22 ธันวาคม 2549 13:02 น.
อัลมิตรา
..๏ มีตัวเลขชวนคิดน่าพิศวง
หนึ่งถึงเก้าวางลงอย่าสงสัย
แต่ละช่องแต่ละแถวเรียงแนวไป
หากกรอกใส่ถูกที่มีรางวัล
อย่าให้ขาดหรือซ้ำเราย้ำกล่าว
เชิญหนุ่ม/สาวทั้งผองประลองสรรค์
จะเด็กเล็ก/เฒ่าชราไม่ว่ากัน
สมองตันจะได้โปร่งโล่งสบาย
ทั้งแนวตั้ง/แนวตรง/ทรงทแยง
เลขสีแดงวางล่อส่อความหมาย
แม้นประมาทเผลอพลาดอาจเสียดาย
แท้เกมคล้ายหลุมพรางช่างวิงเวียน
จงทำตัวตามสบายหากใคร่ตอบ
เราจะมอบของรักแด่นักเขียน
แต่จะต้องถูกถ้วนอย่าจวนเจียน
แพ้ถูกเจี๊ยนดีไหมยั่วให้ลอง ๚ะ๛
20 ธันวาคม 2549 14:20 น.
อัลมิตรา
..๏ เรือลำน้อยลอยคว้างอยู่กลางน้ำ
ถูกพายุโหมกระหน่ำซ้ำคลื่นเข่น
คนโดยสารเปียกปอนตอนน้ำกระเซ็น
บ้างหลีกเร้นหลบหลังกำบังกาย
ซึ่งบางคนผดุงการณ์ด้านกอปรกิจ
วางแผนคิดกรณีที่มั่นหมาย
ครั้นถึงฝั่งรีบกระโจนจนวุ่นวาย
ด้วยคนพายส่งฝั่งดั่งใจปอง
เมื่อถึงฝั่งต่างรีบเท้าถีบส่ง
คนพาย งง !! ..เหตุไฉน ไยสนอง
ท่านเร่งร้อนก่อนใครไม่หวนมอง
ฤๅเพียงจ้องลงเรือเผื่อให้จำ ? ..
คล้ายคำถามแทงใจให้หันขวับ
บุญไม่รับหน้าบึ้งปราศซึ่งขำ
วางมาดเหมือนนักเลงเบ่งกระทำ
พูดซ้ำซ้ำ"..ซวยเพราะใคร...ให้เอ็งคิด !!..
โอ้เขาไม่สำเหนียกว่าเปียกทั่ว
จึงด่ามั่วราวกับคับแค้นจิต
เหวี่ยงอารมณ์ระบายใส่ไม่พินิจ
เพราะหงุดหงิดจากฟ้าฝนสับสนใจ
คนพายเรือลอบพร่ำยามงานจบ
จะต้องพบคนงี่เง่าอีกเท่าไหร่
คุณความดีสัมพันธ์สำคัญใด
ยามสมมาตรตวาดไล่ ..เร่งไสเรือ..
เรา..คนเรือแต่งกลอนยอกย้อนกล
อาจวกวนอ่านไปให้ยากเชื่อ
แม้นว่าใครมีจิตคิดจุนเจือ
เศษเหรียญเหลือหย่อนหน่อยพลอยยินดี
นิทานเราขมวดไว้ชวนให้คิด
อันน้ำมิตรที่บางคนบอกล้นปรี่
อาจซุกซ่อนเงื่อนงำแสร้งทำดี
เผลอเป็นตี / แทงซ้ำ / ลอบทำร้าย
ศูนย์ประโยชน์โทษเบาก็เท่าฟ้า
เคยมากค่าปรากฏก็หดหาย
กระทั่งปราศเพื่อนสนิทประชิดกาย
ถึงที่หมายเขาฤๅจำน้ำใจเรา
ชะตาเราคงคล้ายคนพายเรือ
ดีไม่เหลือสักนิดความคิดเขา
เมื่อปลงได้เช่นนั้นก็บรรเทา
อันความเศร้าทิ้งหมดพร้อมอดทน ๚ะ๛
18 ธันวาคม 2549 15:20 น.
