11 เมษายน 2546 22:46 น.
อัลมิตรา
ในอ้อมกอดแห่งฝันฉันยังอยู่
ยังคงคู่เคียงเขาเป็นเงาสอง
โอบกระหวัดรัดกอดพลอดทำนอง
สติต้องยั้งมั่นเพราะหวั่นใจ
ด้วยวันนี้ไม่มีใครจะให้กอด
ยังพร่ำพรอดเพ้อครวญและหวลไห้
คิดถึงเขาคนนั้นที่อยู่ไกล
คนที่เก็บรักไปไม่คืนมา
ทุกวันนี้อยู่ไปอย่างไร้จิต
จะหาใครแนบชิดเสน่หา
ไม่เคยเหมือนรักเก่าที่เคยมา
จำต้องลาร้างไปไม่เนิ่นนาน
ในใจนี้รู้ไหมมีใครอยู่
คอยเฝ้าดูคอยซ้ำถ้อยคำหวาน
แม้จะร้างห่างไปนานแสนนาน
ไม่พบพานแต่ยังฝังในใจ
อยากจะร้องก้องไปให้ทั่วโลก
เอาใจโศกดวงนี้ไปไว้ไหน
หากไม่รักจะมาฝืนขืนไปไย
อย่ายื้อไว้ดั่งเป็นเช่นพันธนาการ
หรือจะรอจนสิ้นใจไปเสียก่อน
จึงค่อยย้อนคืนให้ยามไฟผลาญ
รู้ใช่ไหมใครทำลายรักแหลกราญ
ดวงวิญญานสิ้นสลายกลายเป็นจุล
11 เมษายน 2546 13:50 น.
อัลมิตรา
จงรู้ว่าทุกวันฉันเคียงข้าง
มิลาร้างลืมเลือนหรือเคลื่อนหาย
แม้สุดสิ้นดินฟ้ามามลาย
มิคลอนคลายยังคงมั่นในสัญญา
เพราะจุดหมายแตกต่างเหมือนทางแยก
ซึ่งผิดแผกเกินขจัดปัดปัญหา
แสร้งยิ้มชื่นกลืนกล้ำซ่อนน้ำตา
กล่าวอำลาทั้งที่ใจร่ำไห้ครวญ
ความเป็นจริงยิ่งกว่าคำย้ำเจ็บไหน
ต้องข่มใจห้ามจิตมิคิดหวน
ความทรงจำยังหลอกหลอนซ้อนให้รวน
เหมือนโซ่ตรวนยากตัดอนาถจริง
อยากจะจบเรื่องราวรักเรานี้
ยังยากที่กลบเกลื่อนเบือนทุกสิ่ง
ห้ามอย่างไร ? ..ใจเอ๋ยเคยพักพิง
ด้วยทุกสิ่งผูกมัด...รหัสใจ
10 เมษายน 2546 20:59 น.
อัลมิตรา
ทุกครั้งเมื่อฟ้าหมองฉันมองเหม่อ
ก็แค่เผลออาทรเพราะอ่อนไหว
สงสารฟ้าว่าหม่นเหตุผลใด
แอบร้องไห้กับฟ้าน้ำตานอง
บางครั้งอาจโอยสะอื้นอย่างขื่นขม
เหมือนทุกข์ตรมสาหัสอกกลัดหนอง
แท้มิใช่ใจนี้มีโศกครอง
บังเอิญมองใบไม้ปลิดใบโปรย
แค่คนที่อ่อนไหวเกินไปหน่อย
น้ำตาคอยจะไหลร่ำไห้โหย
เห็นฟ้าหม่นใบไม้ปวงลาร่วงโรย
ก็เศร้าโดยฉับพลันทุกวันมา
แต่เพราะฉันมิใช่คนใจน้อย
จึงไม่ปล่อยน้ำตาไหลอย่างไร้ค่า
กับเรื่องที่เธอย้ำเอ่ยคำลา
แค่หยดหนึ่งของน้ำตา...อย่าหวังเจอ
10 เมษายน 2546 12:57 น.
