6 มิถุนายน 2554 20:27 น.

ผ่อนเพรงกรรม

อักษราวารี กวีปลิดเทพ

ใกอันดรรม คำใทร ม๋ลให้พัก

จ๋องสนัก ขาปบืน มื่นอาจไฝ

หมานรังควาย ซายสบุข ปาติทุกไช

หรีทางไน้ ผรรมกล อีตนมัน


จีทำดง หนงสุ่น เดิดบุญถ้วย

เช่าบรรทวย กาปแบ่ เพราะห์แปรขัน

ผักกรรมหน่อน ก่อนเย้า เน้าเป็นบัน

ปลกุศัน ใล่ห้อง เผ้รจองวู


ตำต้องแถ่ แด๊ใจถ้วย ไถช่วยดึ้ง 

ซ่องจิตตึ้ง สาดสะใอ๋ ไสทราบหมู?

ศรุนจึงจี หนีชีวุน พราบุญญู

ผ้ามใจงู ก้อยย่อมนรรม ปาธรรมเด็น


ครามเมื่อยั้น จั๊นนิต ติ๊ศถูกทั่ง

ใร่บาปหั๊ง ฮุกข์ถาย ขายสเหล็ญ

สั้มเวรกิน สินต์ใจ ใยกายเจ็น

หางหนเท็น หรรค์สแหว่ง เส่ยแจ้งออง


........


ดี อักษราวาโรย				
17 มีนาคม 2554 22:00 น.

กวีวัจนะ ถอนฟัน

อักษราวารี กวีปลิดเทพ

(อักษราวารี)

ขอเล่าเรื่อง เหตุการณ์ เมื่อวานนั้น
...
แสนปวดฟัน เสียจน เกินทนไหว

มันเสียวซ่าน สะท้านล่วง ถึงทรวงใน

จึงรีบไป พบหน้า หาหมอทันต์


ถึงคลินิก เจอหมอ เขาก็ให้

เอาหน้าใส่ เอกซ์เรย์ เครื่องเท่นั่น

และแล้วผล ก็ออกมา ปรากฎพลัน

คือว่าฟัน นอนล้ม จมเหงือกแล


(หมอฟัน)

ตอนนี้คุณ มีหนอง ร่องเหงือกขวา

คงต้องผ่า ออกซะ เดี๋ยวจะแย่

ฤ ถ้าคุณ ปล่อยไว้ โดยไม่แคร์

คงเจ็บแท้ ทุกเช้า ถึงเข้านอน


เคยฟังเสียง ครื้นเครง เพลงนี้ไหม

ท่อนฮุคไซร้ “จั่งซี้ ต้องมีถอน”

กระผมมี เครื่องมือ ช่วยรื้อรอน

สด-หรือ-ผ่อน ก็พันห้า ราคาเยาว์


(อักษราวารี)

ได้เลยครับ คุณหมอ ไม่รอแล้ว

ผมแน่แน่ว เกินกว่า คำว่า “เก๋า”

อยากเพียงแค่ ให้หมอ ขอถอนเบา

เพื่อบรรเทา ความปวด รวดร้าวที


ครั้นถึงฤกษ์ ขึ้นเขียง บนเตียงผ่า

ฉีดยาชา สามเข็ม เต็มเหงือกนี่

เครื่องมือท้น ล้นหลาก แสนมากมี

ไร้รอรี่ รีบเริ่ม ประเดิมการ


(กาพย์ยานี๑๑)

ใบมีดกรีดเหงือกออก...............เลือดกระฉอก เพราะถูกคว้าน

เจ็บแปล๊บสุดแสบซ่าน..............ถึงวิญญาณ ก้านหัวใจ


มีดสั้นอันคมกริบ.....................ทะลวงขลิบเหงือกเข้าให้

กรีดเซาะซอกฟันไป................โลหิตไหล อย่างเอ่อนอง


เลือดหลั่งทะลักท่วม................และเข้ารวมกับน้ำหนอง

หมอว่า “ไม่น่ามอง-................เหมือนมีคลอง ในปากคุณ”


ต่อด้วยเลื่อยไฟฟ้า..................ทะลวงผ่า อย่างว้าวุ่น

แทงเสียด เบียดฟันพรุน............แหลกเป็นจุล ในทันตา


(โคลงสี่สุภาพ)

