25 สิงหาคม 2550 22:47 น.
อัลมิตรา
ผู้รอคอย.. ค่ำคืนที่เหมือนฝันพระจันทร์เยือน
ความลางเลือนก็กลายใสกระจ่าง
ณ ฟากฟ้ามากดาวพราวร่วมทาง
กระพริบพร่างล้อมเดือนเหมือนเคยเป็น
ผู้เยี่ยมเยือน.. ยามที่ฟ้าดารดาษดาวไสว
คิดถึงคนของใจใคร่อยากเห็น
มาเยือนเจ้าเคล้าคลอล้อจันทร์เพ็ญ
ความสุขเช่นวันก่อนอยากย้อนคืน
ผู้รอคอย.. คราวจันทร์หายคล้ายว่ามาห่างเหิน
ฤๅ เพลิดเพลินดาวใดใจแช่มชื่น
แม้นจันทร์ลืมเรื่องราวคราววานซืน
ความขมขื่นคงเกินสะกดรันทดใด
ผู้เยี่ยมเยือน.. ใช่พระจันทร์ผันกระแสมิแลเจ้า
ความจริงเฝ้าเคียงข้างดั่งชิดใกล้
คอยแอบมองทุกครามิลาไกล
เพียงแต่ไร้ถ้อยคารมภิรมย์มา
ผู้รอคอย.. เหมือนลำพังท่ามโศกบนโลกกว้าง
ความอ้างว้างทำใจให้โหยหา
นึกประหวั่นพระจันทร์ลืมสัญญา
จากหาญกล้าก็เริ่มโรยระโหยแรง
ผู้เยี่ยมเยือน.. คำสัญญายังปลาบปลื้มหาลืมไม่
ที่กล่าวมาจากใจใช่แอบแฝง
สัญญาคือสัญญาหาเปลี่ยนแปลง
ปราศเสแสร้งหมายให้ใจเจ้าตรม
ผู้รอคอย.. พระจันทร์เอยพระจันทร์อย่าผันผวน
หากแปรปรวนคงทำให้ใจขื่นขม
อย่าเพียงหว่านพรรณนาค่าแล้งลม
หลอกชื่นชมแล้วลาไกลไปอีกนาน
ผู้เยี่ยมเยือน.. จันทร์จะสถิตสนิทในหทัยเจ้า
คงแนบเนาว์ตราบสิ้นชีวินสถาน
จะกี่ภพกี่ภาคกี่กัปล์กาล
ถ้อยสาบานคำสัญญายังค่าเดิม
23 สิงหาคม 2550 17:29 น.
อัลมิตรา
๏ คำสารภาพจากใจบอกไปแล้ว
แต่ปราศแววรักคืนชื่นสุขสม
ฉันยอมรับสภาวะความระทม
เชิญแค่นข่มเยาะเย้ยฉันเคยชิน
ความอดสูสู้ทนไม่บ่นคำ
เฝ้าเก็บงำแม้ใครใคร่ติฉิน
สักคำน้อยก็มิเพ้อให้เธอยิน
เปล่าพลิกลิ้นลูกแกะกุเรื่องราว
ขอยืนยันสภาพฉันแสนรันทด
เปล่าโป้ปดยึดยื้อให้อื้อฉาว
หรืออยากเด่นอยากดังสร้างข่าวคาว
ความแตกร้าวยากกู้ฉันรู้ดี
ฉันเพียงแค่คิดคำรำพันถ้อย
นับวันคอยรักคืนชื่นสุขี
แต่หนทางลางเลือนเหมือนไม่มี
เปรียบฉันนี้เลี้ยงแกะเธอแขวะคำ
เพราะว่าสายสัมพันธ์สะบั้นขาด
และไม่อาจหวนคืนให้ชื่นฉ่ำ
ไม่เหลือแม้เสี้ยวหนึ่งพึงจดจำ
เธอคงขำที่ฉันเขียนบรรยาย
ทั้งที่รู้ยังอุตส่าห์สารภาพ
หวังเธอทราบความจริงก่อนจะสาย
ถึงฉันไม่สมมาตรปราศเสียดาย
ยามวางวายใจคงสุขสงบนิรันดร์ ๚ะ๛
22 สิงหาคม 2550 17:44 น.