อัลมิตรา
อยู่ทะเลเหว่ว้าโหยหาเพื่อน
มิเคยเลือนดอกหนาคราร่วมฝัน
เคยเกี่ยวก้อยร้อยเรียงเคียงจำนรรค์
ร่วมสังสรรค์กลอนโคลงเชื่อมโยงใจ
โน่นก็ฟ้านั่นก็น้ำระกำจิต
ชีพหนึ่งนิดอยู่กะเรือเบื่อไฉน
เห็นริมฝั่งสักครั้งยังปลื้มใจ
วอนทรามวัยคอยก่อนอย่าห่อนลืม
เคยฝากคำลำนำก่อนลาจาก
เคยปะทะฝีปากฝากใจปลื้ม
เห็นฟ้าโน้มโลมทะเลเร่หยิบยืม
ยังดูดดื่มอรรถรสพจน์สองเรา
พระพายเอยเชยพัดสะบัดโบก
ดั่งข้าฯโศกเดียวดายคล้ายจิตเหงา
ล่องกลางน้ำพร่ำเพ้อละเมอเมา
แม้เพียงเงา ..ยังไขว่คว้า โอ้ว่า..ตรม
แหล่งที่มา : ทะเล
แรงบันดาลใจ : ทะเล
สรุป : ทะเล
10 เมษายน 2546 10:25 น.
อัลมิตรา
เพ่งเพ็ญงามยามคืนดังฝืนจิต
ให้ครุ่นคิดคำนึงรำพึงหวล
ถึงผู้หนึ่งซึ่งไกลหมายเย้ายวน
ยังอบอวลในคำเคยพร่ำวอน
ร่ายกวีอ้อนว่าคราพานพบ
ครั้นอิงซบกอดแนบดังแอบซ่อน
กลิ่นกายอุ่นหนุนตักมักอาวรณ์
กาลเก่าก่อนเราเคียงเป็นเยี่ยงเคย
แม้นผันคืนอื่นวันผูกพันอยู่
หมายให้รู้โฉมงาม...ดุจความเผย
แสนห่วงใยใช่หยอกเพื่อหลอกเชย
คำอ้างเอ่ยจากใจหมายแก้วตา
ยามราตรี...นี้จันทร์ตระหง่านงาม
ยังเรียงความร่ายกลอนดั่งย้อนว่า
เพื่อกล่อมน้องผ่องพรรณตราบวันลา
เพียงเพื่อคราเจ้าตื่นจักชื่นใจ
ปราศวิจิตรการพจน์ที่รจน์ร่ำ
แต่คงย้ำจิตถึงตราตรึงได้
แสงนวลจันทร์พรรณงามอร่ามใจ
แลพิไลดุจน้องงาม...ตามกิริยา
โอ้น้องน้อย...คล้อยหลับตราบคืนสิ้น
จงสมจินต์ตราบสางสว่างหล้า
มิฝันร้ายไหวหวาดดุจอาชญา
คราแจ้มจ้าเฉิดฉันท์ชื่นบานนัก
อีกยุงเหลือบลิ้นไรหมายลอบย้ำ
อันน้ำคำคนร้ายได้ประจักษ์
อื่นคำลวงท่วงทีดุจผีทัก
แม่น้องรักล่วงผ่านมิหวั่นทรวง
ให้หลับเถิดเฉิดโฉมประโลมหล้า
พี่มาหาในยามจันทร์งามห้วง
แล้วร่ายคำจำเรียงเผดียงปวง-
กวีท่วงเคียงเจ้าดั่งเฝ้ามอง
แม้นปราศตนจนจิตแนบชิดข้าง
แม่สำอางค์ยังเดียวดุจเกี่ยวข้อง
เปรียบมัสยาคู่นทีที่เกี่ยวดอง
ดุจฟ้าร้องเพรียกฝนระคนลม
ดุจภมรอ้อนมวลหอมหวลดอก-
บุปผาออกผลิแซมแง้มงามสม
ทิชากรล่อนฟ้าถลาชม
ดุจคารมพี่ร่ายหวังให้เพลิน
หากสิ้นคำฉ่ำหวานอันซ่านจิต
แม่จงคิดถึงคราวพี่เย้าเกริ่น
อันเพลงใดกล่อมให้มิใช่เมิน
หากล่วงเกิน...น้องเข้า...ขอกล่าววอน
กาพย์กานท์กล่อมย่อมเสมือนดังเตือนอยู่
หวังพธูน้องน้อยคล้อยคิดก่อน
ที่ห่างไกลใช่ว่ามิอาวรณ์
มิยอกย้อนแอบกลปนเล่ห์ใด
คราน้องตื่นชื่นใจหายโศกศัลย์
ยามรุ่งวันสราญแท้แม้เป็นได้
มุ่งกิจการงานดื่นระรื่นใจ
สิ่งฝันใฝ่บรรจบประสบพลัน
จงแย้มยิ้มพริ้มพราวทุกคราวที่
เผยวจีที่หวานอันหฤหรรษ์
มากไมตรีที่ใจได้แบ่งปัน
กี่คืนวันสรรค์สุข...ปราศทุกข์เอย ฯ