9 ธันวาคม 2552 06:50 น.
อัลมิตรา
๏ รูปธรรมนำจิตให้...... ตรึงตรา
ทุกผัสสะเสมือนพา.......สุขสร้าง
นามธรรมเฉกอุปมา......ประดิษฐ์แต่ง
ตัวอย่างโคลงเราอ้าง.....ฟากฟ้าทะเลฝัน
๏ เพราะใจมิเสื่อมสิ้น....ตามกาล
จึงเริ่มวางแผนการ........เลือกเฟ้น
ตั้งใจเพ่งผังกานท์.........ระเบียบแบบ
แล้วคิดคำค้นเค้น.........เพื่อให้สมประสงค์ ๚
๏ มวลหมอกลอยฟ่องฟ้า..ริ้วระบาย
แววเก็จแก้วมณีพราย......องสะท้อน
แว่วครืนคลื่นซัดทราย.....โครมสาด
วิหคกางปีกฟ้อน............โอบอุ้มมัจฉา ๚
๏ ตังเกจอดนิ่งคล้าย.......ต้องมนตร์
ปูถ่างขาเดินปน.............เปลือกคล้าย
แมลงปอลิ่วลมบน..........กระพือแข่ง
ทิ้งทากคืบรั้งท้าย..........คดเคี้ยวรอยถนน ๚
๏ กลิ่นเกลือเจือจมูกแกล้ม..อักษร
ยินเด็กหัวเราะตอน.........เล่นน้ำ
เนื้อตัวต่างเปียกปอน.......ชุ่มโชก
โดนแดดแผดจนคล้ำ.......คลับคล้ายลิงแสม ๚
๏ จิตรกรคราคิดสร้าง.......ภาพใด
เพียงพู่กันตวัดไป............แบบนี้
จินตกวีอยากสื่อนัย..........ตามจิต
เพียงเลือกอักษรชี้...........เสกถ้อยร้อยคำ ๚
๏ ตาบอดอิงภาพซึ้ง........นิมิต
หูหนวกเปล่งถูกผิด.........ย่อมได้
งานศิลป์เกิดจากจริต......คนสื่อ
ดีเลิศหรือบ้าใบ้..............ปราศเส้นขอบขวาง ๚
๏ ตราบเท่ายังมากล้น......ศิลป์กานท์
ตราบเท่าในสันดาน.........ระลึกรู้
ตราบเท่าอุดมการณ์........ก่อเกิด
หากจิตมิหลับคู้...............ย่อมซึ้งความหมาย๚ะ๛
3 ธันวาคม 2552 15:16 น.
อัลมิตรา
.
๏ ทุกข์ของเสือเมื่อฉาวเพราะข่าวโฉ่
เสือตัวโตครางหง่าวราวเสียขวัญ
คราวนางเสือสืบได้แถมไล่ทัน
เสือเสียงสั่นออกแนวแมวสิ้นลาย
เหตุเพราะกิ๊กพลิกโผดันโชว์สวาท
เสือบังอาจคลอเคลียจนเสียหาย
นางเสือตรวจหวดยับเฉียดจับตาย
เสือหน้าหงายเจอโจทก์ร้องโอดโอย
เสือผู้หญิงยิงให้ตายอย่าไปเลี้ยง
ส่องปืนเปรี้ยงสองนัดซัดห้อยโหย
แม้นไม่หนำขย้ำเขือเอาเกลือโรย
ฐานมีกิ๊กพริกโปรยแส้โบยตาม
หากไม่เข็ดเสร็จสรรพจับทำหมัน
หากไม่ยอมพร้อมหั่นสะบั้นง่าม
เมื่อเหี้ยนแล้วแล้วไปไม่สืบความ
อยากหื่นห่ามสาวไหนก็ไม่แคร์
วิบากกรรมธรรมดาประดาเสือ
เห็นจนเบื่อมากมายหลายกระแส
เขียนกลอนล้อเรื่องดังปราศรังแก
คล้ายตีแผ่แถวนี้เห็นมีตรึม ๚ะ๛
18 พฤศจิกายน 2552 21:29 น.
อัลมิตรา
๏ หากอัตตาพาเตลิดจนเกิดเหตุ
ก่ออาเพทลำบากยากสะสาง
บุคคลใดใช้ปัญญาอัตตาวาง
ย่อมกระจ่างทางแก้จริงแท้เทียว
หากคับแค้นแน่นอกพกเคืองขัด
บ่งบอกชัดเชื้อมนุษย์นั้นเศษเสี้ยว
บุคคลใดใช้คารมสร้างกลมเกลียว
ย่อมข้องเกี่ยวสมานฉันท์สัมพันธ์ชน
หากก่อกวนชวนทะเลาะเพาะคดี
ถ้อยอัปรีย์โปรยไว้หวังใครสน
บุคคลใดเยือกเย็นแม้นยินยล
ย่อมหลุดพ้นทุกข์ร้อนบั่นทอนใจ
หากระบายร้ายร่อนหย่อนคำหยาบ
ดุจซึมซาบกรรมพันธุ์ชั่วชั้นไหน
บุคคลเอื้อโอบอ้อมยอมให้อภัย
ย่อมเลิศกว่าอเวไนยซึ่งไกลธรรม ๚ะ๛
13 พฤศจิกายน 2552 22:46 น.
อัลมิตรา
๏ เหมือนม่านหมอกหลอกตาจนพาโศก
คล้ายอับโชคเส้นทางรักห่างเหิน
คราวที่ฟ้าเลือนลางหว่างดำเนิน
หากหลงเพลินเดินดุ่มอาจกลุ้มใจ
ม่านหมอกเมฆเฉกฉากหลากลดหลั่น
เปรียบอุปสรรคพรากกั้นรักหวั่นไหว
ยามฟ้าแจ้งย่อมกระจ่างหนทางไพร
หมายสิ่งใดควรคว้ามาครอบครอง
ผู้ยอมพ่ายหน่ายชะตาพารันทด
ประหนึ่งหมดพลังใจไม่สนอง
ปล่อยให้รักลับหายกลายทำนอง
ฤๅ ควรฟ้องโทษชะตามาแกล้งกัน
แม้นมิมุ่งมั่นหมายในความรัก
คราเจ็บหนักจะหวังใครไปปลอบขวัญ
เมื่อปราศร่องรอยใจให้ผูกพัน
เพียงหมอกกั้นนิดหน่อยพลอยระทม
อยู่ใต้ฟ้าเหมือนกันตะวันเดียว
คราวยากเหนี่ยวรักไว้ให้สุขสม
ดุจหมอกเคลื่อนเลื่อนไหลไปตามลม
สมควรข่มเถิดหนาอย่าอาลัย ๚ะ๛