อัลมิตรา
๏ จะสารภาพความหลังอยากฟังไหม ?
หากฟังโปรดทำใจอย่าไหวหวั่น
เพราะมีเรื่องมาบอกไม่หลอกกัน
รักคราวนั้นฝังใจ...ลืมไม่ลง
ปากเสแสร้งแข็งขืนยืนยันหัก
บอก "- ไม่รัก -" แท้ใจสุดใหลหลง
ทนกล้ำกลืนระทมจิตใกล้ปลิดปลง
ฝืนทระนง...แต่ทว่า...แสนล้าแรง
สุขสูญสิ้นตั้งแต่วันตัดขาด
แต่บังอาจแสดงตน "- คนกล้าแกร่ง -"
ถึงใครคิดห้ามปรามหยามตะแบง
ซ้ำปากแข็งเยาะไปสบายดี
ความจริงแสนทรมานร้าวรานจิต
เหมือนชีวิตหมองหม่นบนวิถี
ความรักเอยกลับกลายคล้ายไม่มี
ทุกวันนี้ขอบอกชอกช้ำใจ
ยังมีอีกหนึ่งอย่างอยากให้รู้
โปรดฟังดูสักนิดอย่าคิดไล่
ฉัน...คนที่ปวดปร่าทุกข์กว่าใคร
สารภาพไว้เผื่อประจักษ์.."- ฉันรักเธอ -" ๚ะ๛
16 สิงหาคม 2550 16:01 น.
อัลมิตรา
๏ หากว่าเขาเข้าใจในรู้สึก
มิใช่นึกติดลบจบความหมาย
คงไม่เที่ยวพูดพร่ำบ่อนทำลาย
ความเสียดายอาจมีไมตรีเรา
แต่นี่เขาอคติคิดผิดแผก
จนดูแปลกเปลี่ยนไปไม่เหมือนเก่า
คอยระแวงทุกครั้งกระทั่งเงา
ซ้ำยังเฝ้ามุ่งร้ายหมายฆ่าฟัน
เรามิหวังให้เขาเข้าใจอีก
จึงหลบหลีกทว่าใจก็ไม่หวั่น
ไมตรีเคยปรากฏหมดสิ้นพลัน
ไร้ซึ่งวันหวนคืนราบรื่นใด
ตัดสัมพันธ์อยู่ห่างเส้นทางเกี่ยว
ยอมดายเดียวดีกว่าหาเรื่องใส่
เขาจะพูดจะพล่ามทำอะไร
ปล่อยเขาไปตามยถามิราวี
แม้ไม่เหลือผู้ใดเข้าใจจิต
ปัจญมิตรใส่ไคล้ให้บัดสี
อันตัวตนของเรา....เรารู้ดี
ใช่เขานี้ซึ้งฌานวิญญาณเรา ๚ะ๛
10 สิงหาคม 2550 20:55 น.
อัลมิตรา
๏ งดงามตามแต่งฟ้า........ฟากสวรรค์
แสนสุดโสภาพรรณ...........เพริศแพร้ว
พราวพรายพร่างอัศจรรย์...เจิดจรัส
เลอเลิศปานเก็จแก้ว.........เกลื่อนฟ้ามหาศาล ฯ
๏ แสนสลดยามเจ้าร่วง......ลงดิน
สิ้นรัศมีโศภิณ...................สว่างนั้น
สูงเด่นสู่ธรณิน..................อย่างสงบ สงัดเฮย
จึงแต่เพียงอดกลั้น............โศกเศร้าถวิลหา ฯ
๏ ดวงดาวรายร่วงแล้ว.......เรียมเอย
บางสิ่งก็เกินเปรย..............สะกดไว้
เราโดดเดี่ยวดั่งเคย...........หมอง จิต
เฉกเช่นคนยากไร้.............ปราศผู้เล็งเห็น ฯ
๏ รัตติกาลยังเจิดจ้า..........นภาพราว
ดาวเด่นส่องแสงวาว....... ..ระรื่นแล้
หากแต่อกเราราว........... ..ระทมอยู่
คงเพราะขาดมิตรแท้...... ..จึงให้กำสรวล ๚ะ๛