29 พฤศจิกายน 2549 08:50 น.
อัลมิตรา
..๏ หลากใบไม้ร่วงหล่นบนทางเถื่อน
หยดเลือดเปื้อนเห็นทั่วหวาดกลัวหนอ
โรงเรียนร้างไร้เสียงนักเรียนคลอ
ภัยเกิดก่อจากไหนใครทบทวน ?
" ต่างศรัทธานั่นไง "..บางใครอ้าง
มิกระจ่างคำตอบจึงสอบสวน
แต่ละศาสตร์คำสอนย้อนใคร่ครวญ
ทุกศาสน์ล้วนตอกย้ำกระทำดี
" เกมการเมืองฉ้อฉล "..บางคนเอ่ย
ซ้ำเปรียบเปรยรัฐบาลยุคนั้นนี่
ไฟลุกลามถังแดงหลักแหล่งมี
รอยแผลนี้ผ่านวันมิบรรเทา
" ต้องการแยกดินแดน ".. บ้างแค่นรู้
ความเป็นอยู่,ความคิดผิดแผกเหล่า
ใครข้ามถิ่นจำไว้ข้าฯ ไม่เอา
หากเฉียดเงาระวังไว้ข้าฯ ใคร่เตือน
" ยามสงบ-งบไม่มี " เท่าที่เห็น
สร้างประเด็นฆ่าฟันกันกลาดเกลื่อน
บ้างอวดรู้ช่ำชองแต่สมองเลือน
บ้างบิดเบือนโทษซัดให้รัฐบาล
ทั้งหมดคือสนามแห่งความคิด
อาจถูก-ผิดตามใจปากใครขาน
แผ่นดินใต้จะรุ่มร้อนย้อนตำนาน
หรือสราญสุขสดใสไทยยินดี
คงขึ้นอยู่กับหัวใจไทยทั้งชาติ
ขับไล่ความวิปลาส,ความบัดสี
ไม่ว่าพุทธมุสลิมยิ้มไมตรี
สุขปรองดองร่วมปฐพีจากนี้ไป ๚ะ๛
23 พฤศจิกายน 2549 11:45 น.
อัลมิตรา
..๏ นั่งกังวลบนคานก็นานแล้ว
คงไร้แววมีคู่จะสู่สม
สาวรุ่นใหญ่หน้าใสแต่ใจตรม
ปราศชู้ชมนอนเดี่ยวเปลี่ยวเอกา
มองตัวเองทุกทีไม่ขี้เหร่
หุ่นก็เท่ห์เอวองค์ทรงหรูหรา
หัวใจเอ๋ยกลัดกลุ้มหนุ่มไม่มา
อนิจจาทำอย่างไรใครช่วยที
ทั้งบนบานศาลกล่าวเอาทุกอย่าง
หนุ่มยังห่างมองเมินซ้ำเดินหนี
สิบแปดฝนสิบแปดหนาวร้าวฤดี
เพราะไม่มีชายเหลือบแล เฮ้อ ! ..แย่จัง ๚ะ๛
21 พฤศจิกายน 2549 07:39 น.
อัลมิตรา
๏ เลิศล้ำด้วยความแท้......ต่างกันแค่พุทธศิลป์ทรง
แฝงความงามสูงส่ง..........ยิ่งดำรงคงนิรันดร์
เบื้องหน้าพุทธพักตร์.........ยิ่งประจักษ์ซึ่งคุณธรรม์
ลึกซึ้งอย่างสำคัญ............ปรากฎพลันพร้อมปัญญา ฯ
๏ ก่อนงามด้วยงานศิลป์...เกิดแต่ดินในคงคา
เลือกเฟ้นอย่างรู้ค่า..........แยกออกมาซึ่งหินทราย
ขึ้นรูปเป็นโครงร่าง..........สองมือช่างอย่างมุ่งหมาย
ซึ่งปั้นด้วยแรงกาย...........น้อมถวายอย่างสมควร ฯ
๏ มองเห็นซึ่งบางสิ่ง.........เพ่งความจริงในบางส่วน
พุทธลักษณะถ้วน............ทุกสิ่งล้วนพิสุทธิ์ศรี
จากเงินทองผ่องพรรณ....ล้วนสำคัญด้วยความดี
เหรียญหลากอันมากมี.....ด้วยใจที่พร้อมบูชา ฯ
๏ นวโลหะครบครัน..........ซึ่งคัดสรรด้วยศรัทธา
หลอมรวมในพริบตา........เป็นประติมากรรมงามนัก
ขัดแต่งด้วยแรงใจ............ด้วยตะไบทั้งเบาหนัก
จิตน้อมทั้งพร้อมภักดิ์.......จึ่งประจักษ์เป็นองค์งาม ฯ
๏ ปิดทองทั้งล่องชาด.........ล้ำพิลาสทุกย่ำยาม
เพ่งแล้วบังเกิดความ........สุขสงบพบความจริง
บูชาด้วยอามิส..................แล้วน้อมจิตเข้าอ้างอิง
สัจธรรมในความนิ่ง......... เห็นบางสิ่งปรากฏมี ฯ
๏ อยู่เย็นเป็นความสุข......พบความทุกข์อย่าถอยหนี
พุทธธรรมนำชีวี...............ทุกวิถีต้องพบพาน
ปัญญาหาเหตุผล.............จักนำตนเกษมศานต์
รู้เท่าทันเหตุการณ์.......... ด้านสุจริตคิดเมตตา ฯ
๏ ก่อนงามต้องช้ำเป็น.......จึงจักเห็นความโสภา
ก่อนสุขต้องทุกข์มา...........จึงรู้ค่าไม่ลืมตัว
ก่อนกล้าต้องไหวหวั่น........จึงรู้ทันยามหวาดกลัว
ก่อนสูงต้องต่ำตัว...............จึ่งประสบพบสัจธรรม ๚ะ๛
15 พฤศจิกายน 2549 16:21 น.
