22 ตุลาคม 2548 08:04 น.
อัลมิตรา
..๏ มีม่านเมฆเฉกฉากอันหลากร่าง
มากั้นหว่างฟากฟ้านภาสวรรค์
แต่งด้วยมวลดาราโสภาพรรณ
อีกดวงจันทร์แจ่มกระจ่างพร่างแพรวพราว
ให้เชยชมภิรมย์รื่นทุกคืนค่ำ
ร่ายลำนำกวีไปในคืนหนาว
ผูกพยางค์ชมเดือนเป็นเพื่อนดาว
ที่แวววาวเวิ้งว้างหว่างเมฆา
ยังเฉิดฉันท์พรรณรายแสงฉายฉาน
ต่างตระการแจ้งประจักษ์งามนักหนา
เพริศพิไลนวลละอองผ่องโสภา
ยังตรึงตราสุขใจมิใช่น้อย
ด้วยคำนึงถึงบางใครในภวังค์
อดีตยังตามสะกิดให้คิดบ่อย
คราวสานสายสัมพันธ์วันรอคอย
ยังเลื่อนลอยเกินกว่าไขว่คว้ามัน ๚ะ๛
18 ตุลาคม 2548 08:43 น.
อัลมิตรา
..๏ ดวงจิตแสนฉกาจกล้า.........ทรนง
บ่หวั่นเกรงหรือพะวง................อริร้าย
รักษาเกียรติดำรง......................ตลอดชีพ
ยืนหยัดองอาจคล้าย.................ผงาดท้าอัสนี ฯ
..๏ เป็นเหล็กแหลมแท่งน้อย...ทองแดง
ลมคลั่งฝนสำแดง.......................ฤทธิ์กล้า
เสียงสนั่นอีกลำแสง...................แปลบปลาบ
ยังยึดมั่นเสมือนท้า....................เล่ห์ร้ายภัยพาล ฯ
..๏ ไม่กลัวฝนบนฟ้า...............ยังแกร่งกล้าดั่งท้าทาย
ลมแรงมากล้ำกราย..................มุ่งทำลายให้หวั่นเกรง
กรรโชกโลกหล้าสั่น................ดั่งลงทัณฑ์มั่นข่มเหง
คลุ้มคลั่งดั่งนักเลง...................แล้วเพ่งเล็งอย่างร้อนรน ฯ
..๏ แท่งเหล็กหนึ่งกล้าแกร่ง....แสนกำแหงฝ่าลมฝน
อัสนีที่เบื้องบน........................คำรามรนยิ่งโกรธา
สำแดงอัสนีบาต.......................ลำแสงปราดเกรี้ยวกราดมา
ดังสนั่นลั่นโลกา......................อวดศักดาบ้าฤทธี ฯ
..๏ เหล็กเหล็กยิ่งทรนง..............หยิ่งดำรงคงศักดิ์ศรี
แม้นน้อยด้อยบารมี..................หากยังมีอดุมการณ์
องอาจเก่งฉกาจนัก...................ต้องตระหนักความเหิมหาญ
ถูกบุกแลรุกราน.........................กลับยืนกรานอย่างยืนยง ฯ
..๏ โลกหล้าเวหาหาว................ปรวนแปรราวจักมลายลง
ท้าทายด้วยทรนง......................เดชดำรงตราบฝนซา
โดดเดี่ยวอย่างโดดเด่น.............มิหลบเร้นจากอาญา
ฝนสั่งครั้งแสงฟ้า......................มุ่งเข่นฆ่ามิครั่นคร้าม ฯ
..๏ แท่งเหล็กโลหะน้อย..........ศักดิ์ศรีด้อยบ่เกรงขาม
ฝนฟ้าบ้าคุกคาม.......................เจ้ายังงามอยู่หนึ่งเดียว
อยู่สูงรับแสงเสียง....................เจ้าสู้เสี่ยงเพียงโดดเดี่ยว
องอาจเหิมหาญเทียว...............ท้าทายฟ้าอย่างกล้าเกิน ฯ
..๏ ใต้หล้าเวหาหาว.................แม้นร้อนหนาวจงกล้าเผชิญ
พบภัยอย่าจระเทิญ..................จงดำเนินฝ่าฟันไป
ปัญหาแลอุปสรรค....................จงตระหนักในจิตใจ
กล้าหาญและชาญชัย...............อย่างเกรียงไกรสายล่อฟ้า ๚ะ๛
15 ตุลาคม 2548 09:33 น.
อัลมิตรา
...เมื่อความรักแวะผ่านมาทักทาย
...ก็คงคล้ายแรกเจอเธอกับฉัน
...แปลกจริง !..เหมือนเราคุ้นเคยกัน
...คล้ายกับความผูกพันนั้นยาวนาน
...เรียกว่าอะไร ในความรู้สึกที่สัมผัส ?
