12 กรกฎาคม 2548 14:56 น.
อัลมิตรา
จะมีไหม วันนั้น ..วันที่เราหวังกันไว้
ฤๅจะไม่มีวันนั้น..ซึ่งเป็นวันของเรา
สิ่งที่เรารอคอย
ฤๅไกลเกินกว่า คำว่า..เป็นไปได้
ฉันถาม ..
..บอกฉันที
ฉันควรทำเช่นไร
บอกฉันที
ฉันควรลบความฝันนั้นไหม
บอกฉันที
ฉันยังจะสามารถทำอะไรได้บ้าง เพื่อเรา..
เธอตอบ ..
..ไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่า
ความเชื่อมั่น และศรัทธาต่อกัน
อย่าอาลัย กับสิ่งที่ผ่านมา
อย่าสิ้นหวัง กับสิ่งที่รอคอย
คนดีของผม .. อย่าร้องไห้
คนดีของผม .. อย่าทุกข์ใจ
คนดีของผม .. เรายังคงเป็นเราเสมอมั่น..
อีกหนที่ฉันถาม ..
.. กับสิ่งที่เรียกว่าเพ้อฝัน
และความเป็นจริงที่เผชิญ
เหตุใดจึงเป็นฉัน
เหตุใดจึงเป็นเธอ
และเหตุใด ไยต้องเป็นเรา ..
เธอปลอบ ..
.. อย่าถามถึงสาเหตุ เพราะยากที่จะตอบ
และอย่าถามว่า อนาคตเราจะเป็นเช่นไร
รู้แต่เพียงว่า วันนี้ เราสุข ก็พอ
คนดีของผม .. เมื่อวานเป็นอย่างไร
คนดีของผม .. วันนี้ก็จะเป็นเช่นนั้น
คนดีของผม .. ไม่ว่าจะอีกกี่นาน
แม้..ไม่มีคำสัญญาจากผม
แต่ขอให้รู้ไว้ว่า .. รักเราจะเป็นนิรันดร์
ผมติดปีกความฝันให้หัวใจคุณ
ได้โบยบิน ออกจากรงทอง
สลัดสิ้นพันธนาการ ..
สักวัน .. ฉันจะบิน
ปีกความฝันที่คุณติดให้
จะพาให้ฉันโบยบินไปหาความฝันนั้น ..
11 กรกฎาคม 2548 11:01 น.
อัลมิตรา
หลายคน หวังว่าฉันจะเป็นอย่างนั้น
หลายคน พยายามบังคับฉันให้เป็นอย่างที่พวกเขาคิด
แต่
จะมีสักกี่คน
ที่อยากให้ฉัน เป็นตัวของฉันเอง
ให้ฉันมีชีวิต ตามที่ฉันอยากจะเป็น
ปลดพันธะและให้อิสระต่อฉัน
ยอมรับในการตัดสินใจของฉัน
ได้โปรดเถอะ ..
อย่าหน่วงเหนี่ยว ฉันไว้อีกเลย
อย่ากักขัง และล่ามฉันไว้กับพันธนาการ
อย่าบังคับกะเกณฑ์ ให้ฉันเดินตามอย่างไม่เต็มใจ
เพราะว่า ..
ฝืน ได้สักกี่วัน
รั้ง ได้สักกี่หน
อดทน ได้สักกี่ครา
ฉันอยากทิ้งคำถามนี้ไว้ เผื่อบางคนจะได้คิด
ได้โปรดเถอะ ..
ฉันอยากเป็นเจ้าของหัวใจของฉัน
ฉันขอเลือกทางเดินเอง
ฉันพร้อม ..ไม่ว่ามันจะทุกข์หรือสุข
ฉันยินดียอมรับสิ่งที่จะเป็นไป
รอ ..
ใครสักคน
ที่จะมองเห็นตัวตนที่แท้จริงของฉัน
รอ ..
ผู้ที่ให้โอกาส
ต่อลมหายใจที่สิ้นหวัง
รอ ..
แม้ว่า จะยังคงต้องรอ ... ต่อไป
รอ ..
คงรอ และรอ ... เรื่อยไป
7 กรกฎาคม 2548 01:08 น.