อัลมิตรา
..๏ ใช่ปิดกั้นแต่เลือกมิเกลือกกลั้ว
ใช่ปิดตัวกักตนกับคนไหน
ใช่ซึมเศร้าหมองหม่นกังวลใจ
บางเรื่องราวเผยได้ไม่ปิดบัง
เราเป็นมิตรหรือศัตรูต่างรู้ดี
หากคลุกคลีชิดใกล้ใคร่ครวญหยั่ง
เชิญสัมผัสด้วยใจในรัก-ชัง
อย่าพลาดพลั้งนัยเลศเจตนา
ความยุติธรรมเยี่ยงนี้ยินดีให้
ฉันคือใคร ? เปิดจิตปิดปัญหา
อีกเบื้องลึก-เบื้องหลังทั้งกิริยา
พิจารณาจริง-เท็จเบ็ดเสร็จทวน
พร้อมยินยอมน้อมรับสิ่งกลับกลาย
ไมตรีเพิ่มหรือคล้ายสูญหายถ้วน
โปรดพินิจกันไปแล้วใคร่ครวญ
ครบกระบวนเสร็จสิ้นตัดสินใจ ๚ะ๛
12 พฤศจิกายน 2549 23:56 น.
อัลมิตรา
คืนนี้คุณรู้สึกถึงความรักบ้างไหม ? ..
กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘
๏ ยินยอมพร้อมใจ
หมายมั่นฝันใฝ่...........อย่างไร้ทุกข์ตรม
คืนผันวันผ่าน-............ฤดูกาลนานนม
ครั้นสิ้นขื่นขม..............รื่นรมย์สุขสันต์
๏ อันโลกธรรมมี
เกลือกกลั้วชั่วดี..........มากมีสารพัน
รู้ความแตกต่าง...........อยู่อย่างเท่าทัน
ขจัดเศร้าโศกศัลย์......จักพลันเปรมปรีดิ์
๏ ในห้วงเวลา
เปี่ยมด้วยสิเนหา..........ปรารถนาหวังดี
พรั่งพร้อมในจิต............ดั่งสถิตทุกที่
ไร้ซึ่งปรัศนีย์.................ไม่มีเล่ห์ลวง
๏ ดั่งด้วยยุทธการ
อันเผชิญเนิ่นนาน........ร้าวรานทั้งปวง
จงมลายหายสิ้น...........ยลยินความห่วง
ขออยู่คู่ควง...................ตราบห้วงรัตติกาล
๏ โอ้ยอดดวงหทัย
รู้บ้างหรือไร..................ห่วงใยเกินประมาณ
สายใยไอรัก.................ที่ประจักษ์เนิ่นนาน
ยามดาวพราวตระการ...จันทร์ที่พร้อมมูล ?
