ พี ย ง ค ร า บ น้ำ ต า ม า แ ท น ที่
เ ห ลี ย ว ห า ใ ค ร ไ ห น ห น อ พ อ ป ร า นี
ม อ บ อุ่ น ไ อ ชุ บ ชี วี ที่ มื ด ม น ๚ะ๛
.. คื น นี้ ถ้ า ฉั น ห น า ว ..
.. ผู้ ใ ดร่ ว ม ผิ ง ด า ว บ น ฟ้ า ..
8 พฤษภาคม 2548 12:21 น.
อัลมิตรา
..๏ มองให้ลึกลงไปในทุกวรรค
ให้ตระหนักเนื้อในใช่ผิวเผิน
ยังมิทันประมวลด่วนประเมิน
อาจหลงเพลินเพียงภาพฉาบมารยา
ให้เห็นความสอดรับเหตุกับผล
ดูแยบยลถ้วนถี่ทุกทีท่า
ก่อนเคลิบเคลิ้มคำหวานเขาหว่านมา
ต้องรู้ว่าลมปากหรือจากใจ
บนเวทีที่สานผลงานศิลป์
อย่าเคลิ้มจินต์จนละเมอคิดเผลอไผล
สิ่งที่เห็นอาจแตกต่างอย่างลิบไกล
หากหลงใหลจิตจะช้ำเพราะคำกลอน
ตราบเบื้องลึกเบื้องหลังยังมิแจ้ง
เล่ห์ร้ายแฝงมากนักเราจักสอน
ยิ่งพื้นเพมืดมนคนละคร
หน้าใสตอนแปลงเป็นเสือล่าเหยื่อกิน ๚ะ๛
5 พฤษภาคม 2548 01:05 น.
อัลมิตรา
..๏ เคล้าความฝันอันกระจ่างสว่างไสว
จากจิตใจรื่นรมย์ผสมผสาน
หลากวิธีที่ตระหนักวิจักขณ์วิจารณ์
บังเกิดกานท์เสริมศัพท์ประดับประดา
สวมวิญญาณพรานไพรไล่ล่าฝัน
เข้าเขตขัณฑ์พฤกษ์ไพรไต่ภูผา
พกลายแทงจินตนาการอันโสภา
เพื่อเสาะหาขุมทรัพย์เมืองลับแล
ยามราตรีมีดาวสกาวพร่าง
แสงส่องทางจรัสศรีมีดวงแข
ไร้เดือนดาวคืนใดใช่ตัวแปร
ความพ่ายแพ้ใช่อุปสรรคปักแทงใจ
ออกเดินทางสร้างสรรค์ประพันธ์พจน์
แม้นกำหนดกฎเกณฑ์เช่นเขาใหญ่
จักก้าวข้ามมุ่งมั่นไปทันใด
ด้วยหัวใจเสรีมิรีรอ
ลบอ่อนแอแพ้พ่ายหายหมดสิ้น
นอนกลางดินกินกลางทรายหายย่อท้อ
สัมภาระคือฝันเท่านั้นพอ
ไม่อ่อนข้อต่อชะตาขอท้าทาย
แม้นไร้ดาวพราวพร่างทางมืดมิด
แต่ดวงจิตแจ่มกระจ่างช่างเฉิดฉาย
จินตนาการความฝันพร่างพรรณราย
แม้นเดียวดายไม่ขยาดหรือหวาดระแวง
หากผู้ใดใครมีไมตรีจิต
ร่วมลิขิตวรรณกรรมล้ำกล้าแกร่ง
อุดมการณ์ความสามารถอาจพลิกแพลง
มาร่วมแปลงอรรถรสเป็นบทกวี
สัญชาตญาณนักล่าตามหาฝัน
เสกอักษรสร้างสรรค์บรรณวิถี
ไร้กฏเกณฑ์คุมขังดั่งเคยมี
อิสระเสรีที่หัวใจ ๚ะ๛
4 พฤษภาคม 2548 14:09 น.
อัลมิตรา
...หากเธอยังเดียวดาย...
...ฉันยังหมาย..ผูกใจเป็นเพื่อน...
...แม้พลาดพลั้งยังคอยย้ำเตือน...
...แม้ความฝันลางเลือน...
...เหมือนยังคอยปลอบขวัญ...
...บางครั้งที่เธอยังเดียวดาย...
...ฉันก็ยังหมาย...
...ว่าจะยืนอยู่เคียงข้างกัน...
...พร้อมมอบความรัก...
...ร่วมถักมิตรภาพพลัน...
...เพื่อมอบความสุขสันต์...
...ในคืนวันที่เดียวดาย...
...เธอ...
...ย่อมไม่เดินลำพังอย่างเหว่ว้า...
...หากเธออ่อนล้า...
...ฉันยังปรารถนาไม่เคยแหนงหน่าย...
...มีแขนให้เกาะ...
...มีอกอุ่นให้กอดพลอดพร่ำสาธยาย...
...บอกเล่าเรื่องเล่ามากความหมาย...
...หวังเธอผ่อนคลายสิ่งที่ทำให้โศกตรม...
...ทุกก้าวย่าง..
...เดินอย่างมุ่งมั่น...
...พร้อมด้วยความฝัน...
...จักพลันสุขสม...
...ก้าวไปข้างหน้า...
...ด้วยจินตนาการอันแสนรื่นรมย์...
...ทิ้งความขื่นขมหมองตรม...ทั้งมวล
คื นนี้ ถ้ า เ ธ อ ห น า ว
ร่ ว ม ผิ ง ด า ว บ น ฟ้ า
จ า ก รั ก. .จ า ก ศ รั ท ธ า ข อ ง เ ร า