อัลมิตรา
..๏ ให้มันแล้วแล้วไปอย่าไปคิด
อย่าฝังจิตยึดผลความหม่นหมอง
ประสบการณ์ชอกช้ำอย่าจำจอง
อย่าเกี่ยวข้องสิ่งระทมจะตรมใจ
จงยิ้มร่าหน้าเงยดั่งเย้ยฟ้า
ทำจนกว่าปรากฏความสดใส
อย่ามัวแต่ปวดปร่าพร่ำอาลัย
เถอะ !..ลบเลือนบางใครอย่าไปจำ
ผ่านมาแล้วแล้วไปหัวใจเจ็บ
ที่หนาวเหน็บทุกข์ทนคนเหยียบย่ำ
เพียงพายุบุกโหมโรมกระทำ
ครู่เดียวช้ำลมแผ่วลงก็ทรงตัว
ควรยืนหยัดกล้าแกร่งด้วยแรงตน
แม้นเมฆฝนครึ้มดำทำฟ้าสลัว
ครองสติมั่นไว้อย่าได้กลัว
พายุชั่วกระแทกกระทั้นแล้วกันไป ๚ะ๛
15 ธันวาคม 2549 12:42 น.
อัลมิตรา
..๏ เมื่อถึงจุดแตกหักความรักจบ
ยามติดลบหัวใจฉันไร้ค่า
กระทั่งเธอเผลอพลั้งหยั่งวาจา
ควรคบหาต่อไปทำไมกัน ?
เธอเอาความวางใจไปล้อเล่น
แล้วพูดเน้นซ้ำซ้ำตอกย้ำฉัน
อารมณ์หวานผ่านไปในสัมพันธ์
สูญสำคัญทั้งสิ้นด้วยลิ้นเธอ
ฉันปราศสิ่งอธิบายขยายความ
แม้นถูกถามอย่างไรก็ไม่เสนอ
ความรักที่มากล้นเคยปรนเปรอ
อยากบอกเธอถึงจุดสิ้นสุดลง
ต่อแต่นี้อิสระคนละทาง
ฉันปล่อยวางเรื่องกลุ้มไม่ลุ่มหลง
รักเธอ เพื่ออะไร ? ให้คิดปลง
จำจากกรงหัวใจโดยไม่คืน ๚ะ๛
15 ธันวาคม 2549 00:15 น.
อัลมิตรา
๏ กายพองลองเบ่งบ้า.......บารมี
ยามเมื่อใครราวี................บ่สะดุ้ง
ปากเปรยเอ่ยวาที............. จงขยาด เรานอ
เราจักใหญ่คับถุ้ง...............กว่าถั้น แหง๋แหง๋ ๚
๏ ปากขยับพลางเขยิบทั้ง...พองตน
แสนทะมัดทะแมงจน..........สั่นสะท้าน
จงสยิวจึ่งสยบฉงน.............ตามถนัด อิ! อิ!
เราใช่ดัดจริตจ้าน...............อึ่งน้อยจอมคะนอง ๚
๏ ใครใหญ่ใครอยู่ยั้ง...........ยืนยง
ใครเท่ห์ใครทะนง...............แน่แท้ ?
ใครขยาดอาจสยบคง..........ถูกกระทบ- กระทั่งเฮย
เป็นอึ่งองอาจแล้..................ทะลึ่งท้าพญากระทิง ๚
๏ โคลงเบ่งจนทุ่งสะท้าน.....นาสะเทือน
ใครเขม่นโปรดตักเตือน.......อึ่งน้อย
เพียงสนุกซุกซนเเสมือน......มาแหย่ พุงพี่
จงอย่าคิดกระทืบข้อย...........เท่านี้สบายแแฮ ๚ะ๛