๏ แท้จริงสิ่งสรรพ์
ยั่งยืนนิจนิรันดร์.............เสมอมั่นทวีคูณ
รักแจ้งประจักษ์ใจ.........บ่คลายมลายสูญ
ยังเอื้อเกื้อกูล................เพิ่มพูนในใจ
๏ เคยท่องพเนจร
พบสุขทุกข์ร้อน.............เร่ร่อนแรมไกล
ล้วนต่างเพียงพอ..........ไม่ท้อสิ่งใด
ด้วยยังฝันใฝ่.................สุขในดวงกมล
๏ โอ้ยอดชีวัน
ได้แจ้งใจพลัน..............รักอันเปี่ยมล้น
ทั้งความห่วงใย............เข้าใจบัดดล
พร้อมด้วยเหตุผล.........ตราบพ้นค่ำคืน
๏ ดั่งองค์ราชันย์
ยาจกหนึ่งนั้น................ต่างกันเป็นอื่น
หากน้อมพร้อมรัก.........ล้วนจักสดชื่น
ตลอดวันผ่านคืน...........แช่มชื่นรื่นรมย์
๏ ด้วยจิตศรัทธา
มุ่งมาดปรารถนา..........ครั้งคราเหมาะสม
ยึดถือสุจริต-..................ธรรมคิดนิยม
อันความทุกข์ระทม.......ดั่งลมแผ่วพลัน
๏ พ้นช่วงยุคสมัย
เสมือนเรียนรู้ใจ............เปลี่ยนไปเช่นนั้น
รักโลภโกรธหลง...........บ้างคงจาบัลย์
สุขทุกข์เคล้ากัน............เนื่องวันเวลา
๏ เป็นภาพปรากฏ
เช่นการกำหนด.............เช่นบทนำพา
ดำเนินบทบาท..............แม้นมาตรปรารถนา
เช่นเครื่องพันธนา-........การมาผูกตน
๏ แล้วต้องเป็นไป
เกินการฝันใฝ่................เข้าใจเหตุผล
สมหวังพลั้งพลาด..........ล้วนประหลาดชอบกล
ให้ติดวังวน.....................หลงตนลืมตัว
๏ โปรดสดับรับฟัง
บทกวีพร้อมพรั่ง...........ซึ่งกังวานทั่ว
แม้นคราวทุกข์ใจ.........แม้ใจหวาดกลัว
โศกศัลย์พันพัว............อย่ามัวร้าวระทม
๏ สัจธรรมความจริง
รับรู้สรรพสิ่ง.................อ้างอิงเหมาะสม
เป็นโลกธรรมแท้..........ผันแปรดั่งลม
ด้วยธรรมนิยม..............อย่าตรมตรอมเลย
๏ สดับเสียงหัวใจ
แห่งผู้ยากไร้................อย่าได้เมินเฉย
แท้ยิ่งจริงใจ.................ห่วงใยเช่นเคย
คือสิ่งเปิดเผย..............เอื้อนเอ่ยแทนคำ
๏ แว่วเป็นทำนอง
สำเนียงเสียงพ้อง........คล้องจองวรรณกรรม
ฤๅเช่นเป็นไป..............ดั่งใจงามขำ ?
ว่ายังคงย้ำ...................น้ำใจไมตรี ?
๏ โอ้ยอดดวงหทัย
รู้บ้างหรือไร..................ห่วงใยทบทวี
สายใยไอรัก.................ยังประจักษ์ด้วยดี
ยามดาวพราวมณี........จันทร์ที่พร้อมมูล ?
๏ แท้จริงสิ่งสรรพ์
ยั่งยืนนิจนิรันดร์.............เสมอมั่นทวีคูณ
รักแจ้งประจักษ์ใจ........บ่คลายมลายสูญ
ยังเอื้อเกื้อกูล................เพิ่มพูนในใจ
๏ เคยท่องพเนจร
พบสุขทุกข์ร้อน.............เร่ร่อนแรมไกล
ล้วนต่างเพียงพอ..........ไม่ท้อสิ่งใด
ด้วยยังฝันใฝ่.................สุขในดวงกมล
๏ โอ้ยอดชีวัน
ได้แจ้งใจพลัน...............รักอันเปี่ยมล้น
ทั้งความห่วงใย.............เข้าใจบัดดล
พร้อมด้วยเหตุผล..........ตราบพ้นค่ำคืน
๏ ดั่งองค์ราชันย์
ยาจกหนึ่งนั้น................ต่างกันเป็นอื่น
หากน้อมพร้อมรัก.........ล้วนจักสดชื่น
ตลอดวันผ่านคืน...........แช่มชื่นรื่นรมย์
๏ โอ้ยอดจอมขวัญ
พรรณนาสารพัน............รักนั้นเปี่ยมล้น
ทั้งยิ่งห่วงใย...................มากในดวงกมล
ล้วนเป็นเหตุผล..............ตราบพ้นศศิธร
๏ ดั่งองค์ราชา
ยาจกอนาถา..................ต่างฐานันดร
หากน้อมพร้อมภักดิ์......ด้วยรักสถาพร
ตราบสิ้นศศิธร.................ก่อนไร้เรืองรวี ๚ะ๛
อ ย า ก ใ ห้ เ จ้ า รู้ ว่ า . . . ยั ง แ ส น ห่ ว ง ใ ย
อ ย า ก ใ ห้ เ จ้ า เ ข้ า ใ จ ว่ า . . . ข้ า ฯ ยั ง ห วั ง ดี
ใ น ห้ ว ง แ ห่ ง ย า ม ร า ต รี
โ อ้ ค น ดี . . . รู้ ซึ้ ง ถึ ง สิ่ ง เ ห ล่ า นี้ . . . บ้ า ง ไ ห ม ?