17 พฤศจิกายน 2551 20:54 น.
อัลมิตรา
๏ ความผิดหวังครั้งก่อนตอนรักลับ
ฉันสดับซาบซึ้งหนึ่งความหมาย
"รักตราบสิ้นดินฟ้าชีวาวาย"
แค่นิยายตลบแตลงเสแสร้งทำ
ค่อยค่อยจูบลูบไล้อิงไออุ่น
กลอนบทคุ้นเธอเสนอดุจเพ้อพร่ำ
ทุกนัยแนวนั้นล้วนใคร่ควรจำ
ฉันโง่งมดื่มด่ำหลงคำเปรย
กระทั่งกาลผ่านผันจวบวันนี้
นิยายที่พริ้งเพริศถูกเปิดเผย
ร่างซาตานมารร้ายกายคุ้นเคย
ที่เอื้อนเอ่ยทั้งปวงแท้ลวงใจ
"รักคงมั่นตราบสิ้นจวบดินฟ้า"
ถ้อยวิจิตรภาษาคราขานไข
เธอฝากพจน์งดงามนิยามนัย
แต่เชื่อได้ ฤๅ นั่น.. ฉันรู้ดี ๚ะ๛
13 พฤศจิกายน 2551 21:08 น.
อัลมิตรา
๏ หน้ากากดูหรูหราคราพกแขวน
ชาวชนแคว้นสงสัยใคร่ค้นหา
บ้างซุบซิบ/เอ็ดอึง..ถึงที่มา
บ้างสมมุติอุปมานานาเป็น
หากซุบซิบหยิบโย่งแล้วโยงเรื่อง
คงเปล่าเปลืองการใดในความเห็น
หากเอ็ดอึงประหนึ่งว่าหาประเด็น
คงเฉกเช่นกวนใจในเหตุการณ์
สวมหน้ากากหลากหลายนิยายยก
ใครอยากถกสารพันปัญหาผ่าน
ก่อนตัดสินนินทาเหมือนพาพาล
ก่อนวิจารณ์ถูกผิด .. คิดให้ดี
อย่าเอนเอียงเยี่ยงอย่างแลข้างเดียว
ทุกข้องเกี่ยวกระทบผลบนวิถี
ความจะแจ้งแจ่มชัดปัจจัยมี
ก่อนบ่งชี้ระบุโทษ ..โปรดไตร่ตรอง
ด่วนสรุปเร็วไปโดยไม่คิด
ปะเหมาะผิดขึ้นมาอุราหมอง
เพราะบางสิ่งยิ่งกว่าสายตามอง
แค่จับต้อง ฤๅ สืบได้หัวใจคน
หน้ากากดูหรูหราคราพกแขวน
สาหัสแสนซ่อนไว้ใครเห็นผล ?
หากอยากเดาเล่าเล่นหลอกเร้นกล
ท่านจักค้นหน้ากาก .. ลำบากไย ?
12 พฤศจิกายน 2551 17:07 น.
อัลมิตรา
เดือนพฤศจิกาครานี้ไม่มีรัก
เพราะอกหักจึงทนมิบ่นหนาว
ปราศสะสมปมเขื่องทุกเรื่องราว
แม้ปวดร้าวคราวฝนผ่านพ้นฤดู
ทนเหน็บหนาวคราวนี้อาจดีกว่า
คร่ำครวญหาบางใครให้อดสู
แค่น้ำตาบางครั้งหลั่งพรั่งพรู
เพียงชั่วครู่จากนั้นก็บรรเทา
เมื่อรักลับคลับคล้ายคนดายเดียว
จนบางเสี้ยวอารมณ์พร่างพรมเหงา
ฉันเขียนกลอนปรุงแปลงแต่งแต้มเงา
กลบเกลื่อนเศร้ายิ้มละมุนเฉกคุ้นเคย
โ อ้ ! ปลายฝนต้นหนาวฉันร้าวแล้ว
เพียงลมแผ่วพัดผ่านทรมานเหวย
ขาดคู่เคียงพร่ำพลอดก่ายกอดเกย
หนาวนักเอยยิ่งกว่าหนาวคราใด
4 พฤศจิกายน 2551 21:08 น.