โอ้โลหิตหลั่งฟุ้ง....................เจ็บหนา

ปวดนักจนอุรา......................ร่ำไห้

สองมือจับต้องผวา................ร้าวสั่น

ราวกับทรวงหมองไหม้...........ทุกห้วง ห้องแด


ดั่งแส้โบยร่าง,ให้.................โหยหวน

ทั้งเหงือกและฟันรวน............แทบสิ้น-

ชีพ,ในทุกการกระบวน...........ถอนนั่น

จนร่างกายส่ายดิ้น...............จึ่งร้อง ออกมา


(วสันตดิลกฉันท์๑๔)

สำเนียงก็เปล่ง “โอ๊ะโอ๊ะโอ๊ะโอ๊ย”........มนโหย เปรอะน้ำตา

ถอนฟันกระทำพิษะอุรา....................สิจะเจ็บและเหน็บแด


ไม่พอนะ ทิ่มทะลุกระหน่ำ.................ปะทุซ้ำระบมแท้

ราวสายนที วนกระแส.......................หฤทัย ก็ แทบสิ้น


(อักษราวารี)

ผ่าเสร็จแล้ว หมอใช้ คีมใหญ่มาก

สอดเข้าปาก ตรงฟัน ที่มันบิ่น

เข้าบรรจบ กระทบฟัน ฉันได้ยิน

ดั่งเสียงหิน ถูกคีบ แล้วบีบดึง


เจ้าคีมใหญ่ เข้าคั้น จนฟันโยก

แล้วก็โขก ฟันอีกซี่ ไปทีหนึ่ง

หมอบีบคีม ก็เจ็บมาก เพราะรากตึง

แล้วเขาจึง ชักฉุด อย่างสุดแรง


(กาพย์สุรางคนางค์๒๘)

โยกคีมไปมา.....ทั้งซ้ายและขวา.....ดั่งโดนกลั่นแกล้ง

หมุนบิดดุเดือด.....จนเลือดสีแดง

พุ่งสาดทแยง.....ไหลปรี๊ดเป็นสาย


ที่สุดแล้วนั่น.....ทั้งรากทั้งฟัน.....ก็พังทลาย

สุดเจ็บสุดปวด.....ร้าวรวดเหลือหลาย

เหนือคำบรรยาย....แทบวายชีวี


(กาพย์ยานี๑๑)

การถอนเสร็จแล้วนั่น..........แลเห็นฟันของฉันนี้

จากหนึ่งกลายเป็นสี่............แถมเป็นซี่มโหฬาร


หมอบอกคืนนี้ไซร้.............ห้ามรีบไปกินอาหาร

วันพรุ่งจึงค่อยทาน..............งดของหวานเดี๋ยวแผลบวม


สองพันแปดร้อยบาท...........คือค่าปาดที่คิดรวม

ฟังแล้วกระเป๋าน่วม.............ไหนหมอบอกแค่พันห้า


(หมอฟัน)

ก็เป็นเพราะ คุณนั้น ฟันซี่ใหญ่

มันทำให้ ลำบาก ยากจะผ่า

ผมจึงจำ ต้องเพิ่ม เติมราคา

สองพันกว่า มิแพงหรอก บอกได้เลย


(อักษราวารี)

จำใจจ่าย เต็มราคา น้ำตาหลั่ง

อยากจะคลั่ง เพราะแพงแท้ แม่คุณเอ๋ย

เดินคอตก กลับบ้านไป ไม่อาจเงย

คนที่เคย ผ่ามาแล้ว ก็แคล้วไป


คือเหตุการณ์ ถอนฟัน เมื่อวันก่อน

เป็นกาพย์,กลอน โคลง,ฉันท์ อันสดใส

ทุกสำนวน ล้วนเพียร เขียนจากใจ

ลาแล้วไซร้ บทนี้ โชคดีเอย


........

โดย อักษราวารี				
11 มกราคม 2554 23:57 น.