อัลมิตรา
..๏ มองนภาคราไร้ดาวคราวเดือนดับ
จันทร์ลาลับอับแสงแฝงใดหนอ
แสนอ้างว้างเปลี่ยวเหงาเฝ้ายืนรอ
รันทดท้อหมองหม่นจนทรมาน
ก่อนแสงดาวพราวระยิบกระพริบพร่าง
กลับลาร้างเลือนหายคล้ายหักหาญ
เคยยลแสงแจ่มจรัสยามรัตติกาล
ต้องร้าวรานขมขื่นในคืนแรม
ดั่งผู้หนึ่งซึ่งไกลไม่หวลกลับ
ฤๅลาลับร้างเลือนดุจเดือนแจ่ม
เช่นดาราเคยกระจ่างพลางราแรม
เคยแต่งแต้มประดับฟ้ามาจากจร
เคยเคียงกันวันชื่นคืนหรรษา
ถ้อยภาษาแสนเสนาะเพราะออดอ้อน
เผยรำพันวรรณกรรมลำนำกลอน
ในกาลก่อนยังกังวานสะท้านทรวง
คราแสงดาวพราวพร่างเคยอ้างเอ่ย
ยังเปรียบเปรยเสมอว่าฟ้าเป็นห่วง
แท้เป็นเพียงถ้อยวลีที่หลอกลวง
เพียงคืนล่วงผ่านไปไยลืมคำ
ถ้อยสำเนียงเสียงสำนวนส่วนสัญญา
ล้วนสิ้นค่าหลอกให้ใจถลำ
อยากลบเลือนเสียหมดมิจดจำ
ที่เขาพร่ำเพ้อไว้ในคืนแรม ๚ะ๛
6 กรกฎาคม 2548 23:09 น.
อัลมิตรา
..๏ แม้นเธอจะกักเก็บความเจ็บปวด
ยอมร้าวรวดลำพังอย่างขื่นขม
ปล่อยชีวิตเคว้งคว้างอย่างตรอมตรม
กล้ำกลืนข่มทุกข์ไว้ใจยอมทน
ถึงมิเคยเอ่ยปากฝากให้รู้
เพียงมองดูตรึกได้นัยเหตุผล
ความอดสูเธอซ่อนไว้ในกมล
ฉันขอค้นสืบเสาะเลาะหัวใจ
หนึ่งหัวใจหวังดีมีมามอบ
คือคำตอบเท่านี้ที่ฉันให้
คงแล้วแต่เธอเห็นเป็นเช่นไร
จะรับไว้หรือทิ้งมิติงกัน
ขอเพียงแค่เปิดใจให้รู้จัก
เพาะต้นรักงอกงามตามจิตฝัน
จะทุกข์-สุขอย่างไรใคร่แบ่งปัน
ขอเธออย่าปิดกั้นกระนั้นเลย ๚ะ๛
5 กรกฎาคม 2548 14:54 น.
อัลมิตรา
..๏ ขู่กรรโชกเสียงฉิวดั่งกริ้วโกรธ
ระบุโทษกระหน่ำย่ำฉิบหาย
มวลไม้เล็กพินาศต่างวอดวาย
ต้นถูกถอนสูญสลายไร้ร่องรอย
ด้วยลมหมายบีฑาให้อาสัญ
จนพฤกษ์พันธุ์หลายหลากเหลือซากฝอย
กิ่ง,ก้าน,ใบ ปลิดขั้วทั่วถ้วนลอย
ไม้ใหญ่ผล็อยพังพาบราบพสุธา
ครั้นเวลาผ่านไปคลายเคืองขัด
ลมเพียงพัดแผ่วเบาราวโหยหา
ความอบอุ่นจากไม้ในพนา
จึงวกมาสู่อ้อมไพรในแดนเดิม
โอ้อนาถ..ป่าล่มเพราะลมชั่ว
จิตเมามัวเกินไปให้ฮึกเหิม
ครั้นกลับตัวคิดใหม่หมายต่อเติม
แล้วจะเสริมอย่างไรปลูกไม้งาม
ป่าคงยากพลิกฟื้นจึงขื่นขม
เป็นบทเรียนของลมที่ข่มขาม
เพราะบังอาจมุ่งร้ายกรายคุกคาม
สำนึกยามป่าสลายคงสายไป
หากเปรียบลมกับนิยามความรักนั้น
หลายคนพลันย้อนคิดจิตสงสัย
ผู้ประพันธ์จะอิงถึงสิ่งใด
และทำไมตัวอย่างต้องอ้างลม
ขอส่งเทียบเชื้อเชิญเกริ่นวจี
วอนน้องพี่ขยายความตามเหมาะสม
ด้วยสาเหตุซ่อนไว้นัยเงื่อนปม
เรื่องระทมผ่านตาคราวันวาน
ตัวอย่างรักเปลี่ยนไปกลายเป็นแค้น
คงฝังแน่นดวงจิตเมื่อคิดผลาญ
คีตนะเขียนกลอนตอนร้าวราน
สะท้อนกานท์สะเทือนใจหากใครดู
เธอคือลมพิโรธที่โหดร้าย
มุ่งทำลายเพียงหวังซากยังอยู่
มันจะเหลือค่าใดให้เชิดชู
รักกับผู้สูญใจ .. ใช่สิ่งดี
หากเปรียบเขาคงเป็นเช่นต้นไม้
ย่อมสั่นไหวยามพายุมุกดขี่
อาจถอนรากออกไปในทันที
ด้วยเหตุที่ใจหมดความอดทน
เป็นบทเรียนลม-รักหักมุมเล่า
คือเรื่องราวนัยจริงอิงเหตุผล
คีตนะผูกเงื่อนเหมือนซ่อนกล
ดั่งรอคนเข้าใจนัยเนื้อความ ๚ะ๛