27 พฤษภาคม 2550 18:39 น.
ออกญาลับแล
ภัยเอยภัยจากน้ำ นองดิน
ไหลหลั่งรดธรนินทร์ ถิ่นนี้
พลัดพรากจากชีวิน สุดชีพ สูญนา
ดั่งธรรมชาติชี้ แก่นแท้สัจธรรม
ชลเอยชลเนตรน้ำ นองเนือง
เสียงคร่ำครวญหวนเมือง ร่ำไห้
หทัยไทยหลั่งไหลเรือง ลงซับ สลดเฮย
อีกไม่นานจักได้ รุ่งด้าวดังเดิม
แด่ผู้ประสบอุทกภัยทุกที่เลยครับขอให้มีกำลังใจสู้ๆหน้าผนทุกปีก็มีคนเศร้าทุกปีคนไทยต้องช่วยกัน
ช่วยคอมเมนต์ด้วยนะครับเพิ่งหัดแต่งโคลง
27 พฤษภาคม 2550 13:38 น.
ออกญาลับแล
งามสวรรค์ชั้นฟ้าน่าเพ่งพิศ
ชั้นดุสิตฤาชั้นใดให้ไหลหลง
บานทวารลานแลพิจิตรบรรจง
เทพธิดามาอ่าองค์ทรงสคราญ
งามดวงพักตร์ขนงเนตรทั้งเกศเกล้า
ดูพริ้มเพราเพริศแพร้วเกินกล่าวขาน
เอวองค์อ่อนยามนวยนาตรบาดดวงมาลย์
สุดเปรียบปรานกับงามใดในธานี
เทพบุตรเทวาเทพารักษ์
แลดวงพักตร์เฉิดฉายพรายรังสี
ประกายเนตรคลับคล้ายประกายมณี
สง่าศรีเหมาะสมกับสุรางค์
commentกันด้วยนะครับไม่เพระแต่อยากแต่งครับ
26 พฤษภาคม 2550 19:27 น.
ออกญาลับแล
ใจสองใจเชื่อมโยงด้วยใยรัก
ที่ทอถักรักประสานรสหวานหอม
ใยเชื่อมใยเชื่อมใจไม่แปลกปลอม
ชมพูย้อมเป็นสีใยในใจเรา
เมื่อวันเปลี่ยนแปรไปใยเริ่มขาด
ใจถูกบาดเชือดเฉือนด้วยมือเขา
พิษแห่งรักถูกลอบวางกลางใจเรา
สุดแสนเศร้าเมื่อพิษแทรกชำแรกใจ
ติชมด้วยนะครับเพิ่งหัดแต่ง
25 พฤษภาคม 2550 20:23 น.
ออกญาลับแล
พิรุณพรมพร่างโพรยให้โหยหา
พระพายพาพัดโบกชวนโศกศัลย์
คืนมืดมิดไร้อ้อมกอดแห่งแสงจันทร์
ใจฉันหวั่นนึกถึงเธอเพ้อร่ำไป
25 พฤษภาคม 2550 20:20 น.
ออกญาลับแล
อยากจะบอกว่ารักสักเท่าฟ้า
หมดภาษาจะพิสูจน์พูดรักได้
ร้อยหมื่นคำพรรณนาภาษาใจ
แทนฤทัยที่รักมั่นนิรันดร