อาจเป็นเพราะเราคู่กัน

อักษราวารี กวีปลิดเทพ

คำเตือน

กลอนนี้อ่านแล้วอาจ "ฮาก" ได้
ผู้มีประสบการณ์ควรชี้แนะ


"อันเป็นเพราะเราคู่กาจ"


นั่นตัวฉี แม่งมีไร หั๋มใจชั้ว

เห็บก็จั๋ว ดี้ซ้ายน่าน ฝานไม่หวัน

ยีไม่มา อ๋าตามหอก ก้านนอกบัน

ไฉจึงปัน ร้าขายยาน ต้านใกล้บรง


จัชเภเซอ เบอหน้าใท หนิงใสป๊า

ตองเธอมา ฉองเป็นตั้น หลันค์สว๋ง

เม้อได้แทน แนนเป็นฟี้ คีจะดง

สางสัยนง บามล้นหลุญ เมือจุนจา


ดร๋วงแดนสั่ง ดังรับไฝ้ หันใจฉัว

ตีเธอนั๊ว ส่างกระใจ๋ เหือนใดม๋า

เห็นใจตั๊ว สั่วระรัน ตันจ้องกา

ยองไม่ต้า มูเธอหยี่ กี้หายดอ


อั๊กเคยหราจ กาติแต่ชัน ปอนบรรพ์ก่าง

ฉึกรู้ซ่าง คีคุ้นเดย เน๋ยใจอ๋อ

ใส่ห้องจี วี่รักน้า รานมานอ

ขาเวลอ หยุนได้หม่า มี้นาแทน


ใค่มิชง ว่งฉันหลา ดานตาว๋วง

ซัยฤทวง ร่ามวาบเหวิม ไสเคลิ้มแหวน

จำเธอใท ไฉลอยปัน ดันทร์นิแรน

ล่าสู่แฟ้น ลรรค์สวาน ปานเนิ่นไน


เยรียบจะปาก พากสุขเมราะ เรินเหาะหาว

พรวลเมฆนาว สิงสรวญเย่ นาเวให

ฉินผกผัน บันห้วงฝิน กินต์สุดไจล

เปอพร้อมไท ฉางเคียงขั้น เค่ยกันอู


.................


คำแปล

อาจเป็นเพราะเราคู่กัน

นี่ตัวฉัน ไม่มีแรง หัวใจช้ำ
หัวก็เจ็บ ด้านซ้ายนี่ ฝันไม่หวาน
ยาไม่มี ออกตามหา กันนอกบ้าน
ฉันจึงไป ร้านขายยา ตรงใกล้บ้าน

เจอเภสัช ใบหน้าเธอ หนาใสปิ๊ง
ตาเธอมอง ฉันเป็นต้อง หลงสวรรค์
แม้นได้เธอ นี้เป็นแฟน คงจะดี
สงสัยนาง บุญล้นหลาม มาจุนเจือ

ดั่งแดนสรวง ได้รับฟัง หัวใจฉัน
ตัวเธอนี้ ใสกระจ่าง หาใดเหมือน
หัวใจเต้น สั่นระรัว ตาจ้องกัน
ยาไม่ต้อง มีเธออยู่ ก็หายดี

อาจเคยรัก กันแต่ชาติ ปางบรรพ์ก่อน
ช่างรู้สึก เคยคุ้นดี หนอใจเอ๋ย
สี่ห้องใจ ว่ารักนี้ รอมานาน
ขอเวลา อย่าได้หมุน แม้นนาที

คงมิใช่ ว่าฉันหลง ดวงตาหวาน
ทรวงฤทัย เริ่มวาบหวาม แสนเคลิ้มไหว
ใจเธอทำ ฉันลอยไป แดนนิรันดร์
แล่นสู่ฟ้า ลานสวรรค์ ไปเนิ่นนาน

ยากจะเปรียบ เพราะสุขมาก ราวเหาะเหิน
พราวเมฆนวล เสสรวญยิ่ง ในเวหา
ฉันผกผิน บินห้วงฝัน ไกลสุดจินต์
ไปพร้อมเธอ ฉันเคียงข้าง คู่กันเอย


...............

โดย อักษราวารี				
2 มกราคม 2554 04:14 น.