...บางอย่างบางสิ่งที่ยิ่งกว่าหวาน
...ไม่ต้องพูด ไม่ต้องพร่ำ จนทำให้รำคาญ
...ดูเหมือนว่าเราจะผ่าน..คำขานรัก
...เคยสงบสงัดในหัวใจ
...แต่เหตุใด จึงหวั่นไหว .. ไม่รู้จัก
...รู้เพียง ทุกคืนวันคิดถึงเธอยิ่งนัก
...ฤๅ..ฉันจะหลงรักเธอเข้าแล้ว
...ดั่งเสียงในหัวใจ .. ครวญหา
...หนาวนัก หนาวหนักหนา แม้นลมพัดแผ่ว
...เหลียวมองรอบกาย ดั่งไร้วี่แวว
...คงเป็นเพราะ ..ความรักมาทักทายแล้ว...ก็จากลา
...ความรัก...คือความหมายแห่งใจที่ซับซ้อน
...ความรัก...มักเปลี่ยนร้อนเป็นความอบอุ่น
...ความรัก...มักแปลงหนาวให้เย็นราวลมชมพิรุณ
...ความรัก...มักเกื้อหนุนให้กร้าวแกร่งเกินพลังทั้งปวง
...ความรัก...ไร้เสแสร้งระแวงหวาด
...ความรัก...ไร้อาฆาตความหึงหวง
...ความรัก...ไร้แต่งเสริมเพิ่มความหลอกลวง
...ความรัก...ไร้ความจาบจ้วง...
...ความรัก...ไม่ล่วงเกินด้วยเล่ห์เพทุบายใด
...ความรัก...หากลุ่มหลงคงชอกช้ำ
...ความรัก...หากเพลี่ยงพล้ำคงระกำร่ำไห้
...ความรัก...หากยึดถือคือระเบิดในหัวใจ
...ความรัก...แม้นมีให้ใครได้ แต่อย่าลืมให้ตัวเอง
14 ตุลาคม 2548 11:54 น.
อัลมิตรา
...สวัสดีท้องฟ้าที่สดใส
...สวัสดีต้นมะม่วงใหญ่ยักษ์
...สวัสดีทุกๆคนที่รู้จัก
...สวัสดีความรัก .. ฉันทักทาย
...ฉันมิแลเห็นสิ่งอื่นใด เว้นแต่ความวิจิตรงดงาม
...คือนิยาม ที่รับรู้ได้ในความหมาย
...ช่างสุขนัก เมื่อสัมผัสสิ่งรอบ ๆ กาย
...รอยยิ้มของฉันจึงถูกแจกจ่าย..ให้ทุก ๆ คน
...ถึงใครจะมองไม่ซึ้งถึงความงดงาม
...ไม่อยากถาม ไม่อยากสน
...ฉันรู้เพียงว่า มันเป็นสิทธิ์ของปัจเจกชน
...แม้นฉันจะเสาะค้นเพียงลำพัง
...ดูสิ นั่น ! ...เจ้ามดดำตัวน้อย
...แสนกระจ้อยร่อย เดินไต่อยู่บนใบไม้ด้านหลัง
...จับตามอง โอ้โห .. ตัวเล็กแต่ช่างมีพลัง
...ฉันแอบเห็นมันเหลียวหลัง เหมือนตอบรับคำสวัสดี .. อั่นแน่ !
...แล้วมันจะเดินไปไหนกันนะ
...อ้าว !. เผลอแป๊บเดียว ตอนนี้มันเดินคละ เข้าไปในฝูงเสียนี่
...เจ้ามดดำตัวน้อย เพื่อนของฉัน กลายตัวไหนใครจำแนกที
...ก็เมื่อตะกี้ ยังเห็นหลังอยู่ไวไว
...ฝากข้อความอักษร ตอนง่วงนอน
...ฝากเรื่องราวบางตอนให้บางใคร
...ฝากความรัก ที่กลั่นตรงมาจากหัวใจ
...เอ้า สหาย... มาสิมารับ สหายของเรา
...เฮ้ ! สหายชาวภูธร
...วันนี้ต้องไปขุดดินอีกหรือเปล่า
...ตื่นสายล่ะสิ หรือว่ายังคงตื่นเช้า
...ช่วยเล่าเรื่องราวให้ฉันฟังทั้งปวง
...เฮ้ ! สหายที่แอบย่องอ่าน
...มาเติมความสุขในหัวใจกัน ..
11 ตุลาคม 2548 11:30 น.
อัลมิตรา
..๏ เกิดมาเพื่อสิ่งใดในโลกหล้า
ที่ผ่านมาเหลืออะไรให้เก็บผล
กาลข้างหน้าเป็นไฉนใครเล่าดล
หลากเรื่องราวสับสนใครคนทำ
เจอะใครก็ถามไปด้วยใคร่รู้
คงเห็นเราเขลาอยู่จึงดูขำ
"ถามทำไม ? เพื่ออะไร ? ไยจดจำ ?
เอาแต่พร่ำพูดเพ้อเดี๋ยวเจอดี.."
ไร้ผู้จะอธิบายให้หายข้อง
จึงคาดหวังพวกพ้องเพื่อนน้องพี่
ช่วยไขขานคำตอบมอบไมตรี
เผื่อเรานี้ถูกใจให้รางวัล ๚ะ๛