อัลมิตรา
๏ ถ้าปู่ย่าตายายอยากคลายเหงา
ลูกหลานเล่าธุระปะปังหลาย
ปราศเวลาเศษเสี้ยวเหลียวแลกาย
อาจเบื่อหน่ายคนแก่ยักแย่ยัน
เมื่อลูกหลานพาลระอาไม่พาเที่ยว
จนห่อเหี่ยวเปลี่ยวจิตคิดอัดอั้น
อยากอาสาพาไปในบางวัน
ถ้าหากฉันงานว่างในบางที
อยากไปวัดจัดให้โดยไม่เกี่ยง
ถวายเพลเลี้ยงสร้างกุศลบนวิถี
เป็นชาวพุทธฟังธรรมกระทำดี
บรรดาเฒ่าเปรมปรีดิ์ฉันดีใจ
หากอยากขยับแข้งขาจะพาเดิน
ผ่อนจิตเพลินสุขอุรายามฟ้าใส
ฟังนกพากย์ภิรมย์ชมพฤกษ์ไพร
จินตนาการใดแจ่มจรัสฉันจัดการ
หรืออยากไปโหวกเวกเฉกวัยรุ่น
นั่งม้าหมุนร็อคแอนด์โรลโชว์วัยซ่าน
กรี๊ดไวกิ้งดิ่งรถไฟให้เบิกบาน
เรื่องสำราญฉันถนัดพร้อมจัดแจง
อยากเที่ยวไหนพาไปไม่ขัดข้อง
เพียงแต่ต้องอย่าเล่ห์อย่าเสแสร้ง
อย่าเจ้ายศเจ้าอย่างกร่างสำแดง
อย่าแอบแฝงหมายสนิทเพื่อคิดร้าย
เรียนปู่ย่าตาตายทั้งหลายแหล่
ฉันพูดแท้นิยามสัตย์ความหมาย
หากลูกหลานทอดทิ้งแถมนิ่งดาย
ท่านทั่งหลายอย่าเศร้าเหงาลำพัง
เถิดปล่อยใจให้ลอยละล่องลิ่ว
อย่าหน้านิ่วทุกข์ตรมจมความหลัง
ปลายชีวิตคิดสุข...ย่อมสุขจัง
ดีกว่านั่งเดียวดายเหมือนใครเมิน ๚ะ๛
3 ตุลาคม 2551 10:36 น.
อัลมิตรา
๏ เมื่อถูกถามความเห็นดุจเข่นฆ่า
อหังการ์จอมกร่างอึ่งอ่างใหญ่
ซัดจอมโวนักตอกด้วยศอกไป
ควงเท้าใส่อีกหนบนโทสะ
สัมภาษณ์ดีไม่ได้ยวนให้เครียด
สำเนียงเหยียดยั่วเย้ยเกินเฉยล่ะ
เหน็บล่วงเกินเชิญไปทำไมวะ
เลียลามปากเปรยฉะ ฤๅ ละเว้น
อึ่งอ่างกร่างเกรียวกราวข่าวฉาวโฉ่
เพราะโมโหนักตอกตื้อหยอกเข่น
กลายเป็นเรื่องลุกลามพล่ามประเด็น
ความคิดเห็นต่างแสดงขัดแย้งกัน
บ้างโยนผิดอื้ออึงโทษอึ่งอ่าง
บ้างเข้าข้างขึ้งล้วนควรผ่อนผัน
บ้างบอกสื่อเสื่อมค่าจรรยาบรรณ
บ้างเชียร์มันส์มาดสวยมวยคะนอง
เรื่องโจษจันจากปากจึงลามเหตุ
ชาวประเทศควรหยั่งคนทั้งสอง
ใคร..ผิดถูกถกเถียงตามไตร่ตรอง
ใคร..ผุดผ่องงามจริต..วานคิดที ๚ะ๛