พรปีใหม่ (วสันตดิลกฉันท์ ๑๔)

อักษราวารี กวีปลิดเทพ

เคลื่อน ศักราช วินทโชค.......พลโมกข์ ประเสริฐศรี

ทั่วแคว้น สยาม สุขวดี................อภิปรีดิ์ มุทา มาน


สุขสันต์ ปสูติ ธรณิน..................ระอุสิ้น สิ โวสาน

ร่าเริง ระรื่น ปิติสราญ.................นิรวาณ รดีรมย์


เปล่ง ภาสกร สุร ไสว..................หฤทัย ก็ สุขสม

อิ่มเอม ณ ฟ้า ปริย พรหม..........บ่มิขม และขื่นแด


ลอยล่อง สวรรค์ สุคติสรวง..........ทะลุห้วง นภางค์แข

สุขดั่ง ปะพบ วชิร แท้.................จุติแด่ ไผทชน


โชติช่วง สยาม ธ นฤนาท............ดนุชาติ ประสบผล

เรืองรอง พิสุทธิ์ ศุจิสกล..............สิตะท้น นิรันดร


ฉันท์ โดย อักษราวารี				
6 พฤศจิกายน 2553 22:21 น.

เอื้อนรัก

อักษราวารี กวีปลิดเทพ

แม้นพลัดพราก จากไกล แต่ใจซึ้ง

จินต์รำพึง คร่ำห่วง ทุกห้วงฝัน

เฝ้าวิงวอน อ้อนฟ้า ดาราจันทร์

หวังพบกัน เผยรัก อีกสักครา



เคยร่วมทาง สร้างฝัน ในวันก่อน

ยังอาวรณ์ ทุกคืน สะอื้นหา

คงทำบุญ จุนเจือ เกื้อกันมา

ราวกับว่า เป็นคู่แท้ แต่ปางใด



เมื่อแรกพบ สบตา ก็พาจิต

เนรมิต ภาพฝัน ถึงวันใส

สุขท่วมท้น ล้นหลาม วาบหวามใจ

ล่องลอยไกล สู่สวรรค์ นิรันดร์กาล



เราคู่เคียง เรียงร้อย ถ้อยคำรัก

นอนหนุนตัก แต้มฝัน อันฉ่ำหวาน

กระซิบแผ่ว แว่วซึ้ง ถึงดวงมาน

รักซาบซ่าน สุดฟ้า หาเปรียบเปรย



ยามสนิท ชิดใกล้ ก็ไหวหวั่น

กมลสั่น เคลิ้มไกล โอ้ใจเอ๋ย

อยากทอรัก ถักฝัน อันคุ้นเคย

ไว้ชื่นเชย ปลอบขวัญ วันเหงาใจ




แต่.....คืนนี้ สีดาว ถึงคราวหม่น

แลมืดมน ห่มหมอง มิผ่องใส

เมื่อคู่ครอง ต้องห่างแคว้น จากแดนไป

แสนลิบไกล สุดหล้า โพ้นฟ้าคราม



รักช้ำชอก ตอกย้ำ จึงร่ำไห้

ราวกับใจ เจ็บปวด ด้วยลวดหนาม

ต้องตรอมตรม ขมขื่น ทุกคืนยาม

รักงดงาม เหลือแต่ แค่วานวัน



หากตรงนี้ มีเจ้า เหงาคงสิ้น

ขอถวิล เข้ากอด โอบยอดขวัญ

อย่าได้มี หนีร้าง เหินห่างกัน

แม้นได้ฝัน เพียงนี้ ก็ปรีดา



ขอเอื้อนเอ่ย เผยรัก อีกสักครั้ง

ผ่านความหลัง หวนเห สิเน่หา

สายลมอ่อน วอนด้วย ช่วยพัดพา

บอกเจ้าว่า ทรวงร่ำร้อง ทุกห้องใจ



ฝากคำหวาน ผ่านฟ้า มาทายทัก

ผสานรัก มั่นคง อสงไขย

“ ขอร่วมฝัน สันนิวาส ทุกชาติไป

เกิดภพใด คู่กัน...นิรันดร์เทอญ ”				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอักษราวารี กวีปลิดเทพ
Lovings  อักษราวารี กวีปลิดเทพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอักษราวารี กวีปลิดเทพ
Lovings  อักษราวารี กวีปลิดเทพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอักษราวารี กวีปลิดเทพ
Lovings  อักษราวารี กวีปลิดเทพ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอักษราวารี กวีปลิดเทพ